กล่องกับของข้างใน
สมัยที่ผมเรียนจบใหม่ๆ ผมได้รับแหวนทองวงเล็กๆ วงหนึ่งเป็นของขวัญ มันเป็นของที่มีค่าที่สุดที่ผมเคยได้รับที่สามารถใส่ไว้ในร่างกายได้ ผมดีใจที่ได้มันมาก แต่พบว่าผมนอนหลับไม่ค่อยสนิท บางที่ก็ตื่นขึ้นมาดูว่ามันยังอยู่ที่นิ้วของตัวเองไหม เวลาเดินในที่เปลี่ยวๆ ก็ซ่อนไว้ในกางเกงกลัวคนมาเห็นและจะมาขโมยมันไป จนในที่สุดผมทำมันหายไป ผมเสียใจอยู่หลายวัน แต่น่าแปลกหลังจากนั้นผมหลับสนิทไม่ตื่นขึ้นกลางดึกอีกเลย
ผมเคยได้ยินชื่อเพลงลูกทุ่งเพลงหนึ่งชื่อว่า “กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง” ชื่อของเพลงสะท้อนค่านิยมของคนในยุคปัจจุบันได้ดี เราแต่ละคนมุ่งมั่นหาความสำเร็จของชีวิต หาทรัพย์สินเงินทองมาใส่ให้เต็มกระเป๋า แต่พอได้มากขึ้น เราก็เปลี่ยนกระเป๋าให้ใหญ่ขึ้น เปลี่ยนกล่องใส่ทรัพย์สมบัติของเราให้สะสมได้มากขึ้น ของเต็มกล่องไม่ได้ถมจิตใจของมนุษย์ให้เต็มได้ เพราะเต็มแล้วเราก็หากล่องใหม่ที่ใหญ่ขึ้น พระคัมภีร์ลูกาบทที่ 10 ข้อ 17-19 พระเยซูคริสต์ตรัสอุปมาเรื่องของเศรษฐีที่เก็บพืชผลได้มาก ตอนหนึ่งพระองค์กล่าวถึงเศรษฐีว่า “เขาจึงคิดว่า ข้าจะทำอย่างนี้ คือจะรื้อยุ้งฉางของข้าและจะสร้างใหม่ให้ใหญ่โตขึ้น แล้วข้าจะรวมข้าวและสมบัติทั้งหมดของข้าไว้ที่นั่น” มนุษย์เราก็เป็นเช่นนี้เอง เราจะพยายามบรรจุสิ่งของ เงินทอง ให้จิตใจของเราอิ่มได้ แต่กล่องใบใหญ่แค่ไหนก็ทำให้เราพอใจได้จริงๆ เพราอะไรหรือครับ พระคัมภีร์ได้เฉลยให้เราฟังอย่างน่าสนใจว่า “พระองค์ทรงทำให้สรรพสิ่งงดงามตามวาระของมัน พระองค์ทรงบรรจุนิรันดร์กาลไว้ในจิตใจมนุษย์ด้วย แต่มนุษย์ยังค้นไม่พบว่าพระเจ้าได้กระทำอะไรไว้ตั้งแต่ปฐมกาลจนกาลสุดท้าย” (ปัญญาจารย์ 3:11)พระคำตอนนี้บอกความจริงแก่เราอย่างน้อยสามประการดังนี้
ประการแรก “สิ่งอนิจจังเติมไม่เต็มนิรันดร์กาลแห่งจิตใจ” ทุกสิ่งที่มนุษย์แสวงหามาได้ด้วยมือของตน ล้วนแล้วแต่มีวันหมดอายุ รถราคาแพงตำแหน่งใหญ่โต เงินในบันชีเจ็ดหลัก ของเหล่านี้มีวันเปลี่ยนมือ มีวันเสื่อมสลายไป ดังนั้นไม่ว่ามีมากเท่าไหร่ มันจึงสร้างความดีใจชั่วคราวให้แก่เราเท่านั้น ซ้ำร้ายมันยิ่งทำให้เราอยากได้อยากมีมากขึ้นอีก คนไข้ทางจิตเวชโรคจิตเภท(schizophremia) ที่เรามักจะคุ้นตาตามข้องถนนว่าเขาแต่งตัวมอมแมมไม่อาบน้ำ ถือถุงผ้าถุงพลาสติกพะรุงพะรัง ดูเหมือนมีแต่ขยะแต่ก็ไม่ยอมทิ้งอะไรชักอย่าง ผมเคยมีคนไข้ที่ดูแลป่วยเป็นโรคนี้ บ้านที่เขาอยู่จะเต็มไปด้วยขยะจำนวนมากและห้ามใครก็ตามนำของเหล่านี้ไปทิ้งแม้แต่ชิ้นเดียว แม้ว่ารถราคาแพง บ้านใหญ่หลังงาม เงินเป็นฟ่อน จะดูแตกต่างจากขยะที่คนป่วยเก็บทางจิตเก็บตามขยะ แต่สำหรับสายพระเนตรพระเจ้า มันคงไม่ต่างอะไรกันเลยจริงๆ นั่นเพราะเรามองข้ามความจริงไปว่ามีเพียงสิ่งที่เป็นนิรันดร์กาลเท่านั้นที่สามารถถมเต็มกล่องแห่งจิตใจเราได้
ประการต่อมา “สิ่งที่พระเจ้าสร้างไม่เหมือนสิ่งที่มนุษย์สร้าง” พระคัมภีร์กล่าวว่าพระเจ้าทรงกระทำให้สรรพสิ่งงดงามตามวาระของมัน ความงดงามเหล่านี้ผู้อ่านทราบหรือไม่ว่ามันช่วยบำบัดจิตใจของมนุษย์ได้ การดูแลผู้ป่วยโรคเครียดและนอนไม่หลับนั้น เราพบมากที่เมืองใหญ่ ในโลกนั่นก็เพราะคนจำนวนมากขังตัวเองอยู่ในห้องแคบๆ นั่งทำงานในพาร์ติชั่นแคบๆ มองท้องฟ้าผ่านช่องตึกสูงๆ ขึ้นระเกะระกะ การทำงานในสถานการณ์แบบนี้นานๆ สร้างความเครียดได้ง่าย คนป่วยที่ผมดูแลบางคนนอนในห้องขนาด 2×2 เมตรเท่านั้น ซ้ำร้ายมีประตูแต่ไม่มีหน้าต่าง ต้องยืนทำงานอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมแปดชั่วโมงในพื้นที่เล็กยิ่งกว่าที่นอนอีก พอวันหยุดก็ไปเดินห้างสรรพสินค้าที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน อยากเห็นต้นไม่ก็ไปสวนสาธารณะ ชีวิตคนเมืองจึงเป็นปัจจัยที่ทำให้เราเครียดง่ายขึ้น ต่างจากช่วงปีใหม่ที่ผมมีโอกาสไปเป็นวิทยากรที่อำเภอแม่แจ่ม พี่น้องปากะญอที่นั่นส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร บ้านทุกคนมีไร่ มีนา ไม่มีรั้วกั้นระหว่างกันมากหนัก เวลาขับรถไปทำงานด้านซ้ายก็เป็นภูเขาที่มีแต่ทะเลหมอก ท้องกว้างสุดลูกหูลูกตา แม้เนื้องานจะเครียด แต่สภาพแวดล้อมช่วยเกื้อกูลจิตใจอย่างมาก นักจิตวิทยาเองก็มีวิธีบำบัดรักษาที่เรียกว่า “สิ่งแวดล้อมบำบัด” เหมือนกัน ผมจึงสรุปได้ว่า มนุษย์ซึ่งเป็นการทรงสร้างของพระเจ้า จะมีจิตใจที่ปลอดโปล่ง มีพลัง เมื่อเราได้อยู่ท่ามกลางสิ่งทรงสร้างทะเลหรือภูเขา และเราจะตรึงเครียดได้ง่ายเมื่ออยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมปิดที่แออัดไปด้วยสิ่งที่มนุษย์สร้าง
ประการสุดท้าย “จงแสวงหาแผนการของพระเจ้า” พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า “แต่มนุษย์ยังค้นไม่พบว่า พระเจ้าทรงกระทำอะไรไว้ตั้งแต่ปฐมกาลจนกาลสุดท้าย” มนุษย์เราทุกคนเมื่อเติบโตถึงระดับหนึ่ง เราจะได้ยินเสียงในใจของเราให้ออกไปค้นหาบางสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิต บ้างก็เชื่อว่าคือ ความรักหนุ่มสาว บ้างก็เชื่อว่าคือการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน บ้างก็เชื่อว่าเป็นการแสวงหาอุดมการณ์ทางด้านการเมือง พระคัมภีร์บอกไว้ชัดว่า มนุษย์พยายามค้นหาแล้วแต่เขายังค้นไม่พบ พระคำของพระเจ้ายังบอกเราอีกด้วยว่าสิ่งที่เราตามหานั้นแท้จริงก็คือ “แผนการของพระเจ้า” พระคัมภีร์ใช้คำว่าสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำตั้งแต่ปฐมกาลจนกาลสุดท้าย ซึ่งก็คือวิวรณ์ เพื่อผู้ที่แสวงหาผ่านพระวจนะพระเจ้าจะค้นพบความจริง เมื่อพระเจ้าทรงสำแดงแก่เขา แปลกใจตัวเองไหมครับ คนมากมายพยายามหาหนังสือที่บันทึกความหลับของชีวิตบนแผงหนังสือ หนังสือเหล่านั้นแม้จะเขียนดีสักเท่าไหร่ก็เขียนโดยมนุษย์ทั้งสิ้น มันอาจช่วยให้เราขยับเท้าหรือหันหน้าไปตามอดุการณ์ของผู้เขียนคนนั้นๆ แต่พระคัมภีร์บันทึกเพียงความจริง และแผนการของพระเจ้า ถ้าเราค้นหาโดยพึงพาพระเจ้าผู้ประพันธ์ เราจะค้นพบจุดหมายของชีวิตที่แท้จริงอย่างแน่นอน
ไม่มีกล่องอะไรที่มนุษย์สร้างขึ้นสามารถบรรจุสิ่งที่เป็นนิรันดร์กาล สิ่งที่เป็นฝ่ายจิตวิญญาณได้ เหมือนๆ กับที่จิตใจของมนุษย์ซึ่งพระเจ้าทรงสร้างตามพระฉายาของพระองค์ ก็ไม่สามารถถูกถมให้เต็มด้วยการครอบครองทรัพย์สมบัติ เกียรติยศชื่อเสียง หรืออนุสาวรีย์ใดๆ ไม่ว่าเราจะสะสมหรือมีมากเท่าไหร่ เราก็จะแสวงหาไม่มีวันจบสิ้น จนกว่าเราจะพบความจริงว่าจิตใจที่ถูกบรรจุไว้ด้วยนิรันดร์กาลนั้น จะพอใจกับสิ่งที่เป็นฝ่ายจิตวิญญาณเท่านั้น คนจึงต้องการพระเจ้า และการนมัสการพระองค์จึงเติมเต็มจิตใจเราได้อย่างแท้จริง พี่น้องผู้อ่านที่รัก หากวันนี้ท่านกำลังรู้สึกเหน็ดเหนื่อย เครียด หรือกำลังแสวงหาความจริงของชีวิต ผมขอยืนยันว่าเราไม่อาจหาพบได้ในรูปแบบที่มนุษย์สร้างขึ้นได้ แต่เราจะพบเมื่อเปิดใจให้พระเจ้าเข้ามามีส่วนในชีวิตของเรา
ความรู้ ทรัพย์สินเงินทอง ที่เราใช้เวลาร่ำเรียนและสะสมขึ้นมานั้นเป็นเพียงเครื่องมือ และทุนแห่งชีวิต ที่เราสามารถใช้แสวงหาสิ่งที่ยอดเยี่ยมกว่า ขอเชิญชวนให้ท่านหนีออกจากเมืองที่อึดอัดสักพัก ไปมองหาการทรงสร้างของพระเจ้า มองหาทะเล มหาสมุทร ภูเขา ม่อน หรือดอย ภาพเขียนสวยงามที่มนุษย์สร้างขึ้นเปรียบเทียบอะไรได้กับสิ่งที่พระเจ้าสร้างหรือไม่ หยิบพระคัมภีร์ติดตัวท่านไปด้วย เปิดใจ อธิษฐานขอปัญญาจากพระเจ้าผู้ประพันธ์ ผมเชื่อว่าท่านจะพบว่ากล่องในจิตใจขิงท่านเริ่มเอ่อท่วมท้นขึ้นมาทีละน้อย ขอพระเจ้าอวยพรให้หัวใจของท่านค้นพบและเต็มล้นจนอิ่มเอิบความสุขที่แท้จริง เพราะพระเจ้าตรัสว่า “เรามอบสันติสุขไว้กับท่าน สันติสุขของเราที่ให้กับท่านนั้น เราไม่ได้ให้อย่างที่โลกให้ อย่าให้ใจของท่านเป็นทุกข์ อย่ากลัวเลย” (ยอห์น 14:27) ขอพระเจ้าอวยพรครับ
- อาจารย์วิทยา วุฒิไกรเกรียง
- ภาพ Zavalishina – Freepik.com