การแต่งงาน

ทำไมการแต่งงานจึงเป็นสิ่งพิเศษ?

ปฐมกาล 2:18
พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ตรัส​ว่า “การ​ที่​ชาย​ผู้​นี้​จะ​อยู่​แต่​ลำพัง​นั้น​ไม่​ดี เรา​จะ​สร้าง​คู่​อุปถัมภ์​ที่​เหมาะสมกับ​เขา​ขึ้น”
ปฐมกาล 2:22-24
ส่วน​กระดูก​ซี่โครง​ที่​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ได้​ทรง​ชัก​ออก​จาก​ชาย​นั้น พระองค์​ทรง​สร้าง​ให้​เป็น​หญิง แล้ว​ทรง​นำ​มา​ให้​ชาย​นั้น ชาย​นั้น​จึง​ว่า “นี่แหละ กระดูก​จาก​กระดูก​ของ​เรา เนื้อ​จาก​เนื้อ​ของ​เรา จะ​เรียก​คน​นี้​ว่า​หญิง เพราะ​คน​นี้​ออก​มา​จาก​ชาย” เพราะ​เหตุนั้น​ผู้ชาย​จะ​ละ​จาก​บิดา​มารดา​ของ​เขา​ไป​ผูกพัน​อยู่​กับ​ภรรยา และ​เขา​ทั้งสอง​จะ​เป็น​เนื้อ​เดียว​กัน
สุภาษิต 5:18-19
จงให้น้ำพุของเจ้าได้รับพร และจงเปรมปรีดิ์อยู่กับภรรยาคนที่เจ้าได้เมื่อหนุ่มนั้น เหมือนนางกวางที่น่ารัก และเหมือนแม่เลียงผาที่งามสง่า จงให้ถันของภรรยาเจ้าเป็นที่หนำใจเจ้าอยู่ทุกเวลา
สุภาษิต 18:22
ใครพบภรรยาก็พบของดี และได้ความโปรดปรานจากพระยาห์เวห์
เอเฟซัส 5:31-32
เพราะเหตุนี้เอง ผู้ชายจะละบิดามารดาไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน ความล้ำลึกในเรื่องนี้สำคัญ และข้าพเจ้าเข้าใจว่าหมายถึงพระคริสต์และคริสตจักร


อะไรทำให้การแต่งงานเป็นที่ยอมรับของพระเจ้า?

ปฐมกาล 2:24
เพราะ​เหตุนั้น​ผู้ชาย​จะ​ละ​จาก​บิดา​มารดา​ของ​เขา​ไป​ผูกพัน​อยู่​กับ​ภรรยา และ​เขา​ทั้งสอง​จะ​เป็น​เนื้อ​เดียว​กัน
โยชูวา 24:15
“…และถ้าท่านไม่เต็มใจที่จะปรนนิบัติพระเจ้า ท่านทั้งหลายจงเลือกเสียในวันนี้ว่าท่านจะปรนนิบัติผู้ใด จะปรนนิบัติพระซึ่งบรรพบุรุษของท่านปรนนิบัติอยู่ในท้องถิ่นฟากตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติส หรือของคนอาโมไรต์ในแผ่นดินซึ่งท่านอาศัยอยู่ แต่ส่วนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้า เราจะปรนนิบัติพระเจ้า”
เพลงซาโลมอน 8:7
น้ำมากหลายไม่อาจดับความรักให้มอดเสียได้ หรืออุทกธารทั้งหลายไม่อาจท่วมความรักให้สำลักตายเสียได้ แม้ว่าคนใดจะเอาทรัพย์สมบัติในเหย้าเรือนของตนทั้งสิ้น มาแลกกับความรักนั้น คนนั้นคงได้รับความหมิ่นประมาทจากคนทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง
1 โครินธ์ 7:2-4
แต่เพราะเหตุการล่วงประเวณี ผู้ชายแต่ละคนควรมีภรรยาเป็นของตน และผู้หญิงแต่ละคนควรมีสามีเป็นของตน สามีพึงสัมพันธ์กับภรรยาตามควร และภรรยาก็พึงสัมพันธ์กับสามีตามควรเช่นเดียวกัน ภรรยาไม่มีอำนาจเหนือร่างกายของตน แต่สามีมีอำนาจเหนือร่างกายของภรรยา ทำนองเดียวกันสามีไม่มีอำนาจเหนือร่างกายของตน แต่ภรรยามีอำนาจเหนือร่างกายของสามี
1 โครินธ์ 7:10-11
ส่วนคนที่แต่งงานแล้ว ข้าพเจ้าขอสั่ง ไม่ใช่ข้าพเจ้าสั่งเอง แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาว่า อย่าให้ภรรยาแยกจากสามี แต่ถ้านางแยกจากสามีแล้ว ก็อย่าให้นางแต่งงานใหม่ หรือไม่ก็ให้นางคืนดีกับสามี และอย่าให้สามีหย่าภรรยาเลย
2 โครินธ์ 6:14
อย่าเข้าเทียมแอกกับคนที่ไม่เชื่อ เพราะว่าความชอบธรรมจะมีส่วนอะไรกับความอธรรม? และความสว่างจะมีส่วนกับความมืดได้อย่างไร?


ฉันควรจะดูแลคู่ชีวิตของฉันอย่างไร?

มัทธิว 19:6
“…ด้วยเหตุนี้เขาทั้งสองจึงไม่เป็นสองต่อไป แต่เป็นเนื้ออันเดียวกัน เพราะฉะนั้นสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงผูกพันกันแล้ว อย่าให้มนุษย์ทำให้พรากจากกันเลย”
มาระโก 10:9
“…เพราะฉะนั้นสิ่งที่พระเจ้าทรงผูกพันกันแล้ว อย่าให้มนุษย์พรากออกจากกันเลย”
โรม 15:5-6
ขอพระเจ้าผู้เป็นแหล่งความทรหดอดทนและการหนุนใจ ทรงช่วยให้ท่านทั้งหลายเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันโดยพระเยซูคริสต์ เพื่อท่านจะได้พร้อมใจกันสรรเสริญพระเจ้า ผู้ทรงเป็นพระบิดาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
1 โครินธ์ 7:3
สามีพึงสัมพันธ์กับภรรยาตามควร และภรรยาก็พึงสัมพันธ์กับสามีตามควรเช่นเดียวกัน
1 โครินธ์ 7:4-5
ภรรยาไม่มีอำนาจเหนือร่างกายของตน แต่สามีมีอำนาจเหนือร่างกายของภรรยา ทำนองเดียวกันสามีไม่มีอำนาจเหนือร่างกายของตน แต่ภรรยามีอำนาจเหนือร่างกายของสามี อย่าปฏิเสธความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาเว้นแต่ได้ตกลงกันเป็นการชั่วคราว เพื่ออุทิศตัวในการอธิษฐาน แล้วจึงค่อยมามีความสัมพันธ์กันอีก เพื่อไม่ให้ซาตานล่อลวงให้ทำผิดเพราะตัวอดไม่ได้
เอเฟซัส 5:21
จงยอมเชื่อฟังกันและกันเนื่องด้วยความยำเกรงพระคริสต์
เอเฟซัส 5:33
อย่างไรก็ดี พวกท่านแต่ละคนจงรักภรรยาของตนเหมือนรักตัวเอง และภรรยาก็จงยำเกรงสามี
โคโลสี 3:14
แล้วจงสวมความรักทับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ความรักผูกพันทุกสิ่งไว้อย่างสมบูรณ์
ยากอบ 5:16
เพราะฉะนั้นท่านจงสารภาพบาปต่อกันและกัน และจงอธิษฐานเผื่อกันและกัน เพื่อท่านทั้งหลายจะได้รับการรักษาโรค คำวิงวอนของผู้ชอบธรรมนั้นมีพลังมากและเกิดผล


ผู้ชายจะรักภรรยาของตนอย่างสุดใจได้อย่างไร?

1 โครินธ์ 7:11
แต่ถ้านางแยกจากสามีแล้ว ก็อย่าให้นางแต่งงานใหม่ หรือไม่ก็ให้นางคืนดีกับสามี และอย่าให้สามีหย่าภรรยาเลย
เอเฟซัส 5:23
เพราะว่าสามีเป็นศีรษะของภรรยา เหมือนพระคริสต์ทรงเป็นศีรษะของคริสตจักรซึ่งเป็นพระกายของพระองค์ โดยพระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด
เอเฟซัส 5:25-26
ส่วนสามีก็จงรักภรรยาของตน เหมือนพระคริสต์ทรงรักคริสต-จักร และประทานพระองค์เองเพื่อคริสตจักร เพื่อจะทำให้ คริสตจักรบริสุทธิ์โดยการชำระด้วยน้ำและพระวจนะ
เอเฟซัส 5:28-29
ในทำนองเดียวกัน สามีต้องรักภรรยาของตนเหมือนรักร่างกายของตัวเอง คนที่รักภรรยาของตัวเองก็รักตัวเองด้วย เพราะว่าไม่มีใครเกลียดชังกายของตนเอง มีแต่เลี้ยงดูและทะนุถนอม เหมือนที่พระคริสต์ทรงทำแก่คริสตจักร
โคโลสี 3:19
สามีทั้งหลายจงรักภรรยาของตน และอย่าทำรุนแรงต่อพวกนาง
1 เปโตร 3:7
พวกท่านที่เป็นสามีก็เช่นกัน จงอยู่กินกับภรรยาด้วยความเข้าใจ ในฐานะที่เธอเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า และจงให้เกียรติเธอในฐานะที่เป็นทายาทร่วมรับชีวิตอันเป็นพระคุณ เพื่อคำอธิษฐานของพวกท่านจะไม่ถูกขัดขวาง


ฉันจะเป็นสามีที่ดีได้อย่างไร?

อพยพ 20:17
“ห้าม​โลภ​บ้าน​เรือน​ของ​เพื่อน​บ้าน ห้าม​โลภ​ภรรยา​ของ​เพื่อน​บ้าน หรือ​ทาส​ทาสี​ของ​เขา หรือ​โค ลา​ของ​เขา หรือ​สิ่ง​ใดๆ ​ซึ่ง​เป็น​ของ​ของ​เพื่อน​บ้าน”
สุภาษิต 5:15-17
จงดื่มน้ำจากถังเก็บน้ำของเจ้า ดื่มน้ำไหลจากบ่อของเจ้าเอง ควรหรือที่จะให้น้ำพุของเจ้าไหลเพรื่อออกไปนอกบ้าน และให้ธารน้ำนั้นไหลไปที่ลานเมือง จงให้มันเป็นของเจ้าแต่ผู้เดียว และไม่ใช่สำหรับคนแปลกหน้าด้วย
สุภาษิต 5:18
จงให้น้ำพุของเจ้าได้รับพร และจงเปรมปรีดิ์อยู่กับภรรยาคนที่เจ้าได้เมื่อหนุ่มนั้น
สุภาษิต 31:28-29
ลูกๆ ของเธอตื่นขึ้นมาก็ชมเชยเธอ สามีของเธอก็สรรเสริญเธอว่า “สตรีมากมายทำได้ดีเลิศ แต่เธอเลิศยิ่งกว่าเขาทั้งหมด”
ปัญญาจารย์ 9:9
เจ้าจงอยู่กินด้วยความชื่นชมยินดีกับภรรยาซึ่งเจ้ารักตลอดชีวิตอนิจจังของเจ้า ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่เจ้าภายใต้ดวงอาทิตย์ ตลอดปีเดือนอนิจจังของเจ้า ด้วยว่านั่นเป็นส่วนในชีวิตและในการงานของเจ้า ซึ่งเจ้าได้ออกแรงกระทำภายใต้ดวงอาทิตย์
มาลาคี 2:15
แต่ไม่มีสักคนหนึ่งที่มีสติจะกระทำอย่างนี้ ผู้มีสตินั้นย่อมประสงค์สิ่งใด ย่อมประสงค์ลูกหลานที่เชื่อฟังพระเจ้า ดังนั้นจงระวังตัวให้ดี อย่าให้ผู้ใดทรยศต่อภรรยาคนที่ได้เมื่อหนุ่มนั้น
เอเฟซัส 5:25-26
ส่วนสามีก็จงรักภรรยาของตน เหมือนพระคริสต์ทรงรักคริสต-จักร และประทานพระองค์เองเพื่อคริสตจักร เพื่อจะทำให้ คริสตจักรบริสุทธิ์โดยการชำระด้วยน้ำและพระวจนะ
โคโลสี 3:19
สามีทั้งหลายจงรักภรรยาของตน และอย่าทำรุนแรงต่อพวกนาง


ผู้หญิงจะรักสามีของตนอย่างสุดใจได้อย่างไร?

ปฐมกาล 2:18
พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ตรัส​ว่า “การ​ที่​ชาย​ผู้​นี้​จะ​อยู่​แต่​ลำพัง​นั้น​ไม่​ดี เรา​จะ​สร้าง​คู่​อุปถัมภ์​ที่​เหมาะสมกับ​เขา​ขึ้น”
1 โครินธ์ 7:10
ส่วนคนที่แต่งงานแล้ว ข้าพเจ้าขอสั่ง ไม่ใช่ข้าพเจ้าสั่งเอง แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาว่า อย่าให้ภรรยาแยกจากสามี
เอเฟซัส 5:33
อย่างไรก็ดี พวกท่านแต่ละคนจงรักภรรยาของตนเหมือนรักตัวเอง และภรรยาก็จงยำเกรงสามี
ทิตัส 2:4
เพื่ออบรมหญิงสาวให้รักสามีและบุตรของพวกตน
ทิตัส 2:5
มีสติสัมปชัญญะ เป็นคนบริสุทธิ์ ดูแลบ้านเรือนอย่างดี มีความเมตตาและเชื่อฟังสามีของตน เพื่อว่าพระวจนะของพระเจ้าจะไม่ถูกดูหมิ่น
1 เปโตร 3:1-2
ส่วนพวกท่านที่เป็นภรรยาก็เช่นกัน จงยอมเชื่อฟังสามีของตน เพื่อว่าแม้สามีบางคนไม่เชื่อพระวจนะ แต่ความประพฤติของภรรยาก็อาจจะจูงใจพวกเขาให้เชื่อได้ โดยไม่ต้องพูดเลยสักคำเดียว คือเมื่อพวกเขาได้เห็นความประพฤติที่นอบน้อมและบริสุทธิ์ของพวกท่าน


ฉันจะเป็นภรรยาที่ดีได้อย่างไร?

สุภาษิต 10:16
ค่าจ้างของคนชอบธรรมคือชีวิต แต่ค่าตอบแทนของคนอธรรมคือการลงโทษ
สุภาษิต 12:4
ภรรยาที่เลิศประเสริฐเป็นมงกุฎของสามีตน แต่นางผู้นำความอับอายมาก็เหมือนความเน่าเปื่อยในกระดูกสามี
สุภาษิต 19:14
บ้านกับทรัพย์สมบัติเป็นมรดกมาจากบิดา แต่ภรรยาที่ฉลาดมาจากพระยาห์เวห์
สุภาษิต 31:11
สามีของเธอก็ไว้ใจเธอ และเขาจะไม่ขาดประโยชน์ใดๆ
สุภาษิต 31:13
เธอแสวงหาขนแกะและป่าน และทำงานด้วยมืออย่างเต็มใจ
สุภาษิต 31:27
เธอดูแลความเป็นอยู่ในครอบครัวอย่างดี และไม่เคยเกียจคร้าน
สุภาษิต 31:30
เสน่ห์เป็นของหลอกลวง และความงามก็ไม่จีรัง แต่สตรีที่ ยำเกรงพระยาห์เวห์ สมควรได้รับคำสรรเสริญ
ทิตัส 2:5
มีสติสัมปชัญญะ เป็นคนบริสุทธิ์ ดูแลบ้านเรือนอย่างดี มีความเมตตาและเชื่อฟังสามีของตน เพื่อว่าพระวจนะของพระเจ้าจะไม่ถูกดูหมิ่น


มหัศจรรย์แห่งพระสัญญา ปกมี 2 สีให้เลือก

.
รวบรวมหัวข้อปัญหาต่างๆ ที่พบในชีวิตประจำวัน… พร้อมคำตอบที่เหมาะสมจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ซึ่งเป็นคู่มือชีวิตที่สำคัญ ที่จะช่วยให้ คุณได้รับกำลัง และพบทางออกที่พระเจ้าจัดเตรียมให้ จึงเป็นคู่มืออย่างดี สำหรับผู้ที่ต้องการรับคำหนุนใจ หรือผู้ที่ต้องกล่าวหนุนใจผู้อื่น เช่น ศิษยาภิบาล ผู้รับใช้ ผู้ปกครอง พี่เลี้ยงฝ่ายจิต-วิญญาณ และคริสตชนทั่วไป รูปเล่มกะทัดรัด พกพาสะดวก
รหัสสินค้า 9786163391551 ปกไวนิล สีแดง
รหัสสินค้า 9786163391558 ปกไวนิล สีเขียว
ราคาเล่มละ 150 บาท