“…ขอพระองค์โปรดอธิบายให้ข้าพระองค์ทั้งหลายเข้าใจอุปมา…” มัทธิว 13:36
เรามักจะคิดว่า พระเยซูเจ้าทรงใช้นิทานเปรียบเทียบในการเทศน์สอนของพระองค์ เพราะมันเป็นสิ่งที่ช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องอธิบายมากนัก ที่เราคิดดังนี้ อานเป็นเพราะเราได้ยินนิทานเปรียบเทียบนี้บ่อยๆ สำหรับสานุศิษย์ของพระคริสต์เจ้าและผู้ที่รับฟังพระองค์เป็นครั้งแรก แม้พระองค์จะทรงให้คำเปรียบเทียบที่พวกเขาคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน แต่บางครั้งพวกเขาก็ไม่สามารถเข้าใจได้ เมื่อได้ยินเป็นครั้งแรก
พระวรสารที่เรานำมาพิจารณานี้ เป็นพระวรสารช่วงที่พระเยซูเจ้าทรงเล่านิทานเปรียบเทียบหลายเรื่อง โดยมิได้ทรงอธิบาย และดูเหมือนว่าพวกสาวกมิได้เข้าใจ พวกเขาลืมหมดทุกอย่างหรือ? หรือว่าเป็นเรื่องที่พวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้ มีอะไรพิเศษไหมที่พวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้? พระเยซูเจ้าทรงอธิบายถึงความหมายให้พวกเขาฟังด้วยความเพียรทน เหตุว่าถ้าพวกเขาเองไม่เข้าใจ พวกเขาก็จะไม่สามารถช่วยผู้อื่นให้เข้าใจได้
พระเยซูเจ้าตรัสว่า เมล็ดที่ดีก็คือบรรดาสานุศิษย์ของพระองค์ที่อยู่ทั่วโลก พวกเขาเจริญชีวิตที่ห้อมล้อมไปด้วยความชั่วช้า ดังเช่นพวกสาวก เราจะเมินเฉยต่อความชั่วช้าทั้งหลายนี้ไม่ได้พระอาณาจักรของพระเจ้าประกอบด้วยนักบุญและคนบาป พระเจ้าทรงปล่อยให้ความดีและความชั่วอยู่เคียงข้างกัน ในด้านเกษตรต้นหญ้าไม่สามารถผลิตเมล็ดข้าวได้ ตามแนวพระวรสารผู้ที่ไม่ผลิตผลอาจเปลี่ยนแปลงได้ สิ่งที่ดูเมหือนว่าเป็นต้นหญ้าธรรมดา อาจเริ่มผลิดอกออกผลได้ในวันต่อมา พระเจ้าทรงปรารถนาให้คนชั่วเปลี่ยนแปลงและไม่เป็นคนชั่ว ตลอดไป แต่พระองค์มิได้ทรงบังคับการเปลี่ยนแปลง พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยความพากเพียรและอดทน ก่อนที่จะมีการแบ่งแยกครั้งสุดท้าย ในวันนี้มีอะไรบ้างที่ฉันสามารถทำได้เพื่อให้โลกเป็นที่ที่ดีกว่านี้?
บทอธิษฐานภาวนา
ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ประทานพระพรแห่งเสรีภาพฝ่ายจิตวิญญาณแก่ลูก พระองค์ทรงกระทำกับลูกด้วยความระมัดระวัง และทรงเคารพเสรีภาพที่ประทานให้แก่ลูก พระองค์ทรงปล่อยให้ลูกทำผิดแต่พระองค์ก็มิได้ทรงถอยห่างไปจากลูก โปรดประทานหูที่พร้อมเสมอที่จะรับฟังพระวาจาของพระองค์ และให้ลูกมีหัวใจที่จะนำไปปฏิบัติด้วยเทอญ อาแมน