มีคนตัดไม้คนหนึ่งนำฟืนไปขายให้แก่ร้านขายฟืน ซึ่งร้านขายฟืนก็ปฏิบัติต่อคนตัดไม้ดีมาก ดังนั้นคนตัดไม้จึงคิดอยากตอบแทนโดยการจะตัดไม้ให้ได้เป็นจำนวนมากๆ ในวันแรกคนตัดไม้ตัดไม้ได้ 20 ต้น แล้วนำมาให้ร้านขายฟืนซึ่งร้านขายฟืนก็ชมเชยและปฏิบัติต่อคนตัดไม้อย่างดี แต่พอในวันที่ 2 คนตัดไม้ก็ตั้งใจจะตัดให้ได้มากขึ้น แต่ปรากฏว่ากลับตัดได้เพียง 18 ต้น ในวันรุ่งขึ้นก็กะว่าจะตัดให้ได้มากยิ่งขึ้น แต่ก็กลับเหลือ 16 ต้น ยิ่งนับวันผ่านไปเรื่อยๆ ก็ตัดได้น้อยลงเรื่อยๆ จนในที่สุดคนตัดไม้ก็รู้สึกละอายใจจึงไปกล่าวคำขอโทษกับทางร้านขายฟืน แต่เจ้าของร้านขายฟืนก็กลับถาม คนตัดไม้ว่า “คุณลับขวานครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่” คนตัดไม้ ตอบว่า “ผมไม่มีเวลาหยุดลับขวานเลย เพราะขนาด ไม่หยุด ยังตัดไม้ได้น้อยขนาดนี้” ซึ่งเจ้าของร้านก็บอกแก่คนตัดไม้ว่า “คุณลองคิดดูสิว่าหากคุณหยุดลับขวานให้คมโดยเสียเวลาเพียงเล็กน้อย คุณอาจตัดไม้ได้มากกว่านี้ก็ได้ เปรียบได้กับการทำงาน ถ้าคุณก้มหน้าก้มตาทำโดยไม่หยุดพักหยุดคิด ก็เปรียบได้กับคนตัดไม้ คุณก็จะช้าลงไปเรื่อยๆ” (ข้อคิด) ชีวิตในการรับใช้พระเจ้าของคริสตชนก็เช่นกัน ถ้าเรามัวแต่รับใช้ไม่ว่างานอะไรเข้ามาทำหมด แต่ไม่มีเวลาที่จะ
เข้าเฝ้าพระเจ้า อ่านพระคัมภีร์ซึ่งเป็นพระวจนะของพระเจ้า จิตวิญญาณของคุณจะเหมือนขวาน ที่ไม่ได้ลับ มันจะทื่อ และทำงานได้ช้าลง คุณภาพลดลงเรื่อยๆ ต้องจัดเวลาที่เข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยการอ่านพระวจนะของพระองค์ เพื่อคุณจะสามารถฟื้นฟู วิญญาณจิตของคุณให้เข้มแข็ง ก้าวทุกก้าวไปกับ พระวจนะของพระองค์ทุกๆวัน ขอขอบคุณ คุณศุภกร ศรีหนันท์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ สมาคมฯ ที่ได้นำเรื่องนี้มาจาก Web Site ที่ชื่อว่า www.thaimate.com และได้แบ่งปันให้เราได้ข้อคิด จากเรื่องราว
Thailand Bible Society