คำชี้แจงจากสมาคมฯ เรื่องพระนามพระเจ้า
สืบเนื่องมาจากในเวลานี้มีคริสตจักรหลายแห่งถูกเผาในประเทศมาเลเซีย เพราะความเข้าใจผิดของชาวมุสลิมกลุ่มหนึ่งว่า คำว่า “อัลเลาะห์” หรือ Allah นั้นเป็นชื่อที่ใช้เรียกพระเจ้าของศาสนาอิสลามเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์ใช้พระนามนี้ สิ่งนี้เป็นความเข้าใจไม่ถูกต้อง เพราะคำนี้เป็นภาษาอารบิคแปลว่า “พระเจ้า” ซึ่งเป็นคำที่คริสเตียนชาวอาหรับ และยิวอาหรับได้ใช้คำนี้มานานมากก่อนที่ศาสนาอิสลามจะเกิดเสียอีก และปัจจุบัน คริสเตียนอาหรับก็ยังคงใช้คำนี้อยู่ คำนี้เป็นตำแหน่ง ไม่ใช่พระนามของพระเจ้า
พี่น้องคริสเตียนไทยเองก็ยังมีความสับสนอยู่ระหว่าง พระนามกับตำแหน่ง ขอเรียนชี้แจงว่า “พระเจ้า” เป็นตำแหน่ง ส่วน “พระยาห์เวห์” คือพระนามเฉพาะที่พระเจ้าได้เปิดเผยให้โมเสสรู้ พระคัมภีร์ภาษาไทยที่สมาคมพระ คริสตธรรมไทยได้แปลมานั้น ไม่ได้เอาคำว่าพระเจ้าออก หรือ แทนคำว่า พระเจ้าด้วยพระยาห์เวห์
คำว่า “พระเจ้า” ในภาษาไทยแปลมาจากคำในภาษาฮีบรูหลายคำด้วยกัน ได้แก่ เอโลฮิม เอ-โลอาห์ เอล คำเหล่านี้เป็นคำรวมๆ ที่ใช้เรียกพระของคนต่างชาติด้วย
นอกจากนั้นยังมีสมญานามของพระเจ้าอีกคือ “อโดนาย” ที่แปลว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ของข้าพเจ้า” และพระเจ้ายังถูกเรียกว่า กษัตริย์ หรือ ผู้เลี้ยงแกะในฐานะผู้ปกครองดูแล และยังมีสมญานามที่แสดงถึงความเป็นบุคคลในครอบครัวเช่น พระบิดา ญาติสนิท หรือ พระผู้ไถ่นั้นเอง เพราะในสังคมของคนอิสราเอลนั้น คนที่จะมีสิทธิ์ไถ่คนอิสราเอลที่เป็นทาส จะต้องเป็นญาติสนิทเท่านั้น
การที่สมาคมพระคริสตธรรมไทยเปลี่ยนแปลงพระคัมภีร์ในหมวดเบญจบรรณคำว่า “พระเยโฮ-วาห์” มาเป็น “พระยาห์เวห์” ไม่ได้เป็นการเปลี่ยน แปลงพระนาม แต่เป็นการปรับปรุงแก้ไขความเข้าใจผิดของคริสเตียนในอดีตคือ คนยิวพยายามรักษาบัญญัติสิบประการในข้อที่ว่า “ห้ามใช้พระนามพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าในทางที่ผิด เพราะผู้ที่ใช้พระนามของพระองค์ไปในทางที่ผิดนั้น พระยาห์เวห์จะทรงลงโทษ” คนยิวกลัวว่าจะทำผิดบัญญัติข้อนี้ ก็เลยหลีกเลี่ยงที่จะออกพระนามพระเจ้าว่า “พระยาห์- เวห์” แต่เมื่อเห็นคำว่า “ยาห์- เวห์” ก็จะออกเสียงว่า “อาโดนาย” ภาษาฮีบรูโบราณ และภาษาฮีบรูสมัยปัจจุบันมีแต่พยัญชนะ ไม่มีสระ คนที่รู้จักภาษาดีก็ไม่ต้องอาศัยสระในการอ่าน แต่ภาษาฮีบรูเป็นภาษาที่มีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ จนมีช่วงหนึ่งที่คนรุ่นหลังที่อ่านข้อความในพระคัมภีร์ภาษาฮีบรูไม่เข้าใจ จึงได้มีอาลักษณ์กลุ่มที่ทำหน้าที่คัดลอกพระคัมภีร์ได้คิดค้นสระของภาษาฮีบรูขึ้น และเติมเข้าไปในพระคัมภีร์ภาษาฮีบรู เพื่อช่วยผู้อ่านได้อ่านอย่างถูกต้อง พระคัมภีร์ที่มีสระนี้เรียกว่า มาโซเรติก (Masoretic Text) ซึ่งต่อมากลายเป็นพระคัมภีร์ภาษาฮีบรูฉบับมาตรฐานที่คนทั่วไปยอมรับ ความถูกต้องในการคัดลอกว่า ใกล้เคียงกับฉบับดั้งเดิมมากที่สุด ในพระคัมภีร์ฉบับนี้ในส่วนของพระนามพระเจ้าแทนที่จะใช้สระของ “พระยาห์เวห์” กลับใส่สระของ “อโดนาย” แทน เพื่อให้ผู้อ่านอ่านว่า “อโดนาย” แต่มีผู้แปลภาษาอังกฤษในอดีตเข้าใจผิดเลยแปลว่า “Jehovah” ต่อมาพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษได้มีการปรับปรุงและแปลคำว่า “เอโลฮิม” ว่า “GOD” เมื่อหมายถึงพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และ “gods” เมื่อหมายถึงพระอื่นๆ ของคนต่างชาติ ส่วน “ยาห์เวห์” จะแปลว่า “LORD” และคำว่า “อโดนาย” จะถูกแปลเป็น “Lord” ในกรณีที่หมายถึงพระเจ้าซึ่งภาษาไทยจะแปลว่า “องค์เจ้านาย” และ “lord” ในกรณีที่หมายถึงมนุษย์ และภาษาไทยจะแปลว่า “เจ้านาย” ต่อมามีนักวิชาการทางพระคริสตธรรมคัมภีร์ส่วนใหญ่มีความเห็นว่า พระนามของพระเจ้าในภาษาอังกฤษควรสะกดว่า “Yahweh” ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษหลายเล่มเริ่มใช้คำว่า Yahweh มากขึ้นเช่น ฉบับ Jerusalem Bible, Christian Standard Bible ถึงแม้ฉบับหลังจะยังคงรักษาคำว่า LORD ไว้ด้วยก็ตาม
การที่สมาคมพระคริสตธรรมไทยแก้ไขคำแปลจาก “พระเยโฮวาห์” มาเป็น “พระยาห์เวห์” ไม่ได้กระทำโดยพลการ แต่กระทำโดยการศึกษาค้นคว้า และทำการปรึกษาผู้ใหญ่ในวงการคริสเตียน มีการออกแบบสำรวจ และจัดสัมมนาชี้แจง อีกทั้งเขียนบทความอธิบายให้คนเข้าใจ
การที่พระคริสตธรรมคัมภีร์ต้องมีการระบุพระนามเฉพาะของพระเจ้าให้ชัดเจน ก็เพื่อไม่ให้ผู้อ่านสับสนว่า พระเจ้าองค์ไหนก็เหมือนกัน เราต้องยอมรับว่าคนไทยทั่วไปถึงแม้จะนับถือศาสนาพุทธก็ยังนับถือพระเจ้าอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดก่อนหวยออกว่า คนไทยจะไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมท่านสามารถหาอ่านได้จากภาคผนวกในส่วน “หน้าพิเศษ” ของ “คู่มือศึกษาเบญจบรรณ” ในหัวข้อ “พระนามของพระเจ้า” ซึ่งจัดพิมพ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย
- ศาสนาจารย์ ดร.เสรี หล่อกัณภัย
- ภาพ messianic-revolution.com