คำสาปแช่งในพระธรรมอิสยาห์
คําถาม การกล่าวโทษ การคาดโทษ หรือ การทํานายเกี่ยวกับชนชาติต่างๆ ในพระธรรมอิสยาห์เป็นคําสาปแช่งจากพระเจ้าด้วยหรือไม่ หรือถ้อยคําในลักษณะใดบ้างที่จัดว่าเป็นคําสาปแช่งทั้งจากพระเจ้าและจากประชากรของพระองค์?
คําตอบ ก่อนอื่นต้องขอตอบตามบริบทของพระธรรมอิสยาห์ว่า การเผยพระวจนะของอิสยาห์นี้เน้นหนักที่จะกล่าวต่อว่าชนชาติยูดาห์ แต่ก็ครอบคลุมไปยังประเทศอื่นๆ ทั้งที่อยู่รอบๆ และประเทศที่พระเจ้าส่งมาลงโทษพวกเขาด้วย นอกจากการกล่าวโทษแล้ว พระธรรมอิสยาห์เองก็มีการกล่าวถึงพระพรและพระสัญญาที่พระองค์จะประทานให้กับคนยูดาห์ที่เหลืออยู่ การลงโทษของพระเจ้าต่อคนยูดาห์นั้นไม่ได้เป็นการลงโทษจนพวกเขาถูกทําลายจนหมดสิ้น เพราะพระองค์ทรงระลึกถึงคําสัญญาที่ได้ให้ไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา
หากเราพิจารณาบริบทรวมของพระคัมภีร์เดิม เราจะพบว่าคนอิสราเอลเป็นประชากรที่พระเจ้าทรงเลือกสรรออกมาเป็นพิเศษ แต่พระเจ้าไม่ได้จํากัดพระองค์ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าของคนอิสราเอลเท่านั้น เพราะพระเจ้าเป็นพระผู้สร้างโลกนี้ และพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ทุกคนตามพระฉายาของพระองค์ ถึงแม้ชนชาติอื่นๆ จะไม่ได้นับถือพระเจ้าเหมือนชนชาติอิสราเอล และพวกเขากราบไหว้เทพเจ้าอื่นๆ พระเจ้าก็ยังมีสิทธิอํานาจเหนือพวกเขาอยู่ดี
เมื่อเราทําการค้นหาคําว่า “วิบัติ” ซึ่งเป็นคําขึ้นต้นของการสาปแช่งนั้น เราพบว่า ถูกใช้ด้วยกันทั้งหมด 23 ครั้ง และมีอีกคําาหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการแช่งสาปคือคําาว่า “ครุวาท” ที่มีความหมายว่า คําพูดที่หนัก ถึงแม้จะปรากฏเพียงไม่กี่ครั้งในพระธรรมอิสยาห์ก็ตาม แต่มักจะเป็นคําขึ้นต้นของการแช่งสาป เนื้อความของคําาแช่งสาปนี้มักจะเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่อธรรมของกลุ่มคนที่ถูกแช่งสาป การแช่งสาปเป็นการกล่าวถึงการลงโทษที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่มีอยู่ 2 ตอนที่คําาแช่งสาปไม่ได้มาจากพระเจ้า แต่เป็นคําาอุทานของอิสยาห์เอง เมื่อได้เผชิญกับความบริสุทธิ์ของพระเจ้า (อสย. 6:5) และความชอบธรรมของพระเจ้า (อสย.24:16)
ตอนหนึ่งที่เป็นคําแช่งสาปที่น่าสนใจมากคือ อสย.45:7 ที่พระเจ้าตรัสว่า “เราทําให้เกิดสวัสดิภาพและสร้างความวิบัติ” ซึ่งวิบัติที่พระเจ้าสร้างขึ้นนี้เป็นวิบัติที่จะให้เกิดกับคนที่ต่อสู้กับพระองค์ (อสย. 45:9) ผู้ที่ไม่ยอมรับผู้ให้กําเนิดของเขา (อสย.45:10) ผู้ที่ทําลายล้างและคนทรยศ (อสย.33:1) เนื้อความเกี่ยวกับการแช่งสาปที่อยู่ในพระธรรมอิสยาห์ส่วนใหญ่จะเป็นการสาปแช่งคน ยูดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกผู้นําของประเทศที่เอาเปรียบคนจน (อสย.3:13-15) พวกผู้นําได้ฉวยโอกาสเขียนกฎหมายเพื่อเอาเปรียบคนยากจน (อสย.10:1-2) นอกจากประเทศยูดาห์แล้ว มีการกล่าวแช่งสาปแก่กรุงเยรูซาเล็มซึ่งเป็นเมืองหลวงของยูดาห์อย่างเจาะจงโดยใช้ชื่อว่า อารีเอล (อสย.29:1-24)
การแช่งสาปนี้ไม่ได้กล่าวโทษเฉพาะยูดาห์เท่านั้น แต่ได้กล่าวโทษประเทศอื่นๆ รอบๆ ยูดาห์ด้วย ได้แก่ ประเทศอิสราเอลซึ่งถูกเรียกว่า เอฟราอิม (อสย.28:1-29) ประเทศฟีลิสเตีย (14:28-32) ประเทศซีเรียที่ถูกเรียกว่า ดามัสกัส (17:1-14) ประเทศคูช ซึ่งอาจจะอยู่บริเวณแม่น้ําาไนล์ตอนเหนือ หรือบริเวณเมโสโปเตเมีย (อสย.18:1-7) ประเทศเอโดมที่เรียกว่า เสอีร์ (อสย.21:11-12) ประเทศในแถบอาระเบีย (อสย.21:13-17)
ไม่ใช่เฉพาะประเทศรอบๆ ของยูดาห์เท่านั้นที่ถูกแช่งสาป แม้แต่ประเทศมหาอํานาจที่มารุกรานยูดาห์ก็ถูกแช่งสาปด้วย เช่น อียิปต์ ซึ่งจะพ่ายแพ้ต่ออัสซีเรีย (อสย.20:1-6) คนอิสราเอลและคนยูดาห์มีความหวังว่า อียิปต์จะสามารถช่วยให้พวกเขาพ้นจากศัตรูที่คุกคามมาจากทางเหนือ แต่พระเจ้าแช่งสาปอียิปต์ และคนที่วางใจในอียิปต์ (อสย.30:1-17) ถึงแม้อัสซีเรียจะเป็นมหาอํานาจที่เกรียงไกรที่บุกมาโจมตีอิสราเอลและยูดาห์ แต่ก็ถูกพระเจ้าแช่งสาปด้วย (อสย.14:24-27) และแม้แต่อาณาจักรบาบิโลนที่เป็นมหาอําานาจใหญ่ต่อจาก อัสซีเรียที่ได้ยกกองทัพมาทําลายเยรูซาเล็ม ก็ถูกพระเจ้าแช่งสาปอย่างรุนแรง (อสย.13:1-22; 14:3-22)
มีพระธรรมอยู่ตอนหนึ่งในพระธรรมอิสยาห์ที่พูดถึงมหาอําานาจ 2 มหาอํานาจจะได้รับพระพรจากพระเจ้า มหาอํานาจ 2 แห่งนี้คือ อัสซีเรียและอียิปต์ แต่ไม่ใช่ทุกเมืองในอียิปต์จะได้รับพระพรนี้ มีเพียง 5 เมืองเท่านั้นที่จะได้รับพระพรนี้ เนื่องจากพวกเขาได้หันกลับมาหาพระยาห์เวห์ และนมัสการพระองค์ นอกจากนี้ก็ยังมีถนนเชื่อมโยงระหว่างอียิปต์และอัสซีเรีย และพวกเขาทั้งสองจะนมัสการพระเจ้าด้วยกัน ไม่เพียงเท่านั้นอิสราเอลก็จะร่วมรับพระพรกับมหาอํานาจทั้งสองด้วย (อสย. 19:18-25)
ถึงแม้พระธรรมอิสยาห์จะเต็มไปด้วยคําาพูดที่เป็นคําแช่งสาป แต่ก็มีคําาพูดที่เป็นพระพรด้วย พระธรรมอิสยาห์ก็เหมือนกับพระธรรมเลวีนิติ 26:1-46 ที่มีข้อความที่กล่าวถึงพระพรหากคนอิสราเอลเชื่อฟัง และมีการลงโทษเมื่อคนอิสราเอลไม่เชื่อฟัง ซึ่งเป็นพันธสัญญาที่พระเจ้าได้ทํากับคนอิสราเอลที่ภูเขาซีนายผ่านทางโมเสส
- ศาสนาจารย์ ดร.เสรี หล่อกัณภัย
- ภาพ Naypong – Freepik.com