จากใจเลขาธิการ
สวัสดีครับ สมาชิกและเพื่อนของ TBS ทุกท่าน
คุณเคยอยากรู้อนาคตของคุณหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตและต้องตัดสินใจบางอย่าง หากเป็นไปได้ บางครั้งเราก็อยากให้พระเจ้าบอกเราว่าอนาคตของเราจะเป็นเช่นไร ทั้งนี้ เพื่อเราจะไม่ต้องเปลืองเวลาคิด หรือพลาดไปเลือกสิ่งที่ผิด จนคิดไปว่า ถ้าพระเจ้าบอกเราอย่างชัดเจน เราก็จะเลือกตามนั้นเลย แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป จริงอยู่ บางคนจะคว้าสิ่งที่เป็นน้ำพระทัยพระเจ้า แต่บางคนจะกลับวิ่งหนีด้วยสองเหตุผล นั่นคือ ไม่ชอบ หรือไม่เชื่อ
เมื่อพระเจ้าทรงเรียกโยนาห์ให้ไปประกาศที่กรุงนีนะเวห์ โยนาห์หนีไปอีกทางเพราะไม่ชอบคนในเมืองนั้นที่ทำสิ่งชั่วร้าย เขาต้องการให้พวกเขาถูกทำลาย แต่ในที่สุด ก็ต้องจำนนต่อพระประสงค์ของพระองค์ และฝืนใจเทศนาให้คนเหล่านั้นฟัง แล้วสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น คือ คนเหล่านั้นหันกลับจากบาป แต่แทนที่เขาจะดีใจ โยนาห์กลับไม่ชอบใจที่คนบาปเหล่านั้นกลับใจใหม่ โยนาห์คือตัวอย่างของคนที่ไม่ชอบน้ำพระทัยพระเจ้า
บางคนปฏิเสธน้ำพระทัยพระเจ้าเพราะไม่เชื่อว่าสิ่งนั้นจะเป็นไปได้ เช่น ไม่เชื่อว่า พระเจ้าจะใช้เขาได้ คิดว่าการทรงเรียกที่มาถึงนั้นใหญ่เกินตัว โมเสสคือหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ต่อรองกับพระเจ้า ปฏิเสธการทรงเรียก เพราะคิดว่าตนไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะทำภารกิจที่พระเจ้ามอบหมายให้สำเร็จได้ แต่ในท้ายที่สุด เขาก็ยอมเชื่อฟังพระองค์ และทำงานของพระองค์จนสำเร็จ
จะมีประโยชน์อะไรที่พระเจ้าจะสำแดงน้ำพระทัยของพระองค์แก่เรา แต่เรากลับเพิกเฉยเพราะไม่ชอบ หรือหวาดกลัวและปฏิเสธเพราะขาดความเชื่อ พระเจ้าทรงสร้างเรามาและรู้จักเราดีที่สุด ยิ่งกว่าเรารู้จักตัวเราเอง ที่สำคัญพระองค์ทรงใส่ศักยภาพไว้ในชีวิตของเรา ศักยภาพเป็นเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่มีขนาดเล็ก แต่มีสิ่งทรงพลังซ่อนอยู่ภายในที่สามารถเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ได้
บางครั้ง พระเจ้าไม่ทรงเปิดเผยแผนการทั้งหมดที่พระองค์ทรงมีไว้สำหรับเราในคราวเดียว แต่ทรงแง้มออกทีละน้อย เพื่อให้เราค่อยๆ ปรับตัว และเรียนรู้ที่จะยอมจำนนต่อพระองค์ เราต้องยอมถ่อมใจลงและยอมรับว่า ทางของพระเจ้าสูงกว่าทางของเรา และความคิดของพระเจ้าก็สูงกว่าความคิดของเรา (อสย.55:9)
ขอพระเจ้าทรงนำชีวิตของท่านเรื่อยไป และหากพระองค์จะทรงสำแดงแผนการของพระองค์แก่ท่าน ก็ขอให้ท่านน้อมรับด้วยใจขอบพระคุณ และเชื่อว่า นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตของท่าน และจะทำให้ท่านได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและมีความหมายตามพระประสงค์ของพระองค์
- ประกิจ ตรีทศายุธ
คุณรู้หรือไม่
เพราะเหตุใดพระกิตติคุณจึงมีสี่เล่ม?
ทำไมพระกิตติคุณในพันธสัญญาใหม่จึงมีสี่เล่ม ไม่น้อยหรือมากกว่านั้น เพื่อที่จะเข้าใจเรื่องนี้ เราต้องเข้าใจก่อนว่าพระกิตติคุณคืออะไรและมาอยู่ในพระคัมภีร์ได้อย่างไร
คำว่า “พระกิตติคุณ” หรือ “พระวรสาร” (Gospel) มาจากคำกรีกว่า εὐαγγέλιον (euaggelion) ซึ่งเป็นรากของคำว่า evangelism ในภาษาอังกฤษ แปลตรงตัวว่า “ข่าวสารที่ดี” และไม่ใช่แค่ข่าวสารทั่วไปเท่านั้น แต่เป็นข่าวสารที่สำคัญหรือยิ่งใหญ่ เช่น ข่าวสารที่ดีเรื่องชัยชนะในสงคราม หรือเรื่องการเสด็จมาเยือนของจักรพรรดิ เป็นต้น คริสเตียนยุคแรกได้นำคำนี้มาใช้เรียกเรื่องราวพระชนม์ชีพและพระราชกิจของพระเยซูคริสต์ขณะที่พระองค์ทรงอยู่บนโลกนี้ นอกจากนี้ คำนี้ยังถูกแปลได้อีกว่า “ข่าวประเสริฐ” ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย
แท้จริง มีเอกสารโบราณที่ถูกเรียกว่าพระกิตติคุณอยู่หลายเล่ม แต่เมื่อคริสตจักรยุคแรกทำการพิจารณาจัดตั้งสารบบพระคัมภีร์เพื่อป้องกันคำสอนผิดหรือคัมภีร์เทียมเท็จ ก็มักจะยึดหลักเกณฑ์ที่สำคัญสามประการคือ ความยึดโยงกับอัครทูต (Apostolicity) หลักคำสอนที่ถูกต้อง (Orthodoxy) และการใช้ประโยชน์ (Utility) เป็นรากฐานของสารบบพันธสัญญาใหม่ ปรากฏว่า พระกิตติคุณที่ได้รับการยอมรับให้อยู่ในสารบบพระคัมภีร์มีเพียงสี่เล่ม นั่นคือ มัทธิว มาระโก ลูกา และยอห์น
อย่างไรก็ดี มักจะมีคำถามเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของพระกิตติคุณทั้งสี่เล่ม ด้วยเหตุว่าบางครั้งเรื่องราวเดียวกันที่ถูกบันทึกไว้กลับมีรายละเอียดที่แตกต่างกันในแต่ละเล่ม ความจริงก็คือผู้เขียนพระกิตติคุณแต่ละเล่มบอกเล่าเรื่องราวจากมุมมองที่แตกต่างกัน นักวิชาการบางท่านเชื่อว่า พระกิตติคุณแต่ละเล่มมีกลุ่มเป้าหมายผู้อ่านที่เฉพาะ กล่าวคือ มัทธิวเขียนขึ้นสำหรับผู้อ่านชาวยิวที่คุ้นเคยกับพันธสัญญาเดิม ดังจะเห็นได้จากเนื้อหาหลายตอนที่อ้างอิงถึงพันธสัญญาเดิมและรูปแบบวรรณกรรมที่สะท้อนความคิดแบบยิว มาระโกเป็นพระกิตติคุณเล่มที่สั้นที่สุดและเน้นสิ่งที่พระเยซูทรงกระทำมากกว่าคำสอนของพระองค์ ซึ่งน่าจะเหมาะกับผู้อ่านชาวโรมันที่เน้นการปฏิบัติมากกว่าปรัชญาความคิด นายแพทย์ลูกาเป็นชาวกรีกจึงชำนาญภาษากรีก และบรรยายภาพของพระเยซูเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบซึ่งเป็นสิ่งที่คนกรีกให้ความสำคัญ ยอห์นเขียนขึ้นสำหรับผู้อ่านที่ได้รับอิทธิพลของปรัชญาแบบกรีก โดยเห็นได้จากการอธิบายเรื่องพระเจ้าผู้เสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ผ่านปรัชญาแบบกรีก (ดูบทความ ทำไมยอห์นจึงเรียกพระเยซูว่า “พระวาทะ” ใน TBS’s Friends ฉบับที่ 6) พระกิตติคุณสามเล่มแรกเน้นเรื่องพระราชกิจของพระเยซูในแคว้นกาลิลีทางตอนเหนือ ในขณะที่พระกิตติคุณยอห์นเน้นเหตุการณ์ในแคว้นยูเดียและกรุงเยรูซาเล็มทางตอนใต้ อย่างไรก็ตาม ทุกเล่มต่างให้ความสำคัญกับเรื่องราวช่วงสัปดาห์สุดท้ายของพระเยซูอันนำไปสู่การตรึงกางเขนและการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ ซึ่งเป็นหัวใจของข่าวประเสริฐ ดังนั้น พระกิตติคุณทั้งสี่เล่มจึงมีทั้งรายละเอียดที่เหมือนกันและแตกต่างกัน
ความจริงนี้เป็นข้อสนับสนุนความน่าเชื่อถือของพระกิตติคุณ เพราะเนื้อหาแต่ละเล่มไม่ได้เกิดจากมติร่วมหรือมีการครอบงำทางความคิดต่อกัน ซึ่งจะทำให้มีพระกิตติคุณเพียงเล่มเดียว หรือหากมีหลายเล่มก็จะมีเนื้อหาตรงกันทุกเล่ม (ซึ่งจะให้ความจริงเพียงด้านเดียวด้วย) แต่เนื้อหาจากหลายมุมมองได้ร่วมกันล้อมกรอบความจริงแบบรอบด้าน หรือที่นักวิชาการเรียกกันว่า “วงแหวนแห่งความจริง” (Ring of Truth) อันช่วยส่งเสริมความน่าเชื่อถือของสาระสำคัญที่มีร่วมกันในข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์
ด้วยเหตุนี้ พันธสัญญาใหม่จึงมีพระกิตติคุณสี่เล่ม ซึ่งแม้จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน แต่ก็มีคุณค่าและความสำคัญเท่าเทียมกัน เพราะต่างก็ประกอบกันขึ้นและช่วยให้ผู้อ่านได้รู้จักเรื่องราวของพระเยซูคริสต์อย่างรอบด้าน
- ภาพจาก www.facsimilefinder.com
กิจกรรมTBS
ซูเปอร์จิ๋วเจาะโลกพระคัมภีร์ ระดับประเทศ ปี 2024
ในรูปแบบออนไซต์
TBS ขอเชิญชวนเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมแข่งขัน ซูเปอร์จิ๋วเจาะโลกพระคัมภีร์ ระดับประเทศ ปี 2024 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เยาวชนไทยรักการอ่านพระวจนะของพระเจ้า อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างให้จิตวิญญาณเข้มแข็งอีกด้วย โดยการแข่งขันในปีนี้จะเป็นรูปแบบ ออนไซต์ แบ่งเป็น 4 ภาค ได้แก่ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ใน 3 ระดับ ได้แก่ ประถมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2024 เป็นต้นไป
กรุณาติดตามข่าวสารทาง www.thai.bible หรือ Facebook ของ TBS (thai.bible)
สนุกกับพระคัมภีร์
แนะนำสินค้า
พันธกิจ TBS
พันธกิจ TBS เพื่อคนไทยทุกคน
ด้วยปณิธานที่จะช่วยให้คนไทยทุกคนมีพระคัมภีร์ใช้และรู้จักใช้พระคัมภีร์ TBS ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของพระวจนะพระเจ้าที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ก่อให้เกิดพันธกิจของ TBS ในหลายด้าน เช่น
- พันธกิจ “พระคัมภีร์ฉบับศึกษา”
- พันธกิจ “พระคัมภีร์เพื่อผู้ด้อยโอกาส”
- พันธกิจ “พระคัมภีร์ภาษามือไทย”
- พันธกิจ “มอบพระคัมภีร์สู่เรือนจำ”
- พันธกิจ “พระคัมภีร์ภาษาอุรักลาโวย”
- พันธกิจ “กิจกรรมสัญจร รับพระพร 365 วัน”
ท่านสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนพันธกิจดังกล่าวได้ผ่านทางคำอธิษฐานหรือ ทุนทรัพย์ จนกว่าข่าวประเสริฐของพระเจ้าจะเดินทางไปถึงหัวใจของทุกคนในแผ่นดินไทย