ปราศ​จาก​ความ​บริ​สุทธิ์​…​ จะ​ไม่​มี​ใคร​ได้​เห็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เลย 4/16

ปราศ​จาก​ความ​บริ​สุทธิ์​…​ จะ​ไม่​มี​ใคร​ได้​เห็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เลย

วันหนึ่งของเดือนตุลาคม 2015 ผู้เขียนได้มีโอกาสท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ ในประเทศจอร์แดน ซึ่งเชื่อว่าเป็นเส้นทางอพยพของคนอิสราเอลในอดีต ขณะยืนอยู่บนภูเขาเนโบ ณ จุดที่โมเสสเคยยืนอยู่ยอดปิสกาห์ ทอดสายตาไปยังเมืองเยรีโคบนแผ่นดินคานาอันซึ่งอยู่ไกลออกไป พระเจ้าทรงให้ท่านเห็นแผ่นดินซึ่งแต่ละเผ่าจะเข้าไปครอบครอง ตั้งบ้านเมืองของพวกเขา พระคัมภีร์บันทึกข้อความที่น่าเศร้าใจว่า “พระ​ยาห์​เวห์​ตรัส​กับ​ท่าน​ว่า นี่​คือ​แผ่น​ดิน​ซึ่ง​เรา​ได้​ปฏิ​ญาณ​ต่อ​อับ​รา​ฮัม ต่อ​อิส​อัค และ​ต่อ​ยา​โคบ​ว่า ‘เรา​จะ​ให้​แก่​ลูก​หลาน​ของ​เจ้า’ เรา​ให้​เจ้า​เห็น​กับ​ตา แต่​เจ้า (โมเสส) ​จะ​ไม่​ได้​เข้า​ไป​ใน​แผ่น​ดิน​นั้น” (ฉธบ. 34:1-4) โมเสสเป็นผู้นำคนอิสราเอลสี่สิบปี สมควรอย่างยิ่งที่จะเป็นคนแรกได้เหยียบย่างลงบนแผ่นดินแห่งพระสัญญา แต่ทว่าพระเจ้าไม่ให้โอกาสนั้น เพราะความผิดพลาดของโมเสส (กดว. 20:1-13 อพย.17:1-7) ส่วนคนอิสราเอลรุ่นที่ออกมาจากอียิปต์ ยกเว้นโยชูวาและคาเลบ ตายในป่ากันดารทั้งหมด คนรุ่นใหม่เท่านั้นที่ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยังแผ่นดินแห่งพระสัญญา

จากการคะเนด้วยสายตาไปยังแผ่นดินคะนาอันซึ่งไม่ไกลเลย และจากการสอบถามชาวจอร์แดนบางคนบอกว่าระยะทางจากภูเขาเนโบถึงเยรีโคประมาณ 40-50 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินไม่กี่วัน เหตุใดพระเจ้าจึงไม่อนุญาตให้คนรุ่นที่ออกมาจากอียิปต์เข้าไป? แต่ให้พวกเขาเดินลงไปทางทิศใต้ถึงอ่าวอกาบา ซึ่งเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ท่านเปาโลตอบคำถามนี้ว่า “​มี​คน​ส่วน​มาก​ใน​พวก​นั้น​ที่​ถูก​ทด​ลอง​เกิน​กว่า​ที่​ท่าน​จะ​ทน​ได้ พระ​เจ้า​ไม่​พอ​พระ​ทัย เรา​ทราบ​ได้​จาก​ที่​เขา​ล้ม​ตาย​กัน​เกลื่อน​กลาด​ใน​ถิ่น​ทุร​กัน​ดาร “ (1 คร. 10:5)

ความบาปของคนอิสราเอลเหล่านั้นทำให้พวกเขา “ตายกันเกลื่อนกลาด” บาปใหญ่ที่ทำ ได้แก่ การไหว้รูปเคารพ คบหญิงแพศยา ลองดีพระเจ้าและบ่นต่อพระเจ้า (1คร.10:7-10) พฤติกรรมของคนเหล่านั้นไม่ถึงมาตรฐานของพระเจ้า ห่างไกลจากพระประสงค์ของพระองค์ที่ทรงตั้งพระทัยจะให้พวกเขาเป็น “อาณาจักรปุโรหิตและเป็นชนชาติบริสุทธิ์” (อพย. 19:6) พวกเขาดำรงชีวิตตรงกันข้ามกับความบริสุทธิ์ของพระเจ้า จึงไม่พร้อมเป็นชนชาติบริสุทธิ์ ผู้ใดจะเข้าไปสู่แผ่นดินของพระองค์จะต้องมีความบริสุทธิ์นี้ จึงจะเข้าเฝ้าพระเจ้าผู้บริสุทธิ์ได้

ความบริสุทธิ์ของพระเจ้าคืออะไร ทำไมจึงสำคัญมากขนาดนั้น? ในประมวลศัพท์พระคัมภีร์ฉบับแปล 2011 ให้คำจำกัดความว่า “ความบริสุทธิ์คือ “(1) คน​หรือ​สิ่ง​ของ​ที่​ไม่​มี​มล​ทิน ไม่​มี​จุด​ด่าง​พร้อย ​(2) ใน​พระ​คัมภีร์พันธสัญญา​เดิม​หมาย​ถึง​คน​หรือ​สิ่ง​ของ​ที่​แยก​ไว้​สำ​หรับ​พระ​เจ้า (ลนต.8:10-11) หรือ​ (3) เล็ง​ถึง​ความ​บริ​สุทธิ์​ของ​พระ​เจ้า (อสย.6:3) ​(4) ใน​พระ​คัมภีร์พันธสัญญา​ใหม่​ยัง​มี​ความ​หมาย​รวม​ไป​ถึง​การ​ดำเนิน​ชีวิต​ที่​สอด​คล้อง​กับ​พระ​ทัย​ของ​พระ​เจ้า​ด้วย (1ปต.1:14-15) ศัพท์ภาษาฮีบรูคำนี้หมายถึง “การแยกออก” เป็นคนหรือสิ่งของที่ศักดิ์สิทธิ์ บริสุทธิ์ ทั้งพิธีกรรมและศีลธรรม ในพันธสัญญาใหม่คำนี้ หมายถึงความศักดิ์สิทธิ์ บริสุทธิ์ ไร้มลทิน หรือหมายถึงธรรมิกชน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อกิจการอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า

ความบริสุทธิ์ของพระเจ้าในพันธสัญญาเดิม
ในพระคัมภีร์พันสัญญาเดิมคำว่า “ความบริสุทธิ์” ใช้กับพระเจ้าสองด้าน ประการแรก พระเจ้าทรงแยกพระองค์ออกมาจากสรรพสิ่งที่ทรงสร้าง ทรงเป็นองค์สมบูรณ์ ทรงบริสุทธิ์สมบูรณ์แบบ พระองค์ทรงเรียกให้เราทั้งหลายมีชีวิตที่มีคุณธรรมอันบริสุทธิ์ ประการที่สอง สิ่งของ คนหรือสิ่งใดก็ตามที่เข้ามามีส่วนร่วมหรือสัมพันธ์กับพระเจ้า สิ่งเหล่านั้นบริสุทธิ์ เช่น สถานที่หรือที่ใดที่หนึ่งบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ (อพย.3:5) วันสะบาโตบริสุทธิ์ (อพย. 20:8-11) สถานบริสุทธิ์ (พลับพลา วิหาร) ความบริสุทธิ์ของพระเจ้าแผ่ซ่านในทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสัมผัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมนุษย์

พระเจ้าทรงสำแดงความบริสุทธิ์ของพระองค์ในพันธสัญญาเดิมอย่างไร? ในนิมิตของท่าน อิสยาห์บรรยายว่า “ข้าพ​เจ้า​เห็น​องค์​เจ้านาย​ประ​ทับ​ บน​พระ​ที่​นั่ง​อัน​สูงส่ง​และ​รับ​การ​เทิด​ทูน และ​ชาย​ฉลอง​พระ​องค์ ​ของ​พระ​องค์​เต็ม​พระ​วิหาร เหนือ​พระ​องค์​มี​พวก​เส​ราฟิม​ยืน​อยู่ แต่​ละ​องค์​มี​ปีก 6 ปีก ใช้ 2 ปีก​ปิด​หน้า ใช้ 2 ปีก​ปิด​เท้า และ​ใช้ 2 ปีก​บิน​ไป ต่าง​ก็​ร้อง​ต่อ​กัน​และ​กัน​ว่า

บริ​สุทธิ์ บริ​สุทธิ์ บริ​สุทธิ์ พระ​ยาห์​เวห์​จอม​ทัพ แผ่น​ดิน​โลก​ทั้ง​สิ้น​เต็ม​ด้วย​พระ​สิริ​ของ​พระ​องค์” (อสย. 6:1-9)

พระเจ้าทรงเรียกให้อิสราเอลสู่ความบริสุทธิ์ “​เรา​คือ​ยาห์​เวห์​พระ​เจ้า​ของ​เจ้า จง​ชำระ​ตัว​ให้​บริ​สุทธิ์​ เพื่อ​เจ้า​จะ​บริ​สุทธิ์ เพราะเราบริสุทธิ์….เพราะ​เรา​คือ​ยาห์​เวห์​ผู้​นำ​เจ้า​ออก​จาก​แผ่น​ดิน​อียิปต์ เพื่อ​เป็น​พระ​เจ้า​ของ​เจ้า เพราะ​ฉะนั้น​เจ้า​จึง​ต้อง​บริ​สุทธิ์ เพราะเราบริสุทธิ์” (ลนต.11:44, 45) เพื่อให้พวกเขาเป็น “ชนชาติปุโรหิตและชนชาติบริสุทธิ์” เพื่อเตรียมคนทั้งโลกพร้อมต้อนรับพระเมสสิยาห์ พระผู้ไถ่มวลมนุษย์ คนอิสราเอลจึงดำรงชีวิตที่บริสุทธิ์ในด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ท่ามกลางชาวต่างชาติที่มีวิถีชีวิตตรงกันข้ามกับชนชาตินี้ ยกชูพระองค์เสมอว่า “​พระ​ยาห์​เวห์ พระ​เจ้า​ของ​ข้าพระองค์ องค์​บริ​สุทธิ์​ของ​ข้าพระองค์” (ฮบก. 1:12)

ความบริสุทธิ์ของพระเจ้าในพันธสัญญาใหม่
การเรียกร้องให้เข้าสู่ความบริสุทธิ์ของพระเจ้า ยังคงเข้มข้นเหมือนในพันธสัญญาเดิม อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงพระเจ้าผู้บริสุทธิ์ ดูเหมือนว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่มนุษย์เช่นเราจะเชื่อฟังพระดำรัสสั่งนี้ “พวก​ท่าน​จง​เป็น​คน​บริ​สุทธิ์ เพราะ​เรา​เอง​บริ​สุทธิ์” (1ปต. 1:15-16) เราจะ “แยก” ตัวจากสิ่งมลทินและบาปอย่างสิ้นเชิง ให้สมกับที่พระองค์ผู้ทรงสร้างเราทั้งหลาย เพื่อถวายพระสิริแด่พระองค์ และให้มีศักดิ์ศรี มีชีวิตนิรันดร์ เหมือนพระองค์ เพื่อให้สมกับเป็นผลงานชิ้นเอกของการทรงสร้างได้อย่างไร? พระเจ้าทรงมุ่งหมายให้ทุกคนรับความบริสุทธิ์จากพระองค์ ขณะที่อาดัมและเอวายังบริสุทธิ์ เขาได้พบและสนทนากับพระเจ้าหน้าต่อหน้า เพราะเขาเป็นเหมือนพระองค์ “พระ​องค์​ทรง​สร้าง​เขา​ให้​ต่ำ​กว่า​พระ​องค์แต่หน่อยเดียว และ​ทรง​สวม​ศักดิ์​ศรี​กับ​ความ​มี​อำ​นาจ​ให้​เขา” (สดด. 8:5)

หลังจากมนุษย์ทำบาปมีผลให้ “​ทุก​คน​ทำ​บาป และ​เสื่อม​จาก​พระ​สิริ​ของ​พระ​เจ้า” (รม. 3:23) เราจึงต้องการ“คนกลาง” เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ที่ถูกตัดขาดไปอีกครั้ง พระเยซูทรงอธิษฐานต่อพระบิดาว่า “ขอ​ทรง​แยก​พวก​เขา​ให้บริ​สุทธิ์​ด้วย​ความ​จริง” (ยน.17:17) ในรากศัพท์เดิม คำว่า “แยก” มาจากคำว่า “บริสุทธิ์” “​พระ​เจ้า​ทรง​มี​พระ​คุณ​ให้​เขา​เป็น​ผู้​ชอบ​ธรรม​โดย​ไม่​คิด​มูล​ค่า โดย​ที่​พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​ไถ่​เขา​ให้​พ้น​บาป​แล้ว” (รม. 3:24) เราจึงขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงให้ “​​พระ​เยซู​คริสต์ ผู้​ทรง… เป็น​ผู้​ชำระ​เรา​ให้​บริ​สุทธิ์” (1คร.1:31) ฝ่ายจิตวิญญาณเราได้รับการยกบาป คืนความสัมพันธ์ที่สูญเสียไปกลับคืนมา ท่านเปาโลเรียกร้องคริสตชน ว่า “จง​กลับ​สู่​สภาพ​ดี​ดังเดิม” (2คร.13:9,11) ซึ่งหมายถึงการกลับไปสู่สภาพเดิมเหมือนเมื่อพระองค์ทรงสร้างเราในสวนเอเดน กลับคืนสู่ความบริสุทธิ์ของพระเจ้า เพื่อให้เราที่กำลังรอคอยการเสด็จมาของพระคริสต์ ใช้ชีวิตขณะนี้ ฝึกฝนชีวิตให้บริสุทธิ์ก่อนเข้าสู่สวรรค์ สมกับที่เป็น “พลเมืองแห่งสวรรค์” (ฟป. 3:20) และเพื่อเป็นพยานให้คนทั้งหลายเห็นว่า ชีวิตชาวสวรรค์เป็นอย่างไร ซึ่งจะมีแรงจูงใจคนที่ไม่เชื่อให้มารู้จักพระเจ้ามากขึ้น

อัครสาวกยอห์นได้บรรยายให้เห็นภาพของพระเจ้าผู้บริสุทธิ์ ซึ่งคล้ายกับนิมิตของท่านอิสยาห์ (อสย.6:1-9) “​สิ่ง​มี​ชีวิต​ทั้ง​สี่​นั้น แต่​ละ​ตน​มี​ปีก​หก​ปีก และ​มี​ตา​อยู่​รอบๆ และ​ข้าง​ใน​เต็ม​ไป​หมด และ​พวก​เขา​ร้อง​ตลอด​วัน​ตลอด​คืน​ไม่​ได้​หยุด​เลย​ว่า “บริ​สุทธิ์ บริ​สุทธิ์ บริ​สุทธิ์ องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​คือ​พระ​เจ้า​ผู้​ทรง​ฤท​ธา​นุ​ภาพ​สูง​สุด ผู้​ทรง​เคย​เป็น​อยู่ ผู้​ทรง​เป็น​อยู่ และ​ผู้​ที่​จะ​เสด็จ​มา” (วว.4:1-8)

เมื่อเปรียบเทียบระหว่างนิมิตของผู้เผยพระวจนะทั้งสอง จะเห็นว่า ความบริสุทธิ์ของพระเจ้ายิ่งใหญ่เพียงใด และผู้เชื่อพระเจ้าทุกคนที่จะเข้าไปสู่แผ่นดินสวรรค์ จะได้สัมผัสกับความบริสุทธิ์นี้ด้วยตนเอง แต่หากเราไม่ประพฤติตนให้บริสุทธิ์ขณะที่อยู่ในโลก และสัมผัสกับความบริสุทธิ์ของพระเจ้าในขณะนี้ ก็อาจพลาดโอกาสได้เห็นความบริสุทธิ์ของพระองค์บนสวรรค์ก็เป็นได้

ความบริสุทธิ์ของพระเจ้าและการต้อนรับพระคริสต์ครั้งแรก
ในพันธสัญญาใหม่ ก่อนการเสด็จมาปรากฏของพระคริสต์ พระเจ้าทรงเรียกยอห์นผู้ให้บัพติศมา ผู้ประพฤติตนเป็นนาศีร์ ถวายตัวแก่พระเจ้า รักษาตนให้บริสุทธิ์ ใช้ชีวิตอย่างสมถะ “เสื้อ​ผ้า​ของ​ยอห์น​ผู้​นี้ ทำ​ด้วย​ขน​อูฐ​และ​ท่าน​ใช้​หนัง​สัตว์​คาด​เอว อาหาร​ของ​ท่าน​คือ​ตั๊ก​แตน​และ​น้ำ​ผึ้ง​ป่า” (มธ. 3:1-4) วิถีชีวิตของยอห์นแตกต่าง และแย้งกับความฟุ้งเฟ้อและนับถือศาสนาแต่เปลือกของชาวยิวในยุคนั้น คำเทศนาของท่านชักชวนให้ประชาชนกลับใจใหม่ แต่ชาวยิวที่รังเกียจท่านกลับไม่พอใจ “เพราะ​ว่า​ยอห์น​มา​และ​ไม่​ได้​กิน​หรือ​ดื่ม และ​พวก​เขา​ว่า ‘มี​ผี​เข้าสิง​อยู่’” (มธ.11:18) เมื่อพระเยซูเสด็จมาใช้ชีวิตเรียบง่าย เป็นแบบอย่างของความบริสุทธิ์ที่ถูกต้อง ทรงเข้าถึงคนทุกชนชั้น พวกเขากลับกล่าวหาพระองค์ว่า “นี่ไง คน​ตะกละ คน​ขี้​เมา เพื่อน​ของ​บรร​ดา​คน​เก็บ​ภาษี และ​คน​บาป” ยอห์น-ผู้ให้บัพติศมาเตรียมชีวิตของท่านให้บริสุทธิ์ และชักชวนประชาชนให้เข้าสู่ความบริสุทธิ์ เพื่อให้พร้อมต้อนรับ

พระองค์ผู้บริสุทธิ์ พระเยซูคือ “องค์บริสุทธิ์” จากสวรรค์ ได้รับการยืนยันจาก..

  • ทูต​สวรรค์ยืนยันว่า “พระ​วิญ​ญาณ​บริ​สุทธิ์​จะ​เสด็จ​ลง​มา​เหนือ​เธอ (มารีย์) และ​ฤทธิ์​เดช​ของ​ผู้​สูง​สุด​จะ​ปก​เธอ เพราะ​ฉะนั้น​องค์​บริ​สุทธิ์ที่​เกิด​มา​นั้น​จะ​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​พระ​บุตร​ของ​พระ​เจ้า” (ลก. 4:34)
  • สาวกของพระเยซูยืนยัน “​พวก​ข้า​พระ​องค์​ก็​เชื่อ​และ​ทราบ​แล้ว​ว่า​พระ​องค์​ทรง​เป็น​องค์​บริ​สุทธิ์ของ​พระ​เจ้า” (ยน.6:69)
  • พระเจ้าทรงยืนยัน “​ไม่​ทรง​ให้​องค์​บริ​สุทธิ์​ของ​พระ​องค์​เปื่อย​เน่า​ไป” (กจ.2:27) ทรงโปรดให้พระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตาย
  • แม้แต่วิญญาณชั่วก็ยืนยันความเป็นองค์บริสุทธิ์ของพระเยซู “มัน​ร้อง​ตะโกน​ว่า ‘พระ​เยซู​ชาว​นา​ซา​เร็ธ พระ​องค์​มา​ยุ่ง​กับ​เรา​ทำ​ไม? พระ​องค์​จะ​มา​ทำ​ลาย​เรา​หรือ? ข้า​รู้​ว่า​พระ​องค์​เป็น​ใคร พระ​องค์​เป็น​องค์​บริ​สุทธิ์​ของ​พระ​เจ้า’” (มก.1:24)

พระเยซูทรงตรัสว่า “คน​ที่​มี​ใจ​บริ​สุทธิ์ก็​เป็น​สุข เพราะ​ว่า​เขา​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​เห็น​พระ​เจ้า” (มธ. 5:8) เราจึงเห็นความสำคัญของความบริสุทธิ์ว่าสูงส่งเพียงใด

ความบริสุทธิ์และการต้อนรับพระคริสต์ ครั้งที่สอง
ท่านเปาโลสอนให้คริสตชนดำรงชีวิตที่บริสุทธิ์เพื่อให้พร้อมสำหรับการเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระเยซู “ขอ​ให้​พระ​เจ้า​แห่ง​สันติ​สุข​ทรง​ชำระ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ให้​เป็น​คน​บริ​สุทธิ์​หมด​จด และ​ทรง​รัก​ษา​ทั้ง​วิญ​ญาณ จิต​ใจ และ​ร่าง​กาย​ของ​ท่าน​ไว้​ให้​ปราศ​จาก​การ​ติเตียน จน​ถึง​วัน​ที่​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​เรา​จะ​เสด็จ​มา” (1ธส.5:23) ท่านเปโตรกล่าวว่า “​พระ​องค์​ผู้​ทรง​เรียก​พวก​ท่าน​นั้น​บริ​สุทธิ์​อย่าง​ไร พวก​ท่าน​เอง​ก็​จง​เป็น​คน​บริ​สุทธิ์​ใน​ชีวิต​ทุก​ด้าน​อย่าง​นั้น เพราะ​มี​คำ​เขียน​ไว้​แล้ว​ว่า ‘พวก​ท่าน​จง​เป็น​คน​บริ​สุทธิ์ เพราะ​เรา​เอง​ บริ​สุทธิ์’” (1ปต.1:15-16)

ผู้เขียนพระธรรมฮีบรูแสดงให้เห็นว่า แม้เมื่อพระเจ้าทรงตีสอน “​พระ​องค์​ทรง​ตี​สอน​เพื่อ​ประ​โยชน์​ของ​เรา เพื่อ​เรา​จะมี​ส่วน​ใน​ความ​บริ​สุทธิ์​ของ​พระ​องค์” (ฮบ.12:10) และย้ำถึงการเป็นผู้บริสุทธิ์เพื่อรอคอยการเสด็จกลับมาครั้งที่สองว่า “จง​มุ่ง​มั่น​ที่​จะ​ได้​อยู่​อย่าง​สงบ​สุข​กับ​ทุก​คน​และ​ที่​จะ​ได้​ความ​บริ​สุทธิ์ เพราะ​ถ้า​ปราศ​จาก​ความ​บริ​สุทธิ์​แล้ว ก็​จะ​ไม่​มี​ใคร​ได้​เห็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เลย” (ฮบ.12:14) สอดคล้องกับผู้ที่จะมารับเราไปสวรรค์ “องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กำ​ลัง​เสด็จ​มา​พร้อม​กับผู้บริสุทธิ์​ของ​พระ​องค์” พระคริสต์ “ผู้บริสุทธิ์” พร้อมกับทูตสวรรค์ผู้ “บริสุทธิ์” จะมารับ “คนบริสุทธิ์” ในโลกนี้ไปสวรรค์ (ยด.14)

ความบริสุทธิ์กับการมีสุขภาพดี
เมื่อคนอิสราเอลอพยพออกมาจากอียิปต์ และเดินทางไปยังแผ่นดินแห่งพระสัญญา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับหน้าที่พิเศษ ในการนำเอาแผนการไถ่ให้รอดของพระเจ้าไปสู่ชาวโลก พระเจ้าทรงประทานบัญญัติต่างๆ เพื่อเป็นกฎเกณฑ์ในการดำเนินชีวิตพลเมืองสวรรค์ของพระองค์ พระธรรมอพยพ-เฉลยธรรมบัญญัติ บันทึกกฎเกณฑ์และบัญญัติต่างๆ เพื่อการชำระคนอิสราเอลให้บริสุทธิ์ในทุกด้าน เลวีนิติบทที่ 11 แสดงให้เห็นการ “แยก” คนอิสราเอลจากชาวโลกในด้านอาหาร นักศาสน-ศาสตร์หลายท่านต่างเห็นพ้องกันว่า พระบัญญัติเพื่อความสะอาดที่พระเจ้าทรงประทานแก่คนอิสราเอลในพระธรรมหมวดเบญจบรรณ แตกต่างจากวิถีการดำเนินชีวิตของชนชาติอื่นโดยรอบ วงการแพทย์สมัยใหม่ต่างยอมรับในความล้ำหน้าของสาธารณสุขในพระคัมภีร์ว่า เป็นต้นแบบการมีสุขภาพดี (โปรดย้อนอ่านบทความ “พระคริสต-ธรรมคัมภีร์ มหัศจรรย์แห่งการรักษา” และ “สุขหรรษา มีอนามัย จิตใจบริสุทธิ์ ที่เว็บไซต์ www.thaibible.or.th) ชาวยิวรุ่นต่อรุ่นยังคงยึดมั่นในบัญญัติเรื่องอาหารสะอาดมาจนถึงปัจจุบัน จากภาพรวมทั้งหมด เราจึงเห็นได้ว่า ความบริสุทธิ์ของพระเจ้า คือ แหล่งที่มาของความบริสุทธิ์ ความสะอาดของมนุษย์ เริ่มจากอิสราเอลและส่งต่อมายังผู้เชื่อพระเจ้าทั้งหลาย ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใดเลือกเชื่อฟัง ก็จะมีสุขภาพดีและปลอดภัยจากโรคต่างๆ

นี่คือกฎเกณฑ์เพื่อการเป็นคน “บริสุทธิ์” เพื่อเข้าสู่ “นครบริสุทธิ์” (วว.21:2) ซึ่งสร้างด้วย “ทองคำเนื้อบริสุทธิ์” (วว.21:18) “ถนนในนครนั้นเป็นทองคำเนื้อบริสุทธิ์” (วว.21:21) ผู้ใดเข้าไปในแผ่นดินสวรรค์ได้ ก็จะรับ “ส่วน​แบ่ง​ของ​เขา​ที่​มี​อยู่​ใน​ต้น​ไม้​แห่ง​ชีวิต​และ​ใน​นคร​บริสุทธิ์” (วว.22:19) นครของพระเจ้า “ผู้บริสุทธิ์” ทรงเตรียมไว้สำหรับคนบริสุทธิ์ คือผู้ “​มี​ส่วน​ใน​การ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​ครั้ง​แรก​ก็​เป็น​สุข​และ​บริสุทธิ์ ความ​ตาย​ครั้ง​ที่​สอง​จะ​ไม่​มี​อำ​นาจ​เหนือ​เขา​ทั้ง​หลาย แต่​เขา​จะ​เป็น​ปุโร​หิต​ของ​พระ​เจ้า​และ​ของ​พระ​คริสต์ และ​จะ​ครอบ​ครอง​ร่วม​กับ​พระ​องค์​หนึ่ง​พัน​ปี” (วว.20:6) เช่นนี้แล้ว คริสตชนจึงไม่ควรประพฤติเหมือนคนอิสราเอล ซึ่งเดินทางไปประชิดชายแดนแผ่นดินแห่งพระสัญญา เพียงไม่กี่กิโลเมตรก็ถึงแล้ว แต่ต้องพลาดโอกาสสำคัญ เพียงเพราะความไม่ “บริสุทธิ์” ของพวกเขา ถึงเวลาหรือยังที่คริสตชนทุกคนต้องเข้าสู่ความบริสุทธิ์ของพระเจ้า “ทั้ง​วิญ​ญาณ จิต​ใจ และ​ร่าง​กาย​”? (1ธส. 5:23)

  • ศาสนาจารย์ ดร.สุรเชษฐ์ อินสม