พระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุด (พิพิธภัณฑ์การจดบันทึกอินโดนีเซีย 9 กุมภาพันธ์ 2012)

พระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุด 

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2012 คณะกรรมการสมาคมพระคริสตธรรมอินโดนีเซีย ได้เปิดตัวแนะนำพระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งสมาคมพระคริสตธรรมอินโดนีเซียเป็นผู้จัดทำ และในวันเดียวกันนั้นเองก็ป็นวันครบรอบ 58 ปีของการก่อตั้งสมาคมฯ ด้วยเช่นกัน จึงถือเป็นโอกาสดีที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการของอาคารศูนย์กลางพระคัมภีร์

พระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุดนี้ถูกจัดแสดงไว้ในห้องโถงของอาคารศูนย์กลางพระคัมภีร์  ซึ่งศูนย์ฯ นี้จะจัดให้เป็นแหล่งค้นคว้าหาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ในรูปแบบขนาดใหญ่นี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพียงเพื่อเป็นสัญญลักษณ์หรืออุปกรณ์ชิ้นหนึ่งของศูนย์พระคัมภีร์เท่านั้น แต่เพื่อจะถูกนำมาใช้ในการจัดทำพระคัมภีร์ฉบับศึกษาอินโดนีเซีย เหตุที่มีการเลือกพระคัมภีร์ฉบับศึกษานี้ขึ้นมาก็เพราะในช่วงกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่เปิดตัวพระคัมภีร์ฉบับนี้เมื่อเดือนพฤษภาคม มีการจำหน่ายไปแล้วถึงหนึ่งหมื่นเล่ม ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ของสมาคมพระคริสตธรรมอินโดนีเซีย ที่มียอดจำหน่ายดีที่สุดสำหรับการจำหน่ายพระคัมภีร์ นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความต้องการของกลุ่มคริสตชนในการศึกษาและทำความเข้าใจกับพระวจนะของพระเจ้า อย่างไรก็ดี การผลิตพระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุดนี้ได้รับแรงกระตุ้นมาจากหลายๆ ด้านด้วยกัน ประการแรกคือความปรารถนาที่จะแสดงให้เห็นว่าพระวจนะของพระเจ้านั้นเป็นแหล่งของแรงบันดาลใจ, ความเข้มแข็ง และคำอธิบายสำหรับมนุษย์ในการหาคำตอบของชีวิต ประการที่สอง เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการก่อตั้งศูนย์พระคัมภีร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของชุมชนคริสเตียน เป้าหมายของการจัดแสดงพระคัมภีร์ฉบับศึกษาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนี้ก็เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนหันมาศึกษาพระวจนะของพระเจ้ามากขึ้น พระคัมภีร์ฉบับนี้มีขนาดกว้าง 208 ซม. และยาว 147 ซม. จะมีการจดบันทึกและรับรู้โดยพิพิธภัณฑ์การจดบันทึกอินโดนีเซีย  [Indonesian Museum of Records (MuRI)] ประการที่สาม พระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุดนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความคิดที่ว่าศูนย์พระคัมภีร์เป็นศูนย์กลางของการศึกษาพระคัมภีร์เท่านั้น แต่เป็นการแสดงให้สาธารณชนเห็นถึงความสามารถของเจ้าหน้าที่และงานด้านเทคโนโลยีกราฟฟิกที่อยู่ในโรงพิมพ์พระคัมภีร์ของสมาคมพระคริสตธรรมอินโดนีเซีย เป็นสิ่งที่ควรจะได้รับคำชมเชยและการจดบันทึกไว้และได้รับการรับรองว่าเป็น “พระคัมภีร์ฉบับศึกษาขนาดใหญ่ที่สุด

ทำพระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุด
การทำพระคัมภีร์ฉบับศึกษาขนาดใหญ่ที่สุด เริ่มต้นจากการชักนำของท่านเลขาธิการสมาคมพระคริสตธรรมอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2009 จากนั้นจึงมีการประชุมพูดคุยกันในทีมผู้จัดทำพระคัมภีร์ฉบับศึกษาขนาดใหญ่ที่สุดเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2010 โดยตัดสินใจกันว่าจะหาข้อมูลก่อนว่าพระคัมภีร์ฉบับใดมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากที่มีการค้นหาข้อมูลนี้ทางเว็บไซท์ของ Guinness Book of Records แล้ว พบว่าพระคัมภีร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อปิดเล่มนั้นมี 2-3 ฉบับคือ

1. พระคัมภีร์ฉบับคิงเจมส์ ด้วยขนาด กว้าง 112.3 ซม., ยาว 87.72 ซม., หนา 87.72 ซม. พิมพ์เมื่อปี ค.ศ. 1930 ใช้เวลาการจัดทำ 2 ปี
2. พระคัมภีร์ Sungrak Church จากประเทศเกาหลีใต้ เป็นพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ เขียนด้วยลายมือภาษาเกาหลี ขนาดกว้าง 100 ซม., ยาว 150 ซม. และน้ำหนัก 600 กก.
3. พระคัมภีร์ฮินดู Riga Veda เขียนด้วยลายมือของกลุ่มโยเซฟ ซูนิลจากประเทศอินเดียทำเสร็จภายในเวลา 2 เดือน มีจำนวนทั้งหมด 10,600 หน้า โดยแต่ละหน้าจะมีพระคัมภีร์ 1 ข้อ พระคัมภีร์มีขนาดกว้าง 116.1 ซม. และน้ำหนัก 51 กก.
หลังจากที่ได้ข้อมูลเหล่านี้แล้วทีมผู้จัดทำจึงตัดสินใจกันว่าจะทำพระคัมภีร์ฉบับศึกษาขนาดใหญ่ที่สุดในรูปแบบของพระคัมภีร์และใช้วัสดุที่เหมือนกับพระคัมภีร์จริงๆ คือใช้กระดาษพระคัมภีร์ และทำขนาด 104 x  147 ซม. (เมื่อปิดเล่ม) และเมื่อเปิดออกจะมีขนาด 208 x 147 ซม.

ค้นหาเครื่องพิมพ์
เนื่องจากสมาคมพระคริสตธรรมอินโดนีเซียเป็นผู้จัดทำพระคัมภีร์ฉบับศึกษา และให้มีการพิมพ์ที่โรงพิมพ์ของสมาคมฯ ครั้งแรกทีมจึงตัดสินใจที่จะพิมพ์พระคัมภีร์ฉบับนี้ที่โรงพิมพ์ Goss Community ซึ่งเป็นโรงพิมพ์ที่สมาคมฯ ได้สั่งพิมพ์พระคัมภีร์ฉบับศึกษาขนาดดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม โรงพิมพ์นี้สามารถพิมพ์ในขนาดที่ใหญ่ที่สุดได้เพียง 57.8 x 89 ซม. เท่านั้น ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าที่ตั้งใจไว้ 1 เมตร ดังนั้นทีมผู้จัดทำจึงได้พยายามติดต่อกับบริษัทจัดหาวัสดุอุปกรณ์และบริษัทคู่ค้าอื่นๆ เพื่อจะจัดพิมพ์พระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุดให้ได้ มีการขยายขนาดตัวหนังสือของพระคัมภีร์ฉบับนี้ในไฟล์อิเลคโทรนิคเป็น 500 เท่าของขนาดเดิมและผู้จัดทำได้ไปตามโรงพิมพ์แต่ละแห่งนับตั้งแต่โรงพิมพ์ที่ใช้เครื่องจักรแบบ Web/Sheet Fed ไปจนถึงโรงพิมพ์ที่ใช้ระบบการพิมพ์ดิจิตอล และแม้แต่โรงพิมพ์ที่อยู่ในเมือง จาวา (Java) แต่ก็ไม่มีโรงพิมพ์ไหนที่พิมพ์พระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุดที่ใช้กระดาษขนาด 28 กรัม หรือ 33 กรัมต่อตารางเมตรได้ บางแห่งสามารถพิมพ์ได้ แต่คุณภาพไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้ บางครั้งลายเส้นไม่ชัดเจน บางแห่งต้องการเวลาเตรียมงานนาน, บางแห่งมีปัญหาเรื่องกระดาษติดในเครื่องพิมพ์, พิมพ์ออกมาแล้วมีรอยยับย่น ตลอดจนถึงเรื่องการเสนอราคาพิมพ์ที่สูงมาก ระยะเวลาในการค้นหาโรงพิมพ์ที่เหมาะสมสำหรับการพิมพ์พระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุดนี้รวมแล้วประมาณ 1 ปี ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือน ธันวาคม 2010  ดังนั้นพอเริ่มต้นปี 2011 ทีมผู้จัดทำจึงเริ่มศึกษาเรื่องความสามารถของการพิมพ์ระบบดิจิตอลของแท่นพิมพ์ Plotter HP Designjet 800 PS ของโรงพิมพ์ของสมาคมฯ ซึ่งแท่นพิมพ์นี้สามารถที่จะพิมพ์ได้ขนาดกว้างกว่า 1 เมตร มีการทดลองพิมพ์หน้ากระดาษพระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุดนี้หลายต่อหลายครั้งเป็นเวลาถึง 3 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2011 และในที่สุดก็ประสบผลสำเร็จ เมื่อทดลองจนผลเป็นที่น่าพอใจแล้ว ทีมผู้จัดทำจึงตัดสินใจที่จะพิมพ์พระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุดนี้ที่โรงพิมพ์สมาคมฯ โดยใช้แท่นพิมพ์  Plotter HP Designjet 800 PS ด้วยกระดาษขนาด 40 กรัม ซึ่งฉีกขาดยากและมีความทึบแสงสูง อย่างไรก็ตาม มีการดัดแปลงแท่นพิมพ์รุ่นนี้เพื่อให้สามารถพิมพ์ในขนาด 1 เมตรได้ และมีขั้นตอนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะลงมือพิมพ์ได้ เช่น การสั่งซื้อกระดาษชนิด 40 กรัม ขนาด 105 ซม. x 5,000 ม., การเตรียมสายพานลำเลียงกระดาษ, การจัดเจ้าหน้าที่ที่มีความคุ้นเคยกับแท่นพิมพ์นี้และจะต้องคอยตรวจสอบคุณภาพงานที่ออกมา, การเตรียมโต๊ะขนาดใหญ่เพื่อวางหน้ากระดาษที่พิมพ์ออกมาแล้ว และการเตรียมห้องแอร์ที่มีอุณหภูมิคงที่สม่ำเสมอ

เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จึงมีการทดสอบการพิมพ์และผลปรากฏว่าดีกว่าที่คาดคิดไว้มาก น้ำหมึกคมชัด และกระดาษก็แทบจะไม่มีรอยย่นเลย ปัญหาต่างๆ ได้รับการแก้ไขหมด นี่เป็นผลมาจากความอดทนและความพยายามของทุกคนที่เกี่ยวข้อง

ขั้นตอนการบันทึกของพิพิธภัณฑ์การจดบันทึกอินโดนีเซีย 
จากผลการพิมพ์ของแท่นพิมพ์ Plotter HP Designjet 800 PS ที่ให้คุณภาพดีเท่ากับการพิมพ์ที่โรงพิมพ์ Goss Community นี้เอง ทีมผู้จัดทำจึงตัดสินใจที่จะติดต่อกับพิพิธภัณฑ์การจดบันทึกอินโดนีเซีย [Indonesian Museum of Records (MuRI)] เพื่อให้แน่ใจว่าพระคัมภีร์ฉบับศึกษาเล่มนี้เป็นพระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุด และทางพิพิธภัณฑ์ฯ มีเงื่อนไขอะไรบ้างในการจะตัดสินว่าพระคัมภีร์เล่มนี้เป็นพระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขณะเดียวกัน ทางสมาคมพระคริสตธรรมอินโดนีเซียก็ส่งรายละเอียดลักษณะเฉพาะของพระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุดนี้ให้แก่พิพิธภัณฑ์ฯ ด้วย และหลังจากที่ได้มีการสำรวจและการประชุมกรรมการอำนวยการของพิพิธภัณฑ์ฯ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2011 ที่ประชุมเห็นด้วยที่จะให้มีการจดบันทึกว่าพระคัมภีร์ฉบับศึกษาที่จัดทำโดยสมาคมพระคริสตธรรมอินโดนีเซียเป็นพระคัมภีร์ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย

บทความแปลจากหนังสือสำหรับใช้ในงานพิธีครบรอบการก่อตั้งสมาคมพระคริสตธรรมอินโดนีเซียปีที่ 58 และในโอกาสเปิดตัวอย่างเป็นทางการของอาคารศูนย์กลางพระคัมภีร์ ณ กรุงจาการ์ตา วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2012 (Thanksgiving Service on the occasion of The Indonesian Bible Society’s 58th Anniversary & The Official Opening Of The Bible Centre Programme Jakarta, 9th Feb 2012)

  • Thailand Bible Society