พระคัมภีร์ดิจิทัลหรือพระคัมภีร์เป็นเล่มอย่างไหนดีกว่ากัน?
ในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ (ยุคไอที) เข้ามามีส่วนในชีวิตของมนุษย์มากขึ้น จึงได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการสื่อสารอย่างมากมาย รวมทั้งการอ่านของประชาชนด้วย การอ่านพระคัมภีร์ของคริสตชนก็เปลี่ยนไปเช่นเดียวกันเมื่อโทรศัพท์สมาร์ทโฟนแท็ปเล็ตแพร่หลายโดยเฉพาะในหมู่เยาวชนและคนรุ่นใหม่ที่นิยมการอ่านหนังสือและอ่านพระคัมภีร์ทางแอพพลิเคชั่นซึ่งสะดวกและไม่ต้องถือพระคัมภีร์เล่มใหญ่ติดตัวแม้ไปโบสถ์ก็ไม่ถือพระคัมภีร์เพราะทุกอย่างอยู่ในโทรศัพท์มือถือแท็ปเล็ตคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาที่ใช้ง่ายมีรูปแบบการใช้งานหลากหลายสะดวกสบาย
ผู้เขียนเองก็ใช้อุปกรณ์ทุกอย่างที่กล่าวมานี้ เพราะสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องพกหนังสือศัพท์สัมพันธ์ พระคัมภีร์ฉบับแปลต่างๆ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหอบหิ้วติดตัว ส่วนการเฝ้าเดี่ยว อ่านหนังสือพระคัมภีร์หลายฉบับแปล ได้ประโยชน์สองทาง
การใช้พระคัมภีร์จากโทรศัพท์หรือแท็ปเล็ตมีข้อดีและข้อด้อยที่ควรพิจารณาดังนี้
- การอ่านพระคัมภีร์เป็นเล่ม ทำให้ได้สัมผัสความเป็นหนังสือ การหยิบและเปิดพระวจนะของพระเจ้าขึ้นมา ผู้อ่านแสดงออกของความปรารถนาจะสัมผัสกับพระวจนะนั้น เมื่อเปิดไปแต่ละหน้า จะรู้สึกถึงความบริสุทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ของพระวจนะ ทำให้มือ ตา โสตประสาท ได้สัมผัสกับพระวจนะและการสถิตอยู่ของพระเจ้า การอ่านพระคัมภีร์จากโทรศัพท์มือถือจะไม่ให้ความรู้สึกนี้มากนักเพราะคุ้นเคยกับการอ่านข้อมูลหรือใช้แอพพลิเคชั่นสื่อสารอื่นๆซึ่งส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณ
- พระคัมภีร์เป็นเล่มวางใจได้ ผู้อ่านหนังสือพระคัมภีร์ไม่ต้องห่วงแบ็ตเตอรี่หมด หรือ “ไว–ไฟ” ไม่เสถียร ไม่ต้องมีการอัพเดด ไม่มีตกรุ่นล้าสมัย แม้ไปในสถานที่ไม่มีไฟฟ้า ไม่ต้องห่วงจะไม่มีพระวจนะอ่าน
- การเขียนโน้ตและความทรงจำดีๆ เมื่อใดที่อ่านพระคัมภีร์ พบข้อความที่ชื่นชอบ มีความหมายต่อชีวิต จึงเขียนโน้ต หรือเขียนคำอธิบาย โยงข้อพระคัมภีร์ที่มีเนื้อหาเดียวกัน หรือความประทับใจอื่นๆ พระคัมภีร์ที่พิมพ์เป็นตัวหนังสือเล่มนั้นจะกลายเป็นสมบัติที่ทรงคุณค่าตลอดไป คุณอาจขอให้ผู้ที่อ่านพระคัมภีร์ที่พิมพ์เป็นเล่มเปิดดู ก็จะพบข้อความ การขีดเส้นใต้ โน้ตต่างๆ ที่น่าสนใจ
- มีความคุ้นเคย เครื่องมือใดที่ใช้สม่ำเสมอเป็นเวลานานจะทำให้คุ้นเคยผู้อ่านพระคัมภีร์เป็นเล่มมาก่อนเป็นเวลานานเมื่ออ่านปีแล้วปีเล่าจะพบว่าคุ้นเคยกับพระคัมภีร์เล่มที่อ่านเป็นประจำหน้าที่อ่านข้อพระธรรมที่ผ่านตาซ้ำๆจะค้นหาได้อย่างรวดเร็วง่ายดายโดยอาจไม่ต้องจำบทหรือข้อเพียงนึกขึ้นได้ว่าข้อความนั้นอยู่ส่วนไหนก็สามารถเปิดค้นหาได้ทันที
- สิ่งเดียว เล่มเดียว การเปิดพระคัมภีร์จากโทรศัพท์มือถือ หรือแท็ปเล็ต ต่างจากการเปิดพระคัมภีร์เป็นเล่ม พระวจนะของพระเจ้าคือคำตอบสุดท้าย สัมผัสได้ด้วยมือ นิ้วที่ชี้บนข้อพระธรรมตรงหน้า ทำให้ได้สัมผัสทางกายภาพ ย้ำเตือนให้คำนึงถึงความรอดของพระเจ้า และแผนงานของพระองค์ พระคัมภีร์เป็นเล่มไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ (พระวจนะ พระดำรัส ทุกสิ่งที่บันทึกบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์) ก็จริง แต่การได้หยิบ ได้สัมผัส เปิดออก ย่อมสร้างความรู้สึกทางใจที่แตกต่างจากโทรศัพท์มือถือ
- ดวงตาจดจ่อ เมื่อเฝ้าเดี่ยวด้วยการอ่านพระคัมภีร์เป็นเล่ม สายตาของผู้นั้นจะเพ่ง ค้นหาด้วยจุดมุ่งหมายที่แน่นอน รวมความสนใจไปที่สาระของพระวจนะนั้น ไม่เหมือนอ่านจากโทรศัพท์หรือแท็ปเล็ต สายตายอาจถูกแย่งความสนใจไปที่แอพพลิเคชั่นอื่นๆ (เวลาเปิดโซเชียลมีเดีย เป็นสิ่งที่เราทำเสมอ) ตรงกันข้ามกับการอ่านจากพระคัมภีร์เป็นเล่ม สายตาของเราจะค้นหาสิ่งอื่นๆ ในพระคัมภีร์เท่านั้น เช่น ข้อความที่สอดคล้องกัน หรือข้อพระธรรมที่เชื่อมโยงไปข้ออื่นๆ เมื่อพบข้อความที่ประทับใจ มีความสำคัญ อาจขีดเส้นหรือเขียนโน้ตลงข้างๆ ข้อความที่ประทับใจนั้น เพื่อเก็บความทรงจำไว้
- นำพระคัมภีร์ติดตัวเสมอ หนังสือพระคัมภีร์วางใจได้เสมอ (ดังที่กล่าวไว้ในข้อ 2) ยิ่งไปกว่านั้น การถือไว้ในมือย่อมทำให้เกิดความรู้สึกที่ดี พร้อมเปิดอ่าน ขีด เขียนโน้ต และไตร่ตรอง ยิ่งไปกว่านั้น หากเป็นพระคัมภีร์ฉบับอธิบาย ฉบับศึกษา จะทำให้ค้นคว้าได้ง่าย เมื่อเขียนโน้ตไว้ คุณรู้ที่มาที่ไปของข้อความนั้น ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้ จริงอยู่โทรศัพท์อาจพกพาสะดวกไม่หนักมือแต่จะไม่มีความรู้สึกเหมือนการมีพระวจนะของพระเจ้าที่ถาวรนิรันดร์ไว้ในมือ
- ไม่มีเสียงเตือน โทรศัพท์และแท็ปเล็ตมีเสียงเตือนเจ้าของตลอดทั้งวัน ทำให้ถูกรบกวนเสมอ หนังสือพระคัมภีร์ไม่มีเสียงใดๆ นอกจากเสียงเตือนด้วยความห่วงใยของพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้เปิดพระวจนะขึ้นมาอ่าน !
- ความศักดิ์สิทธิ์พิเศษ การอ่านหนังสือเพื่อจุดมุ่งหมายในการเฝ้าเดี่ยว เพื่อการใคร่ครวญภาวนา ต่างจากการอ่านหนังสือทั่วไป และต่างจากการอ่านจากจอเล็กๆ ที่ใช้ค้นหาสารพัดสิ่งในชีวิตประจำวัน ลองวางจอของคุณลง แล้วหันไปเปิดพระคัมภีร์เป็นเล่ม เพื่อจะเกิดบรรยากาศแห่งความบริสุทธิ์ โอบล้อมไปด้วยการประทับอยู่ด้วยของพระเจ้า สวรรค์ลงมาใกล้ ออกจากความสับสนวุ่นวายในชีวิต วางภาระที่หนักอึ้ง แล้วค้นหาพระประสงค์ของพระเจ้า จดจ่อสายตาไปที่ข้อพระธรรม และอ่านทบทวน ค้นหาคำสำคัญหรือคำหลัก (keyword) ไตร่ตรอง ค้นหาความหมายจากภาษาเดิม (ฮีบรู กรีก) สามารถค้นหาได้จากหนังสือคู่มือ พระคัมภีร์ฉบับอธิบาย ฉบับศึกษา ค้นหาจากอินเตอร์เน็ต จิตใจจะไม่วอกแวกไปจากพระวจนะ แตกต่างจากการสไลด์หน้าจอ
- เข้าใจบริบทในพระคัมภีร์ การไม่อ่านพระคัมภีร์จากพระคัมภีร์เป็นเล่ม การอ่านจากโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต ทำให้ขาดภาพรวมบริบทในพระธรรม เมื่ออ่านจากหน้าจอเล็ก ๆ จะทำให้ไม่เห็นภาพทั้งหมดในเวลาเดียวกัน พระคัมภีร์จากมือถือภาษาไทยบางฉบับแปล อาจไม่มีหัวข้อบอกบทหรือตอน การนำข้อพระธรรมโยงไปยังข้ออื่นที่มีเนื้อหาเดียวกัน ไม่มีภาพ ความหมายคำศัพท์ และรายละเอียดอื่น
เราทราบดีว่าพระคัมภีร์บอกกล่าวเรื่องราวแผนการไถ่ให้รอดของพระเจ้า เพื่อนำสรรพสิ่งที่ทรงสร้างไว้กลับสู่สภาพดีดังเดิม (2 คร.13:9,11) โดยทางพระคริสต์แผนการนี้เกิดขึ้นในกำหนดเวลามีบุคคลเกี่ยวข้องมีการเรียกร้องคนบาปให้กลับใจและรับเอาการอภัยตามพระสัญญาแห่งพระคุณ
พระธรรมทั้ง 66 เล่ม ที่เขียนไว้นับพันปี เมื่อหยิบเอาโน่นบ้าง นี่บ้างมาอ่าน ย่อมทำให้พลาดสาระสำคัญ ต่างจากการเปิดพระคัมภีร์เป็นเล่มที่กางออก แต่ละหน้า ย้อนไปมาด้วยนิ้วของคุณเอง แม้ว่าต้องหอบหิ้วหนังสือเล่มหนา ไม่สะดวกสบาย (ทั้งที่ก่อนมีสมาร์ทโฟน เราก็ถือพระคัมภีร์เสมอมา) แต่เราไม่อาจละเลยสาระทั้งหมดของพระวจนะ
อีกนัยหนึ่งการอ่านพระคัมภีร์เป็นเล่มก็เหมือนเราได้ท่องไปในเรื่องราวต่างๆของแผนการแห่งความรอดของพระเจ้าจะทำให้คุณเข้าใจและรู้ว่าขณะนี้ตนเองยืนอยู่จุดไหนของแผนการนี้
การทำสัญลักษณ์ ขีดเส้นใต้พระธรรมที่ชื่นชอบ
ท่านที่ค้นพบข้อพระธรรมในพระคัมภีร์ที่น่าสนใจต้องการจดจำหรือเน้นความสำคัญมีคำแนะนำว่าให้ขีดเส้นใต้หรือทำเครื่องหมายกำกับไว้เพื่อให้จดจำง่าย
มีวิธีการต่างๆ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ผู้เขียนใช้ดินสอหลากหลายสี เขียนสัญลักษณ์ ขีดเส้นใต้ ขีดกรอบ ทำเครื่องหมายกำกับ ทำมานานหลายสิบปี ทำให้การค้นหาข้อพระธรรมง่ายขึ้น จดจำพระธรรมนั้นดีขึ้น มีพระคัมภีร์ที่ขีดอย่างเป็นระเบียบ น่าอ่าน และรักพระคัมภีร์ที่ขีดเขียนยิ่งกว่าสิ่งมีค่าใด
การทำเครื่องหมายสัญลักษณ์ เพื่อทำให้จดจำง่ายดังตัวอย่างต่อไปนี้
- แท่นบูชา – เป็นภาพแทนการถวายบูชา หรือการการอุทิศตน การบูชา เป็นต้น เช่น อับราฮัมถวายบูชา (ปฐก.22:6) หรือเปาโลเรียกร้องให้ถวายกายเป็นเครื่องบูชา (รม.12:1)
- ปีกนกพิราบ – เป็นภาพแทนพระวิญญาณบริสุทธิ์ เขียนอักษรต่อไปนี้บนปีก D (descent แทนด้วยอักษร ล. ก็ได้) ) ย่อจากการ “หลั่ง” ลงมา หมายถึง การเสด็จลงมาของพระวิญญาณ อักษร I (indwell แทนด้วยอักษร ส.) หมายถึง การประทับของพระวิญญาณ อักษร T (teaching) (หรือ) หมายถึงการสอนโดยพระวิญญาณ
- หนังสือ – เป็นเครื่องหมาย พระดำรัสของพระเจ้า
- ไม้กางเขน – เครื่องหมาย การสละพระชนม์ของพระเยซู อาจเขียนโน้ตอธิบายเหตุการณ์
- แอก – (มธ.11:29) – เครื่องหมาย การรับใช้
- หัวใจ – เครื่องหมาย ความรัก
- ดาบ – เครื่องหมาย สงคราม หรือพระแสงแห่งพระวจนะ
- ควันเครื่องหอม – เครื่องหมายการอธิษฐานคำอธิษฐาน
- พิณ – เครื่องหมายการสรรเสริญ
นอกจากนี้การขีดเส้นใต้ข้อพระคัมภีร์ช่วยทำให้จำได้ง่ายและง่ายหากเราขีดด้วยดินสอสีโดยใช้สีแทนหัวข้อที่ต้องการเน้นเช่น
- สีน้ำเงิน – ขีดใต้ข้อความทั่วไป
- สีแดง – ขีดใต้ข้อความสำคัญมาก สีแดง สีใช้แทนพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อขีดแล้ว ทำเครื่องหมายไม้กางเขนกำกับด้วย เมื่อเปิดอ่านจะรู้ทันทีว่าหมายถึงอะไร
- สีเขียวเข้ม – ขีดใต้ข้อความที่เกี่ยวข้องกับพระบัญญัติสิบประการการประพฤติตามพระบัญญัติ
- สีเขียวอ่อน – การสร้างโลกธรรมชาติ
- สีเหลืองอ่อน – สิ่งที่เกี่ยวข้องทูตสวรรค์
- สีเหลืองเข้ม – พระเจ้า พระดำรัสของพระเจ้า พระลักษณะของพระเจ้า
- สีม่วง – ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพระเยซูคำพยากรณ์เกี่ยวกับพระเยซูพระดำรัสของพระองค์
- สีม่วง – เขียนไม้กางเขนสีม่วงด้านข้าง การสละพระชนม์ของพระเยซู
- สีฟ้าอ่อน – การเสด็จกลับมาครั้งที่สอง ท้องฟ้า
- สีชมพู – ความรักของพระเจ้า รักระหว่างพี่น้อง ความรัก
- สีทอง/เหลือง – สวรรค์ พระวจนะของพระเจ้า พระคัมภีร์ ความเป็นนิรันดร์ ชีวิตนิรันดร์
- สีดำ – ความตาย บาปหนา บาปชั่วร้ายแรง
- สีดำ – ทำเครื่องหมายไม้กางเขนด้านข้าง แสดงถึงการเป็นขึ้นมาจากความตาย
- สีเทา – ความบาปความชั่วการประพฤติชั่ว
- สีส้ม – คำอธิษฐานการอธิษฐาน
- สีน้ำตาลเข้ม – ความรอด การช่วยกู้ บัพติศมา
- สีน้ำตาลอ่อน – ความดีงาม ความชอบธรรม การดี คำสรรเสริญ
- สีอื่นๆ กำหนดแทนหัวข้อตามที่ต้องการ
- สีเหล่านี้เป็นเพียงการเลือกของผู้เขียนเท่านั้น ท่านสามารถเลือกสีแทนตามที่ชอบ
- นอกจากนี้ เราสามารถเลือกสีอื่นๆ เพื่อเป็นตัวแทนของถ้อยคำที่เราต้องการเน้น ด้วยการกำหนดเอง
เมื่อขีดเส้นใต้ ทำเครื่องหมายกำกับ ทำบ่อยๆ เมื่อเปิดพระคัมภีร์ คุณจะจดจำสีเหล่านั้นว่า หมายถึงอะไร ทำให้รู้ได้ทันที ง่ายต่อการค้นหาเนื้อหาที่ต้องการ
เมื่ออ่านพระคัมภีร์ ให้ค้นหาคำหลักหรือคำสำคัญ (keyword) ของประโยคนั้นๆ คำเหล่านี้มีประเด็นน่าสนใจ ด้วยการขีด 2 เส้น เพื่อเน้น หรือขีดด้วยสีแรก และขีดอีกเส้นด้วยสีแดง เพื่อให้เห็นความแตกต่างให้ชัดเจน ตัวอย่างเช่น
พระองค์ตรัสว่า “ถ้าเจ้าใส่ใจฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า และทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระองค์ อีกทั้งเงี่ยหูฟังพระบัญญัติของพระองค์ และรักษากฎเกณฑ์ของพระองค์ทุกประการแล้ว โรคต่างๆ ซึ่งเราบันดาลให้เกิดแก่คนอียิปต์นั้น เราจะไม่ให้เกิดขึ้นกับเจ้าเลย เพราะเราคือยาห์เวห์แพทย์ของเจ้า” (อพยพ 15:26)
คำหลักที่สำคัญได้แก่
- “ใส่ใจฟัง”
- “ทำในสิ่งถูกต้อง”
- “เงี่ยหูฟัง”
- “รักษากฎเกณฑ์”
สดุดี 1:1 บุคคลผู้เป็นสุขคือ ผู้ไม่เดินตามคำแนะนำของคนอธรรม ไม่ยืนอยู่ในทางของคนบาป ไม่นั่งอยู่ในที่นั่งของคนที่ชอบเยาะเย้ย
คำหลักที่สำคัญได้แก่
- ผู้เป็นสุข
- ไม่เดิน
- ไม่ยืน
- ไม่นั่ง
ฝึกเป็นนิสัยทำให้การอ่านพระคัมภีร์น่าสนใจยิ่งขึ้น
คำแนะนำสำหรับผู้ใช้พระคัมภีร์มีซิป หากมีอาการติดขัด ให้ใช้ “วาสลิน” ทาเล็กน้อย จะทำให้เปิดคล่องขึ้น
เนื่องจากกระดาษพระคัมภีร์บางมาก การขีดด้วยปากกาหมึกซึม หรือปากกาลูกลื่น หรือสีไฮไลท์จะทำให้สีทะลุไปอีกด้านอุปกรณ์เหล่านี้มีน้ำผสมจะทำให้กระดาษบวมย่นดูไม่สวยงามและอายุการใช้งานพระคัมภีร์สั้นลงดินสอสีเหมาะกับการขีดเส้นที่สุด เพราะไม่มีน้ำ ขอแนะนำยี่ห้อ COLLEEN มีคุณภาพดี หรือยี่ห้อไหนก็ได้ตามสะดวก
- เรื่อง ศจ.ดร.สุรเชษฐ์ อินสม
- ภาพ Ungvar – Freepik.com