พระเจ้าทรงแสนดี
ผู้คนมากมายใฝ่ฝันที่จะเป็นแพทย์ เพราะด้วยหลากหลายเหตุผล อาทิ เป็นอาชีพที่ไม่ตกงานมีรายได้ดี ผู้คนให้เกียรติ ทําให้ตัวเองดูดี และได้ ช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการได้ช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ด้วยกันให้พ้นจาก ความเจ็บป่วยและความตาย แต่การเป็นแพทย์นั้น ไม่ใช่จะเป็นได้ทุกคน ต้องสมองดี มีการเตรียมตัว เตรียมชีวิตอย่างดี ต้องเรียนให้เก่งทุกวิชา วิชาไหนไม่เก่งก็ต้องไปเรียนกวดวิชาเพื่อให้เก่งขึ้น เพราะต้องสอบให้ได้คะแนนตามเกณฑ์ที่แพทยสภากําหนดไว้จึงจะเรียนเป็นแพทย์ได้ เมื่อสอบผ่านและเรียนจนจบได้ใบประกอบโรคศิลป์แล้ว แพทย์ก็ยังคงต้องศึกษาเรียนรู้ตลอดเวลา เพราะอาชีพนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของชีวิตคน ทุกวันของชีวิตพบแต่ผู้ป่วยที่ต้องการให้รักษาพวกเขาให้หายดีและมีร่าง กายกลับคืนมาเป็นปกติ ชีวิตแพทย์จึงต้องพึ่งพาการทรงนําของพระเจ้า และไว้วางใจพระเจ้าอย่างมากมาย ขอแนะนําให้รู้จักกับ นายแพทย์นิรันดร์ ภัทรานุกุล
นาย แพทย์นิรันดร์ ภัทรานุกุล อายุ 54 ปี จบแพทย์ศาสตร์ และวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสูตินรีเวชวิทยา วชิระพยาบาล กรุงเทพฯ ทํางานเป็นหัวหน้าแผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลแมคคอร์มิค จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสมาชิกคริสตจักรจีนเชียงใหม่สมรสกับ ทพญ.ศิรินันท์ ภัทรานุกุล มีบุตรชายคือนายภาษิต ภัทรานุกุล (สมรสกับคุณสุรัตนาวีสุวิพร หรือโบว์-ไทรอัมพ์สคิงดอม) และบุตรสาวคือนางสาวสดุดี ภัทรานุกุล
รู้จักพระเจ้า
ผม เองเติบโตในครอบครัวคริสเตียนและเติบโตในคริสตจักรตั้งแต่เด็กๆ กระทั่งตอนอยู่ช่วงมัธยมปลาย ก็ได้มีโอกาสไปค่ายอนุชนของคริสเตียนที่หาดจอมเทียน พัทยา จังหวัดชลบุรีตอนนั้นก็มีการตั้งคําถามว่าถ้าเราตายจากโลกนี้ไป เราสามารถขึ้นสวรรค์ได้หรือเปล่า และนั่นก็เป็นจุดเปลี่ยนว่าคุณหมอตัดสินใจที่จะไม่เป็นคริสเตียนธรรมดา (ที่เชื่อตามพ่อแม่) เท่านั้น แต่จะต้องกลับใจใหม่กับพระเจ้าแม้ว่าพ่อแม่ของเราจะเป็นคริสเตียนอยู่แล้วก็ ตามการกลับใจเชื่อพระเยซูคริสต์นั้นจะต้องมีสัมพันธภาพกับพระเจ้าอย่างต่อ เนื่องและจะต้องมีความเข้าใจว่าแท้ที่จริงเราไม่ได้ถูกตั้งชื่อหรือเป็น คริสเตียนเพราะเกิดในครอบครัวคริสเตียนเท่านั้นแต่หมายถึงการบังเกิดใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อทั้งความรู้สึก ความเข้าใจในเรื่องของความรอดไม่ใช่ว่าทุกคนที่ไปโบสถ์จะเป็นคริสเตียนโดย ปริยาย ไม่ได้หมายความอย่างนั้นย้อนกลับไปตอนเด็กๆ ก็คือคุณพ่อคุณแม่ให้ไปโบสถ์ มีคนเอารถมารับก็ไปทุกอาทิตย์ผมก็เข้าใจว่าเราเป็นคริสเตียนและคงได้ไปอยู่ กับพระเจ้าแต่หลังจากไป ค่ายอนุชน อาจารย์ที่เทศนาก็ย้ําตรงนี้ว่ามันไม่ใช่แค่การไปโบสถ์ทุกอาทิตย์จะกี่ปีก็ ตามแล้วเราถูกเรียกว่าเป็นคริสเตียนและถูกเปลี่ยนสถานะให้เป็นลูกของพระเจ้า ได้ความรอดหรือขึ้นสวรรค์เมื่อเราตายไปแล้วไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่การบังเกิดใหม่ต่างหากเป็นการได้เชื่อในพระเจ้าอย่างสมบูรณ์แบบ
ชีวิตเปลี่ยนไป
การเชื่อพระเจ้าชีวิตต้องเปลี่ยนใหม่หมดเลย เพราะเราไม่ได้เป็นเจ้าของตัวเราเอง พระเจ้าให้เราอยู่ในโลก และพระองค์ตายเพื่อไถ่บาปของเรา นั่นแสดงว่าพระเจ้ารักเรามาก ทําให้ตระหนักได้ว่าพระเจ้าชําระล้างความผิดบาปของเราความจริงเราจะต้องถูก ทําโทษจากความผิดบาปของเรา แต่เมื่อพระเจ้าเปลี่ยนเรา ท่าทีเราจึงเปลี่ยนเพราะคิดถึงว่าพระเจ้าที่ไม่ได้ทําผิดแต่ได้ยอมจ่ายด้วย ชีวิตของพระองค์เองให้กับเรา ทําให้รู้สึกว่าทําไมพระเจ้าดีกับเราอย่างนี้พระเจ้าทําเช่นนี้เพื่อเรา ทําให้จิตใจข้างในอยากจะทําอะไรสักอย่างหรือหลายๆอย่างในชีวิตให้สมกับความ รักของพระเจ้าที่ยกโทษความผิดบาปในชีวิตของเราทั้งหมด 100% เราก็อยากจะให้พระเจ้ากลับคืนบ้าง
เลือกเรียนแพทย์
เหตุผล ที่ผมเลือกเรียนแพทย์เพราะเป็นอาชีพที่มีโอกาสดีหลายอย่าง โดยเฉพาะการช่วยผู้อื่นทางร่างกายที่เจ็บป่วยและทรมานอีกทั้งมีโอกาสพิเศษใน การเป็นพยานและให้ผู้อื่นมีโอกาสฟังเรื่องความรอดของพระเยซูคริสต์และที่ เลือกเรียนแพทย์เฉพาะทางเป็นสูตินรีเวชวิทยา เป็นสาขาที่ได้ทําคลอด ได้เห็นชีวิตใหม่จากทารกที่คลอดออกมาแล้วก่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีแม้อาจจะ ต้องแลกด้วยความเครียดจากการทํางานบ้างก็ตามอีกประการหนึ่งผมเป็นคนชอบงาน ด้านการผ่าตัด จึงตัดสินใจเลือกสาขานี้
ใครที่อยากเป็นหมอ ฟังทางนี้!
สําหรับวัยรุ่นที่อยากเป็นแพทย์สามารถทําได้แต่ควรตรวจเช็คว่ามีความชอบเพียงพอไหม จากการศึกษา อ่านข้อมูล สังเกตดูงานจากคนที่เป็นแพทย์ในความคิดว่าแพทย์น่าจะเป็นอย่างนั้นเป็นอย่าง นี้กับสิ่งที่เป็นความจริงอาจ จะคนละอย่างกัน ฉะนั้นถ้ามั่นใจชัดเจนแล้ว ที่เหลือก็จะเป็นเรื่องของการเรียนจัดเตรียมเรื่องวิชาการ เตรียมตัวในการสอบเข้า แต่หัวใจคือความชอบความถนัดเพราะเป็นงานที่หนักมากพอสมควร ต้องใช้กําลังกายกําลังใจเยอะมากต้องทุ่มเท เพราะในหลายสถานการณ์จะต้องเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบสูงเกี่ยวกับชีวิตคน อะไรที่เลินเล่อ ละเลย หรือไม่รู้จริงจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อชีวิตคน ฉะนั้นจึงเป็นพันธกิจแห่งความรับผิดชอบที่สูงเพราะเกี่ยวข้องกับชีวิตผู้คน
อาชีพแพทย์และบทบาทพิธีกร
การรับใช้พระเจ้ามีหลายรูปแบบหลายบทบาท การเป็นแพทย์เป็นหน้าที่โดยตรง เป็นการดูแลฝ่ายร่างกาย ต่างกับการเป็นพิธีกร การเป็นแพทย์เน้นการดูแลสุขภาพร่างกาย รักษาอาการเจ็บป่วยปัจจุบันทันด่วนให้หายจากภาวะวิกฤตและแม้กระทั่งการช่วย ชีวิตในบางภาวะ อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณโดยตรง แต่ในฐานะแพทย์ที่เป็นคริสเตียน ทําให้มีโอกาสหลายครั้งที่เจอคนไข้บางคนแล้วเรามีความรู้สึกอะไรบางอย่างที่ อยากเป็นพยานด้วยในเวลาที่สามารถทําได้ หลายครั้งจึงมีโอกาสได้พูดคุยกับคนไข้และมีบางคนได้ตัดสินใจรับเชื่อพระเจ้า นี่เป็นโอกาสของการเป็นแพทย์ ส่วนการเป็นพิธีกรนั้นคือการพูดเรื่องราวของพระเยซูคริสต์เจ้าโดยตรงกับผู้ คนมากมายหลายกลุ่ม เด็ก ผู้ใหญ่ คนแก่ วัยทํางานนักศึกษา ซึ่งจะกว้างกว่า แต่ทั้งสองด้านที่เป็นแพทย์และพิธีกรสามารถถูกใช้ให้เป็นประโยชน์ในงานของ พระเจ้าได้ทั้งสิ้น อาจจะแตกต่างกันบ้างในลักษณะของหน้าที่การเตรียมตัวส่วนใหญ่จะได้เป็นบทมา ว่าวันนี้เราจะอัดกี่ตอน แต่ละตอนมีที่มาที่ไปอย่างไร อะไรคือประเด็นหลักที่เราอยากจะเน้นในตอนนี้ หมอจะได้รับมาศึกษาล่วงหน้าอธิษฐานและทําความเข้าใจการพูดทั้งเรื่องความรู้ และเกี่ยวกับสงครามฝ่ายวิญญาณ เราจะต้องให้ผู้คนที่แสวงหาให้ได้พบกับพระเจ้าและได้รับชัยชนะจากการทดลอง จากผีมารซาตานที่ผูกมัดในชีวิตของเขา ซึ่งจะต้องดึงเขาออกมาไม่ใช่ด้วยริมฝีปาก แต่ต้องอาศัยอํานาจของพระวิญญาบริสุทธิ์ ฤทธิ์อํานาจของพระเจ้า นี่คือสิ่งที่ต้องทําก่อนบทบาทด้านอื่นๆ ในบางครั้งมีการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ซึ่งในอดีตจะออกบ่อย แต่ปัจจุบันน้อยลงมาบ้างเพราะงานประจําที่ต้องรับผิดชอบที่โรงพยาบาลเยอะมาก จนไม่มีเวลา
ทัศนะแพทย์ในการเลี้ยงลูก
เดิมผมอยู่กรุงเทพฯ และผมย้ายมาเชียงใหม่เพราะการศึกษาของลูกทั้งสอง และเพราะแม่ของผมที่อายุมากขึ้นอยากใช้เวลาดูแลท่าน และเพราะมารับใช้ที่โรงพยาบาลแวนต์แซนต์วูด ลําปาง ซึ่งกําลังต้องการแพทย์มาบริหารงานการเลี้ยงลูกของผมคือให้ลูกมีโอกาสกับ สิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะท่ามกลางพี่น้องคริสเตียน พ่อแม่ต้องดูแลกันอย่างดีก่อนเสมอ ภรรยาเอาใจใส่ลูกอย่างใกล้ชิด ให้แนวคิดทางการศึกษา การดําเนินชีวิต อาชีพ การรับใช้พระเจ้าโดยพูดคุยกันและให้พวกเขาตัดสินใจเอง เมื่อคิด (ชื่อเล่นคุณภาษิต) ลูกชายของผมเริ่มรู้จักกับโบ (สุรัตนาวี) ผมเพียงให้ทั้งสองมีความเชื่อและความรักในพระเจ้าที่แข็งแรงแล้วให้เขา ตัดสินใจในการใช้ชีวิตคู่บนความเชื่อความเหมือน และความต่างกัน
ดําเนินชีวิตกับพระเจ้า
ประสบการณ์ที่สําคัญในการติดตามพระ เจ้าตอนหนึ่งที่ผมได้ไปทํางานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดลําปาง ซึ่งเคยปิดตัวลง และสภาคริสตจักรก็อยากให้โรงพยาบาลนี้กลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง แต่เวลาที่ห่างหายไปก็ทําให้สภาพทรุดโทรมไปมาก ทั้งตัวอาคาร บุคลากรและการเงิน เรียกได้ว่าไม่มีอะไรที่ยืนอยู่ได้เลย ตอนที่ถูกทาบทามให้ไปดูแลทั้งอาคารสถานที่ คน และการเงิน เมื่อดูแล้วเป็นสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะต้องทําให้กลับฟื้นยืนขึ้นมา ได้อีกครั้งหนึ่ง มีหลายคืนที่ผมยืนอยู่หน้าโรงพยาบาลซึ่งบรรยากาศก็น่ากลัวมากเพราะเป็นโรง พยาบาลเก่าแก่ด้วย เมื่อมองดูอาคารที่ทรุดโทรมและดูน่ากลัวนี้ ก็ถามพระเจ้าว่าพระองค์อยากให้ทําอะไรกับสถานพยาบาลแห่งนี้ สิ่งหนึ่งที่คิดเข้ามาอีกครั้งหนึ่งคือเราถูกให้มารับภาระรับใช้ ถ้าด้วยกําลังของเราอาจจะทําไม่ได้เพราะโรงพยาบาลเก่ามากและมีขนาดเล็ก เพียง 30 เตียงแต่ด้วยความเชื่อและนี่คือจุดแรกที่ต้องทําในชีวิตของเราก่อน และก็ได้เริ่มต้นจากความเชื่อเล็กๆ ตรงนั้น แปลงผลมาเป็น มีห้องหนึ่งเป็นห้องคนไข้ที่พื้นเป็นซีเมนต์เก่าๆจึงเริ่มจากกระเบื้องไม่ กี่แผ่นใช้เงินส่วนตัวที่มีอยู่เล็กน้อย และช่างของโรงพยาบาลที่พอมีฝีมืออยู่บ้าง ในห้อง 109 ทํากันเองแล้วก็ดูดีขึ้นมาจากห้องที่ทรุดโทรมแค่พื้นที่เล็กๆไม่กี่ตาราง เมตร ที่ได้คือทั้งเป็นสื่อและสัญลักษณ์ของความเชื่อซึ่งลงมือทําและเริ่มทําและ พนักงานก็มาร่วมกัน เพราะจากที่ดูไม่ได้ก็เริ่มดูดีขึ้นมาเหมือนหน่อจากเมล็ดที่เริ่มงอกออกมา เมื่อเราเริ่มต้นความเชื่อของเราก็ทําให้คนอื่นได้เห็นการเริ่มต้นของโรง พยาบาล ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ก็ค่อยๆดีขึ้น ขยายตัวมากขึ้น มีแผนกฟอกไตซึ่งถือว่ามีจํานวนคนที่มาฟอกไตมากที่สุดในจังหวัดลําปางก็ว่า ได้แม้ว่าจะเป็นโรงพยาบาลเล็ก เรามีโครงการฉีดวัคซีนซึ่งได้รับความไว้วางใจจากโรงเรียนต่างๆ มียอดฉีดสูงมาก และเมื่อยังไม่มีใครทํากับผู้สูงอายุ โรงพยาบาลก็ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าพาบุพการีมาให้โรงพยาบาลดูแล ถึงแม้จะไม่ฟู่ฟ่าแต่ก็รอดพ้นวิกฤตมาได้ฉะนั้นจุดเริ่มต้นของความเชื่อจึง เป็นสิ่งสําคัญในชีวิตของเรา แม้ดูเหมือนว่าเป็นศูนย์ เป็นไปไม่ได้ เริ่มต้นไม่ต้องใช้ความเชื่อในเรื่องใหญ่ๆก็ได้ ให้วางใจพระเจ้า เชื่อฟังและก็ทําเราก็จะเห็นการเกิดผล เป็นประสบการณ์ที่อัศจรรย์ซึ่งได้เห็นคนที่มาร่วมสนับสนุนพันธกิจและทําเป้า หมายที่ทําให้สถานพยาบาลแห่งนั้นเกิดดอกออกผลและถวายเกียรติแด่ พระเจ้า
ผมเคยพบสถานการณ์ฉุกเฉินที่ยาก จําได้ว่าครั้งหนึ่งอยู่เวร บังเอิญมีคนไข้ถูกยิงบริเวณช่องท้อง และเสียเลือดมากจําเป็นต้องผ่าตัดด่วนแต่ผมเป็นสูติแพทย์ที่ไม่มีความชํานา ญการผ่าตัดลําไส้จากการถูกยิงด้วยปืนลูกซองแล้ววันนั้นศัลยแพทย์ไม่อยู่ เนื่องจากเดินทางไปกรุงเทพฯณเวลานั้นเป็นเรื่องที่เครียดมาก สิ่งที่ทําได้คืออธิษฐานขอพระเจ้าช่วยเหลือในวันนั้นที่จะสามารถทําการผ่า ตัดเพื่อรักษาชีวิตเขาให้ได้ เราใช้เวลาไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมงกว่าจะผ่าตัดเสร็จในที่สุดผู้ป่วยคนนั้นรอดชีวิตและปลอดภัยผมรู้ว่า ในเวลาที่สถานการณ์มืดมิด พระเจ้าจะอยู่ด้วยกับเราและช่วยเราเสมอ
งานรับใช้ที่คริสตจักรจีนเชียงใหม่
ปัจจุบัน ผมรับใช้พระเจ้าที่คริสตจักรจีนเชียงใหม่ในตําแหน่งผู้ปกครองคริสตจักร ในฐานะผู้ปกครองของคริสตจักร มักจะเป็นการให้คําปรึกษาช่วยเหลือสมาชิกที่มีปัญหาแนะนําและแก้ปัญหาให้พวก เขา สอนรวีวารศึกษาชั้นผู้ใหญ่เทศนาในบางวาระ
เป้าหมายสูงสุดในชีวิต
ผม อยากให้ชีวิตของผมเองเป็นท่อพระพรส่งต่อผู้อื่น โดยเฉพาะพระพรฝ่ายจิตวิญญาณ ที่ทําอย่างไรจึงจะให้ผู้คนมากมายสามารถที่จะพบกับความรอด สามารถที่จะพบกับคําตอบในชีวิตสามารถที่จะหลุดพ้นจากความผิดบาปได้พบกับองค์ พระเยซูคริสต์ นี่คือความต้องการสูงสุดผ่านชีวิตของเราที่พระเจ้าจะทํางาน และอยากแบ่งปันความรู้ที่เรามีเพื่อผู้คนจะสามารถมีความสุขขึ้น มีสุขภาพที่ดีขึ้น แต่จิตวิญญาณต้องมาก่อน
ข้อพระธรรมประจําใจ
เป็น ที่คุ้นเคยคือในฟีลิปปี 4:13ข้าพเจ้าเผชิญได้ทุกอย่างโดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกําลังข้าพเจ้า ส่วนตัวของผมเองใช้บ่อยในวิชาชีพที่ทําเช่นเจอเหตุการณ์ที่ซับซ้อนและยาก การทํางานชีวิตทั่วไป ซึ่งมีโจทย์ที่ยาก ตัน คิดไม่ออก หรือไม่รู้จะเป็นยังไง เทาๆ ซ้ายหรือขวาตัดสินใจอย่างไรดี เรารู้อยู่ว่าถ้าเราไว้วางใจพระเจ้า พระองค์จะเสริมกําลัง และในยามที่เราอ่อนแอพระเจ้าก็จะเสริมกําลังทั้งความคิด ร่างกาย และจิตวิญญาณทุกอย่าง จึงชอบข้อนี้ที่สุด ฉะนั้นจึงทําให้รู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา เราไปไหนเราไม่ได้ไปคนเดียว เราทําโครงการฯ เราไม่ได้คิดอยู่คนเดียวหรือทําตามลําพัง แต่ผู้สนับสนุนที่สุดยอด พระเจ้าที่ยิ่งใหญ่อยู่กับเราเสมอฮีบรู 11:1“ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่หวังไว้ เป็นความแน่ใจในสิ่งที่มองไม่เห็น” ความเชื่อเป็นสิ่งสําคัญในการดําเนินชีวิตและการรับใช้พระเจ้า หลายครั้งเราต้องการมองเห็นทุกอย่างก่อนจึงจะเชื่อ แต่ความเชื่อจะนําเราเมื่อเราจําเป็นต้องทําบางสิ่งในขณะที่ไม่มีหนทาง
ฝากถึงคริสตชน
อยาก หนุนใจคนที่เป็นพี่น้องคริสตชน ชีวิตผู้เชื่ออย่างเราหลายครั้งอาจราบเรียบสวยงามสบายๆ แต่หลายครั้งก็เจอสิ่งที่ยาก ฉะนั้นไม่ว่าเราจะเป็นคริสเตียนไม่กี่วัน ไม่กี่เดือน ไม่กี่ปีที่ผ่านมาสิ่งที่จะต้องทําคือว่าให้ยึดแน่น เกาะติดกับพระเยซูคริสต์เจ้าเท่านั้น บางครั้งบางคนอาจหลงหายไปบ้างก็อาจเป็นธรรมดาที่แรงกดดันทําให้เราอ่อนแอแต่ อยากให้กลับคืนมาอย่างเร็ว การมีเป้าหมายที่พระเยซูคริสต์เจ้าเป็นสิ่งที่ทําให้เราไปต่อในการติดตามพระ เจ้า เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งไปอ่อนแรงอ่อนใจกับการที่เราอาจจะติดตามแล้วทําไมไม่ ได้ดั่งใจ พระเจ้าจะทําให้สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราเหมาะสมและพอดี เพราะวิถีทางของเราไม่ใช่วิถีทางของพระเจ้า ขอให้สบายใจว่าติดตามพระเจ้าไม่หลงทางแน่นอน กรณีสําหรับคนที่ไม่เคยรู้จักพระเจ้าเลยอยากหนุนใจว่าเรามีชีวิตเดียว บางคนมีชีวิตอีกนาน หรืออายุยังน้อย แต่เราก็พบว่าบางคนก็จากโลกนี้ไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่ผู้สูงวัยก็ยังรู้สึกหลงทางในชีวิตได้เช่นกัน ฉะนั้นใครที่ยังไม่มีพระเจ้า ก็อยากขอให้ลองเปิดจิตใจของเรา เปิดวิญญาณของเราให้พระเยซูเข้ามาสัมผัส ให้พระเยซูเข้ามาเป็นคําตอบ ให้พระเยซูเข้ามาเยียวยาแล้วเราจะพบว่าไม่มีความรักใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าความ รักของพระเจ้าที่จะมอบให้กับผู้คนไม่ว่าจะเชื้อชาติศาสนาใด มีเงินทองมากมายหรือไม่มีเงินทองเลย การศึกษามาก การศึกษาน้อย พระเจ้าไม่ทรงสนใจ แต่พระเจ้ามองผ่านทะลุเข้ามาในจิตวิญญาณของเรา ฉะนั้นใครที่ไม่เคยรู้เรื่องราวความรักของพระเจ้าก็ลองเปิดใจ แล้วเราจะรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ขอพระเจ้าอวยพรครับ
- นายแพทย์นิรันดร์ ภัทรานุกุล