พระเจ้าผู้ทรงเติมเต็มชีวิต 2/19

พระเจ้าผู้ทรงเติมเต็มชีวิต

สมาคมพระคริสตธรรมไทยเริ่มต้นจัดการแข่งขันพระคัมภีร์เยาวชนขึ้นตั้งแต่ปี 2002 ในชื่อ “ซูเปอร์จิ๋วเจาะโลกพระคัมภีร์” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนรักการอ่านพระวจนะของพระเจ้าซึ่งเปรียบเหมือนกับการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อที่จะถูกปลูกฝังอยู่ในชีวิตของเยาวชน และเกิดผลที่ดีในอนาคต …ภายใต้การแข่งขันพระคัมภีร์ที่จัดต่อเนื่องมาถึง 17 ปี มีเด็กคนหนึ่งที่เข้าร่วมการแข่งขันพระคัมภีร์กับสมา-คมฯ หลายต่อหลายครั้ง และเธอคนนี้ได้ตัดสินใจเข้าเรียนโรงเรียนพระคริสตธรรม เพราะด้วยเหตุผลคือ อยากเป็นคนคนหนึ่งที่จะถ่ายทอดพระวจนะของพระเจ้าที่เป็นจริงให้เกิดผลกับชีวิตของคนอื่น ให้พระวจนะของพระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาเหล่านั้น เหมือนที่พระเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอ

คุณกัณญณัฐ หัดไชยโย อายุ 19 ปี กำลังศึกษาอยู่คณะคริสตศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน ระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1 เป็นสมาชิกคริสตจักรดำรงพัฒนา บะยาว จ.อุดรธานี ในสังกัดสภาคริสตจักรภาคที่ 13

เชื่อพระเจ้า

ตอนอายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป. 6 หนูได้รู้จักกับพระเจ้าผ่านทางโครงการคอม-แพสชั่น ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยเหลือเด็กยากจน หนูไม่ใช่เด็กที่อยู่ในโครงการนี้ แต่ไปที่โครงการนี้เพราะเพื่อนชวนไป พอไปแล้วสนุก ได้ความรู้ ได้เรียนพระคัมภีร์ ครอบครัวหนูไม่ได้เป็นคริส- เตียนพ่อแม่แยกทางกัน พ่อทิ้งหนูไปตั้งแต่หนูยังเด็ก ทำให้หนูเป็นเด็กที่ขาดความรัก พอหนูไปร่วมกลุ่มกับคอมแพสชั่น ก็ได้ยินเรื่องราวของพระเจ้า เมื่อได้เรียน ได้ศึกษามากขึ้น ทำให้รู้สึกได้ว่าพระเจ้าได้มอบความรักให้หนูทำให้หนูรู้สึกเต็มอิ่ม เมื่อไปนมัสการพระเจ้าก็รู้สึกอิ่มใจมาก หนูได้พบว่านี่แหละคือทางที่พระเจ้าทรงมอบไว้ให้กับเด็กคนหนึ่งที่ครอบครัวไม่สมบูรณ์แบบ พระเจ้าทรงเป็นทุกสิ่งเป็นทั้งพ่อและแม่ รู้สึกซาบซึ้งในพระเจ้ามาก จึงตัดสินใจรับเชื่อพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด

ชีวิตที่เปลี่ยนแปลง

หนูเป็นลูกคนเล็ก มีพี่ชายก็ออกไปทำงาน ทำให้ไม่มีเพื่อนเล่น เป็นเด็กขี้อายไม่ชอบพูดกับใคร ไม่ชอบเข้าสังคมกับเพื่อน ไม่ชอบเรียนหนังสือ ไม่ชอบอ่านหนังสือ เรียนไม่เก่ง สมาธิสั้น พอได้ไปเข้ากลุ่มของคอมแพสชั่นได้เรียนเรื่องราวของพระเจ้าก็ได้พูดมากขึ้น กล้าที่จะสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ เริ่มกล้าตัดสินใจมากขึ้น และพอได้อ่านพระคัมภีร์ทำให้ชอบการอ่านหนังสือ ชอบการเรียน พระคัมภีร์ช่วยทำให้หนูมีสมาธิในการเรียนดีขึ้น และสามารถพัฒนาสติปัญญาให้กล้าแสดงออกมากขึ้น พระเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงทุกอย่างทั้งความประพฤติ การเข้ากับคนอื่น ให้มองโลกในแง่ดีมากขึ้น เพราะหนูมีครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกันทำให้คิดว่าตัวหนูเองขาดทุกสิ่งทุกอย่างตลอดเวลา ใช้ชีวิตไม่เต็มที่ แต่พอมารู้จักพระเจ้าหนูรู้สึกไม่ได้ขาดอะไรอีกต่อไปพระองค์ทรงเติมเต็มทุกสิ่งให้กับชีวิตหนู หนูอาศัยอยู่กับป้า เพราะแม่ไปทำงานต่างประเทศ ป้าไม่ได้ต่อต้านที่หนูมาเป็นคริสเตียน เพราะป้าเห็นชีวิตที่เปลี่ยนแปลงของหนูในทางที่ดีขึ้น เรียนดีขึ้น ไม่เกเรเหมือนเด็กวัยรุ่นบางคน

เข้าร่วมแข่งขันพระคัมภีร์

ตอนที่หนูเรียนอยู่ชั้น ม.2 อาจารย์ที่โรงเรียนซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบส่งคนเข้าแข่งขันพระคัมภีร์กับสมาคมพระคริสตธรรมไทย ท่านหาคนเข้าแข่งขันได้ไม่ครบ และท่านเห็นหนูมีความตั้งใจและชอบอ่านพระคัมภีร์ จึงให้หนูได้เข้าร่วมแข่งขันด้วย ครั้งแรกที่เข้าร่วมแข่งขันหนูไม่ได้รางวัลอะไรเลย แต่ได้คะแนนอยู่ในระดับ Top 10 จากนั้นก็เลยตั้งใจจะเอาใหม่ เริ่มศึกษาอ่านพระคัมภีร์มากขึ้น หลังจากแข่งปีแรกที่ไม่ได้รางวัล ปีต่อมาก็แข่งและได้รางวัลมาตลอด รางวัลที่ 1-3 ของการแข่งขัน หนูกลายเป็นเด็กที่ชอบอ่านพระคัมภีร์มาก

การแข่งขันพระคัมภีร์มีประโยชน์มาก ในด้านจิตวิญญาณทำให้หนูได้เข้าใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น ในด้านชีวิตส่วนตัวพระเจ้าทรงทำให้หนูมีสมาธิมากขึ้น จดจ่ออยู่ที่การเรียน ให้สติปัญญาในการสามารถวิเคราะห์สิ่งที่ยากๆ ได้ การไปร่วมแข่งขันพระคัมภีร์ไม่ใช่เพื่อจะได้รับรางวัลอย่างเดียว แต่เพื่อเราจะได้ใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น ชีวิตเราก็จะเปลี่ยนไป จิตวิญญาณเราจะเข้มแข็งมากขึ้น เมื่อชีวิตหนูเปลี่ยนไป หนูสามารถรับใช้พระเจ้าได้ หนูเคยเป็นประธานอนุชน ที่ คริสตจักรหนูนำนมัสการ สอนเด็ก และเป็นผู้นำอนุชน

ตัดสินใจเรียนพระคริสตธรรม

การไปร่วมแข่งขันพระคัมภีร์นอกจากจะทำให้ได้รู้พระคัมภีร์มากขึ้นแล้ว หนูได้เรียนรู้ว่าพระเจ้าให้เรามากกว่าที่เราจะตอบแทนได้ ทำให้หนูไม่อยากจะไปเรียนอะไรอย่างอื่นแล้ว อยากเรียนพระคัมภีร์ หนูได้เห็นผู้รับใช้พระเจ้าแต่ละคนมีบทบาทที่แตกต่างกัน และเห็นว่าการเป็นผู้รับใช้พระเจ้าไม่ใช่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยาก ทำให้หนูตัดสินใจที่จะเป็นผู้รับใช้พระเจ้า โดยการถวายชีวิตให้กับพระเจ้า นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่จะตอบแทนให้กับพระเจ้าได้ การที่หนูได้ไปร่วมแข่งขันพระคัมภีร์ทำให้หนูอยากเป็นผู้รับใช้พระเจ้า รักพระคำของพระองค์ วันไหนไม่ได้อ่านพระคัมภีร์ทำให้รู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรไป เมื่ออ่านพระวจนะของพระเจ้าต้องสำรวจดูว่าเราได้รับอะไรบ้าง เมื่อเราติดสนิทกับพระเจ้า เราจะได้รู้น้ำพระทัยของพระเจ้ามากขึ้น จิตวิญญาณก็จะเติบโตกับพระเจ้ามากขึ้น

พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐาน

หนูไม่ได้เจอพ่อนานมาก พ่อทิ้งหนูไปตั้งแต่หนูอายุ 4 ขวบ นานๆ ทีประมาณ 5-6 ปี จึงจะได้เจอพ่อสักครั้งหนึ่ง ตอนนั้นหนูอายุประมาณ 13-14 ปีได้ หนูนึกถึงพ่ออยากเจอพ่อ ก็เลยอธิษฐานกับพระเจ้าว่าอยากเจอพ่อด้วยความเชื่อว่าพระเจ้าจะตอบคำอธิษฐาน อธิษฐานทุกวันๆ ก่อนนอน พออธิษฐานประมาณ 1 เดือน ก็ได้ข่าวว่าพ่อจะกลับมาเยี่ยมญาติที่หมู่บ้านที่หนูอาศัยอยู่ หนูดีใจมาก พระเจ้าทรงจัดเตรียมทุกอย่างไว้ให้หนู หนูมั่นใจว่านี่คือสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้จริงๆ และอีกสองเดือนช่วงปีใหม่พอดีหนูก็ได้เจอกับพ่อ ดีใจมาก หนูรู้สึกได้เลยว่า “พระเจ้ายิ่งใหญ่” จริงๆ ทำให้หนูได้เจอพ่อ ขอบคุณพระเจ้ามาก

ครอบครัวที่แตกแยกทำให้หนูเป็นเด็กเก็บกด ไม่ชอบยุ่งกับใคร ไม่ชอบเรียนหนังสือ สมาธิสั้นมาก ไม่กล้าแสดงออก พอมาเชื่อพระเจ้าพระองค์ก็เปลี่ยนชีวิตหนู หนูอ่านพระคัมภีร์ที่กษัตริย์ซาโลมอนขอสติปัญญาจากพระเจ้า หนูเลยอธิษฐานขอสติปัญญากับพระเจ้าบ้าง จากเด็กที่เรียนไม่เก่งพระเจ้าก็ให้เรียนได้ในลำดับที่ 1 – 3 เมื่อหนูตัดสินใจเรียนพระคริสตธรรม พระเจ้ามีแผนการในการเรียนต่อของหนู เนื่องจากแม่หนูมีอาชีพทำไร่ทำนา ไม่มีเงินส่งหนูเรียนต่อได้ หนูต้องหาทุนเรียนเอง ที่คริสตจักรก็ช่วยกันอธิษฐานเพื่อหนูจะมีทุนเรียนต่อ หนูมีความเชื่อก็เลยเดินทางมาสอบเข้าโรงเรียนพระ คริสตธรรมก่อน ทั้งๆ ที่ยังไม่มีทุนเรียน และทุนก็มาโดยไม่คาดคิด คือที่หมู่บ้านหนูทำเกี่ยวกับการเกษตร และมีมิชชันนารีจากสิงคโปร์เดินทางมาดูงาน ศิษยาภิบาลก็ได้แนะนำกับเขาว่า หนูจะไปเรียนพระคริสตธรรมเป็นผู้รับใช้พระเจ้าแต่ยังไม่มีทุน อาจารย์ที่เป็นมิชชันนารีก็เลยบอกว่าจะลองหาทุนกับองค์กรที่สิงคโปร์ให้ เวลาผ่านไป 2-3 เดือน ก่อนที่หนูจะเข้ามาเรียนภาคฤดูร้อนที่โรงเรียนพระคริสตธรรม อาจารย์โทรมาบอกว่าหาทุนให้ได้แล้ว เป็นทุนจากองค์กรที่สิงคโปร์ หนูดีใจมาก แม่ของหนูถึงกับร้องไห้เลย ทำให้แม่และคนในครอบครัวได้เห็นการทำงานของพระเจ้า หนูเชื่อว่าคนในครอบครัวของหนูจะได้เชื่อพระเจ้าผ่านทางชีวิตของหนู

เป้าหมายสูงสุดในชีวิต

เป้าหมายในชีวิตของหนูคือ อยาก เป็นศิษยาภิบาล เพื่อที่จะมีโอกาสเข้าไปเปลี่ยนแปลง พัฒนาคริสตจักรที่บ้านของหนูให้เจริญมากยิ่งขึ้น และอยากจะนำจิตวิญญาณของผู้คนให้ได้รับความรอด ได้รู้จักพระเจ้าผ่านทางชีวิตหนู หนูอยากทำงานกับอนุชน อยากให้พวกเขารักพระคำพระเจ้า เขาจะได้ไม่เกเร ให้พวกเขามีชีวิตอยู่ในทางของพระองค์

พระวจนะของพระเจ้าที่ชอบ

2 ทิโมธี 2:15 “จงอุส่าห์ถวายตัวของท่านเองที่พระเจ้าทรงรับรองแล้วแด่พระองค์ เป็นคนงานที่ไม่อับอาย สอนพระวจนะแห่งความจริงอย่างถูกต้อง”

หนูชอบพระธรรมข้อนี้ เพราะอยากเป็นคนคนหนึ่งที่จะถ่ายทอดพระวจนะของพระเจ้าที่เป็นจริงให้เกิดผลกับชีวิตของผู้คนทั่วไป ให้พระวจนะของพระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนอื่นๆ เหมือนที่พระเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงชีวิตของหนู

หนูชอบอ่านพระธรรม 1 พงศ์กษัตริย์ เกี่ยวกับพงศ์พันธุ์ของกษัตริย์ ทำให้เห็นว่าถึงแม้เป็นกษัตริย์ก็ยังล้มลงในความบาปได้ แต่ถึงแม้จะล้มลงในความบาปพระเจ้าก็ยังมีพระคุณซ้อนพระคุณอีก พระองค์จะทรงตีสอน แต่ไม่ทำลายลูกของพระองค์ ถึงแม้พระเจ้าจะฉีกอาณาจักรของอิสราเอล แต่พระองค์ก็ยังทรงมีพงศ์พันธุ์ของพระองค์อยู่เพื่อพระเจ้าจะทรงเลือกหรือทรงไม่เลือก ตามน้ำพระทัยของพระองค์ เป็นพระธรรมที่อ่านแล้วสนุก น่าติดตามมาก

ท้ายที่สุด

อยากหนุนใจให้เยาชนรักพระคำของพระเจ้ามากขึ้น ไม่เพียงแค่อ่านพระคัมภีร์เฉยๆ เท่านั้นแต่ให้พระคำของพระเจ้าซึมลึกเข้าไปในจิตวิญญาณ ให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิต เหมือนกับที่พระเจ้าทรงเปลี่ยนชีวิตของหนู และหนูก็อยากจะเป็นคนของพระเจ้าที่จะถ่ายทอดพระวจนะของพระเจ้าให้ผู้อื่นด้วย ถ้าใครอ่านพระคัมภีร์แล้วรู้สึกน่าเบื่อ ง่วงนอน ขอให้ตระหนักว่า พระคัมภีร์คือพระคำของพระเจ้าที่กำลังตรัสกับเราเพื่อให้เราทำตาม หรือเป็นคำพูดจากพ่อที่กำลังพูดกับลูก เราต้องอ่านอย่างตั้งใจ ไม่ใช่อ่านแบบผ่านๆ ต้องจดจ่อ เข้าถึงพระธรรมของพระเจ้า ถ้าเราอ่านพระธรรมของพระเจ้ามากขึ้น ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณของเราจะเติบโตขึ้น มารซาตานจะไม่สามารถทำลายจิตวิญญาณเราได้เลย

  • คุณกัณญณัฐ หัดไชยโย