ภายใต้ความสำเร็จของผู้หญิงชื่อ…
เราคงเคยเห็นนักธุรกิจ เจ้าของกิจการ ผู้บริหารส่วนใหญ่ เป็นผู้ชายเกือบทั้งนั้น คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะมี โอกาสก้าวเข้าไปเป็นหนึ่งในนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จ ในฐานะเจ้าของกิจการและบริหารงานเอง เธอได้ฟันฝ่าอุปสรรค มากมายทั้งภาระหนี้สินและภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่
จนวันนี้เธอนั่ง อยู่ในตำแหน่งประธาน (President) ของบริษัทยูนิพาร์ท (Unipart Co., Ltd) ซึ่งมีโรงงานผลิตถึง 2 แห่ง บุคคลที่กำลังกล่าวถึงอยู่นี้คือ “คุณรัตนา ชัยชนะกล”
คุณรัตนา ปัจจุบันสมรสแล้ว มีบุตรสาว 1 คน บุตรชาย 1 คน เธอเป็นคนหนึ่งที่เกิดจากครอบครัวที่เป็นคริสเตียน เป็นสมาชิก คริสตจักรไมตรีจิต ในช่วงที่แต่งงาน เธอจำเป็นต้องรับช่วงธุรกิจ ที่ย่ำแย่ที่สุด เธอจึงรู้สึกเสมอว่าธุรกิจนี้เธอไม่ได้เริ่มจากศูนย์ แต่เริ่ม จากติดลบ คือ หมายถึงบริษัทมีหนี้ที่ต้องชดใช้อยู่หลายล้านบาท และเธอก็ได้บอกเคล็ดลับในการที่จะก้าวจากจุดนั้น จุดที่ ลำบากและยากที่สุด มาถึงปัจจุบันนี้ได้ เธอกล่าวว่า “เราจะรู้จัก กับพระเจ้ามากที่สุดก็ในช่วงที่ลำบากมากที่สุด เพราะใน ตอนนั้นฉันทำงานเริ่มจากติดลบ แต่สามารถผ่านพ้นไปได้ ฉันอธิษฐานและขอต่อพระเจ้าเสมอที่จะให้มีสติ มีจุดยืนในการ ทำงาน และฉันก็ผ่านมาถึงจุดนี้ได้ ฉันยอมรับว่าต้องทำงานหนักมาก คุณแม่มักจะพูดเสมอว่า ‘ลูกสาวคนนี้ ทำงานมากที่สุด”
บริษัท Unipart เป็นบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ หรือชิ้นส่วนของแอร์ คอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายรูป เครื่องถ่ายเอกสาร ฯลฯ ภายใต้ยี่ห้อ Canon Toshiba Mitsubishi ฯลฯ เป็นความภาคภูมิใจ อย่างมากที่บริษัทคนไทยได้รับความไว้วางใจจาก บริษัทญี่ปุ่นให้ผลิตชิ้นส่วนเหล็กที่เล็กและค่า บวกลบน้อยมาก การทำงานกับคนต่างชาติไม่ง่ายเลย เพราะต้องเรียนรู้หลักการ วิถีชีวิตของคนต่างชาติ เธอเล่าให้เราฟังว่า “เราต้องศึกษาให้เข้าใจแนวความ คิดของคนญี่ปุ่นว่าเป็นอย่างไร ซึ่งโดยปกติแล้ว จะยอมรับผู้หญิงได้ไม่ง่ายนักที่จะมาทำงานเทคนิค ด้านเหล็ก เพราะมันเป็นงานผู้ชายมากกว่า เพราะต้องรู้เทคนิคในการย่อส่วน ต้องทำ Drawing ได้ ต้องตีราคาเป็น แล้วฉันก็ทำให้เขาเห็นว่าเราทำได้ ทุกอย่าง มีคุณภาพ และไม่ได้ทำแบบสุกเอาเผากิน ต้องเน้นมาตรฐาน เราต้องทำให้เขาไว้วางใจเรา การทำงานกับคนต่างชาติมีส่วนดีที่ทำให้มีความ คิดกว้าง อยู่กับที่ไม่ได้ ต้องพัฒนาตัวเองเสมอ” คุณรัตนา เป็นคนหนึ่งที่ชอบถวาย
เธอให้การสนับสนุนหลายองค์กรที่ทำงานรับใช้พระเจ้า รวม ทั้งสมาคมพระคริสตธรรมไทย เธอมีแบบอย่างที่ดีที่ทำ ให้เธอมีใจอยากจะถวายเพื่อพันธกิจของพระเจ้าคือ “คุณแม่เป็นคนชอบถวาย และจะปลูกฝังให้ฉัน เป็นคนที่ชอบถวายด้วย แต่ต้องถวายโดยไม่มีใคร บังคับ และจะอธิษฐานก่อนถวายเสมอ การถวาย เป็นหน้าที่ของเรา เมื่อเรารู้ถึงพระคุณของพระเจ้า เราก็อยากถวายให้กับพระองค์ เงินไม่ใช่สิ่งที่สำคัญ ที่สุดในชีวิตก็จริง แต่เราต้องใช้จ่ายให้ถูกต้อง พระ เจ้าจะดูการดำเนินชีวิตของเรา พระองค์จะอวยพร คนที่มีชีวิตส่วนตัวที่ดี คนที่ชีวิตของเขาสัมผัสกับ พระเจ้าจริงๆ” ชีวิตที่เคยรับใช้พระเจ้าของเธอ แม้เธอ จะมีงานล้นมือแต่เธอก็ยังแบ่งเวลาที่จะรับใช้พระเจ้า ในคริสตจักร เธอเล่าให้เราฟังว่า “ดิฉันได้เริ่มต้น จากการเป็นนักร้องของคริสตจักร และได้เรียน รวีวารศึกษาของคริสตจักรมาตลอด จากนั้นก็ได้ สอนรวีวารศึกษาในคริสตจักร การสอนรวีฯทำ ให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้น แม้จะไม่ค่อยมีเวลาก็จะปลีกเวลามาสอน ฉันเห็นผู้รับใช้พระเจ้าแล้วอยากบอก ว่า การเป็นผู้รับใช้พระเจ้าเป็นพระพรอันยิ่งใหญ่ คริสเตียนที่รับใช้พระเจ้าถือเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิต เพราะนายที่ใหญ่ที่สุดคือพระเจ้า และพระเจ้าก็คือ ผู้ที่รู้ในทุกสิ่ง รู้ความคิดของเราว่าเราอยากได้อะไร พระองค์จะให้เราหรือไม่ให้แล้วแต่พระองค์ เราต้องมี ความเชื่อที่แน่น มั่นคง ไม่มีข้อสงสัยอะไร” พระคัมภีร์คือสิ่งที่อยู่คู่กับชีวิตของเธอ เสมอ
พระคัมภีร์ที่เธอนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน เธอกล่าวกับเราว่า “พระคัมภีร์คือพระวจนะของ พระเจ้า เราต้องรู้จักที่จะนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิต ของเรา บางตอนก็ให้เราเห็นภาพพระเจ้าที่ทรงรักเรา อย่างตอนที่พระเยซูทรงอธิษฐานในสวนเกทเสมนีที่ว่า ‘แล้วพระเยซูทรงพาสาวกมายังที่แห่งหนึ่ง เรียกว่า เกทเสมนี แล้วตรัสกับสาวกของพระองค์ว่า จงนั่งอยู่ที่นี่ ขณะเมื่อเราจะไปอธิษฐานที่โน่น…แล้ว เสด็จดำเนินไปอีกหน่อยหนึ่ง ก็ซบพระพักตร์ลงถึง ดินอธิษฐานว่า โอพระบิดาของข้าพระองค์….อย่าให้ เป็นไปตามใจปรารถนาของข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไป ตามพระทัยของพระองค์’” (มัทธิว 26.36-39) “ในพระธรรมสุภาษิตที่ให้ดูตัวอย่างมด ทำให้เห็นถึงความรับผิดชอบ ความอดทน การรู้จัก ประหยัด ที่ว่า ‘คนเกียจคร้านเอ๋ย ไปหามดไป๊ พิ เคราะห์ดูทางของมัน และจงฉลาด โดยปราศจากผู้หัว หน้าเจ้าหน้าที่หรือผู้ปกครอง มันเตรียมอาหารของ มันในฤดูแล้ง และส่ำสมของกินของมันในฤดูเกี่ยว คนเกียจคร้านเอ๋ย เจ้าจะนอนนานเท่าใด เมื่อไรเจ้า จะลุกขึ้นจากหลับ หลับนิด เคลิ้มหน่อย กอดมือ พักนิดหน่อย และความจนจะมาเหนือเจ้าอย่าคนจร และความขัดสนอย่างคนถือ และความขัดสนอย่างคนถืออาวุธ’” (สุภาษิต 6:6.11)
“พระวจนะของพระเจ้าสอนให้เห็นแนวทางใน การดำเนินชีวิต ที่กล่าวว่า ‘…เหตุฉะนั้น จงฉลาด เหมือนงู และไม่มีภัยเหมือนนกพิราบ’ ” (มัทธิว 10.16) คุณรัตนาต้องรับผิดชอบงานมากมาย ชีวิตในแต่ละวันของเธอกับพระเจ้า เธอมีแนวความ คิด ทัศนคติที่ดี เธอกล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าฟังว่า “ชีวิตในแต่ละวันต้องมีพระเจ้าอยู่ด้วยเสมอ เพื่อเราจะไม่หันเหไปทางอื่น พระองค์ทรงรู้ทุกสิ่ง ทรงรู้การกระทำของเราทุกอย่าง ทรงดูว่าเราสัตย์ซื่อ หรือเปล่า เราทำอะไรถูกต้องหรือเปล่า ขอให้เรามี พระเจ้าอยู่ในใจอย่างแท้จริง บางครั้งฉันเห็นคน บางคนท้อใจ เพราะพระเจ้าไม่ได้ให้ตามความคิด ของเขา ถ้าพระเจ้าทำตามความคิดมนุษย์ พระองค์ ก็คงไม่ใช่พระเจ้า เรารู้ว่าพระเจ้าทรงมีแผนการ สำหรับทุกสิ่ง แต่เราไม่รู้แผนการนั้นคืออะไร ฉันอธิษฐานขอพระเจ้าเสมอที่จะให้พระองค์ ประทานกำลังในการทำงานเพื่อที่งานทุกอย่าง จะสำเร็จ” เมื่อเราถูกกระหน่ำด้วยมรสุมชีวิต สถานการณ์อาจชักนำให้เรารู้สึกสิ้นหวัง จงมอบ สถานการณ์ต่างๆไว้ในการดูแลของพระเจ้า ให้เรามองที่พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ผู้ครอบครองทุกอย่าง และวางใจให้พระองค์ทรงนำเรา เราจะพบความสำเร็จ มีสันติสุขในพระเจ้า ตลอดชีวิตของเรา
สมาคมพระคริสตธรรมไทยขอขอบคุณ คุณรัตนาอย่างมาก ที่กรุณาให้โอกาสสมาคมฯ ได้สัมภาษณ์ แบ่งปันพระพรจากประสบการณ์ชีวิต และอนุญาตให้สมาคมฯ ตีพิมพ์คำพยานของท่านลง “คริสตสายสัมพันธ์” ฉบับนี้ ขอพระเจ้าอวยพระพร ท่านและครอบครัวตลอดไป
- คุณรัตนา ชัยชนะกล