ยุติธรรมแล้วหรือที่อาโรนไม่ถูกลงโทษ
คำถาม : เมื่ออ่านพระธรรมอพยพบทที่ 32 แล้ว ไม่เข้าใจว่าทำไม อาโรนผู้เป็นพี่ชายของโมเสสจึงไม่ได้ถูกลงโทษร่วมกับคนอิสราเอลผู้กราบไหว้ รูปวัวทองคำ? มันไม่ยุติธรรมเลยมิใช่ หรือ? ขอท่านกรุณาแบ่งปันอธิบายให้กระจ่างเถิด
คำตอบ : ก่อนที่จะตอบคำถามข้างต้น ก็ใคร่จะขอเท้าความสักหน่อยเพื่อจะเข้าใจได้ชัดแจ้งขึ้นดังนี้คือ ในพระธรรมอพยพบทที่ 24 ข้อ 12 ถึงข้อ 18 กล่าวถึง การที่โมเสสขึ้นไปบนภูเขาซีนาย ตามพระบัญญัติของพระยาห์เวห์ โดยท่านให้อาโรนพี่ชายของท่านและเฮอร์พี่เขยของท่าน (ตามความเข้าใจของยิวว่า เฮอร์คือสามีของมิเรียม) คอยให้คำปรึกษาชี้แนะแก่พวกผู้ใหญ่ของอิสราเอล หากมีปัญหาในระหว่างที่ท่านไม่อยู่ และจากพระธรรมอพยพบทที่ 25 จนถึงบทที่ 31 มีเนื้อหาสำำคัญเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ของพลับพลาเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ ในพลับพลา เสื้อตำแหน่งปุโรหิต พิธีกรรม การแต่งตั้งปุโรหิต และนายช่างผู้ชำนาญงาน สื่งเหล่านี้พระ ยาห์เวห์ทรงสำแดงให้โมเสสทราบเพื่อท่านจะดำเนินการสร้างให้สำเร็จตามพระ ประสงค์ของพระองค์
ในพระธรรมอพยพบทที่ 32 ได้บันทึกเรื่องราวของการที่คนอิสราเอลขาดความอดทนในการรอคอยโมเสสกลับมา พวกเขาคอยอยู่ 40 วันแล้ว และสงสัยว่าโมเสสอาจสิ้นชีวิตแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงพากันมาขอให้อาโรนสร้างพระเป็นรูปวัวทองคำ เพื่อนมัสการด้วยถือว่าเป็นพระเจ้าที่ได้พาพวกเขาออกจากอียิปต์ อาโรนก็มิได้ห้ามปรามพวกเขาสิ่่งที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งคือ เฮอร์หายไปไหน? พระคัมภีร์ไม่ได้กล่าวถึงเฮอร์ในเหตุการณ์นี้เลย นักวิชาการพระคัมภีร์บางท่านสันนิษฐานว่า เฮอร์คงถูกคนอิสราเอลฆ่าตายเพราะปฏิเสธคำขอของพวกเขา และนี่เองเป็นความกดดันแก่อาโรนให้โอนอ่อนผ่อนตามเสียงข้างมาก แม้อาโรนจะพยายามจะเลี่ยงโดยออกอุบายขอตุ้มหูทองคำจากพวกเขา โดยคิดว่าพวกเขาคงเสียดายและไม่ให้ แต่การคาดคะเนของอาโรนก็ผิดไป อย่างไรก็ดีสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงข้อสันนิษฐานของนักวิชาการที่ไม่มีกล่าว ไว้ในพระคัมภีร์ เพราะฉะนั้นจึงไม่อาจเชื่อถือได้อย่างเต็มที่ อาโรนมี ส่วนในบาปของประชาชนอิสราเอลอย่างแน่นอน เขาไม่สามารถแก้ตัวได้ แม้ว่าจะพยายามแก้ตัวแล้วกับโมเสสก็ตาม ดูพระธรรมอพยพบทที่ 32 ข้อที่ 24 อาโรนกล่าวกับโมเสส ว่า “…พวก เขาก็มอบทองคำให้ข้า แล้วข้าก็โยนลงไปในไฟ แล้วโคนี้ก็ออกมา…” นี่ เป็นการผลักความรับผิดชอบที่น่าขัน
ท่านผู้ถามได้อ่านพระธรรมอพยพบทที่ 32 โดยตลอดแล้วไม่พบว่า อาโรนถูกตำหนิหรือถูกลงโทษเพราะเหตุนี้แต่ประการใด จึงทำให้ท่านเกิดคำถามตัวโตๆ ว่า ทำไม? ทำไม เป็นอย่างนั้น? ไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรมเลย คนทำผิดแต่ยังลอยนวล ไม่ถูกลงโทษ ความยุติธรรมมีจริงหรือในโลกนี้?
กระผมได้เกริ่นนำเสียยืดยาวเพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจประเด็นปัญหาของผู้ถาม และต่อไปผมก็จะพยายามตอบให้ตรงจุดดังนี้ว่า หากเราอ่านเรื่องราวเฉพาะในอพยพที่ 32 เราก็จะได้เนื้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้บางส่วน แต่เมื่อเราอ่านพระธรรมเฉลยธรรมบัญญัติบทที่ 9 ข้อ 20 เราจึงพบคำตอบและทำให้เราได้เห็นภาพเหตุการณ์ตอนนั้นสมบูรณ์ขึ้น พระธรรมตอนนี้ท่านโมเสสในวัยชรา ได้กล่าวทบทวนเหตุการณ์ในอดีตแก่คนอิสราเอลรุ่นหลัง แล้วเตือนใจพวกเขาให้ยำเกรงพระเจ้าว่า “พระ ยาห์เวห์ทรงพระพิโรธอาโรนมาก พระองค์จะทรงทำลายเขาเช่นกัน ในเวลานั้นข้าพเจ้า(หมายถึงโมเสส) ก็อธิษฐานเผื่ออาโรนด้วย”
ท่านผู้อ่านคงได้คำตอบแล้วว่า ทำไมอาโรนจึงไม่ได้รับผลกระทบจากการเข้าร่วมส่วนในบาปของประชาชน? ก็เพราะพระเจ้าทรงฟังคำอธิษฐานของโมเสสที่ได้ อธิษฐานเพื่ออาโรนพี่ชายของท่านนั่นเอง และสำหรับเรา องค์พระเยซูคริสต์ทรงเป็นมหาปุโรหิตผู้อธิษฐานเผื่อเราเสมอ ดูพระธรรมฮีบรูบทที่ 7 ข้อ 24 และข้อ 25
ดังนั้นจึงขอหนุนใจทุกท่านอ่านและศึกษาเรื่องราวในพระคัมภีร์อย่างถี่ถ้วน เหตุการณ์เดียวกันอาจมีกล่าวในเล่มอื่นๆ ของพระคัมภีร์ด้วย และเมื่อเราพิถีพิถันอ่านเราจึงได้ภาพรวมที่ครบถ้วน ยกตัวอย่างเช่น เรื่องราวของคนตาบอดที่เมืองเยรีโค ในพระธรรมมัทธิวบทที่ 20 ข้อ 29-34 ระบุว่ามีคนตาบอดสองคน ส่วนในพระธรรมมาระโกบทที่ 10 ข้อ 46-52 กล่าวถึงคนตาบอดคนเดียวคือบารทิเมอัส นั่นหมายความว่าพระเยซูทรงรักษาคนตาบอดสองคนที่เมืองเยรีโค แต่ท่านมาระโกสนใจคนตาบอดคนหนึ่งเท่านั้นและระบุชื่อชัดเจนด้วยว่า บารทิเมอัส นอกจากนี้ยังได้ให้รายละเอียดเล็กๆ อย่างหนึ่งว่า คนตาบอดคนนี้ทิ้งผ้าห่ม ลุกขึ้นมาหาพระเยซูเมื่อทรงเรียกเขา (พระธรรมมาระโกบทที่ 10 ข้อ 50) การทิ้งผ้าห่ม มีความหมายว่าอย่างไร? นี่ก็อาจมีการตีความได้หลายอย่าง ผ้าห่มนั้นอาจแสดงให้คนอื่นทราบว่าเขาเป็นขอทาน การทิ้งผ้าห่มอาจเป็นการแสดงความเชื่อของเขาก็ได้ว่าหลังจากพบพระเยซูแล้ว ชีวิตเขาจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เขาจะเห็นได้ เขาไม่ต้องใช้ผ้าห่มอีกต่อไป เขาไม่ต้องขอทานอีก และก็เป็นจริงตามนั้น พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ความ เชื่อของท่านทำให้ท่านหายปกติแล้ว” ขอบคุณพระเจ้า! ทุกคนที่มาหาพระเยซูด้วยความเชื่อ จะกลับไปด้วยพระพรของพระเจ้า ท่านเชื่ออย่างนั้นหรือไม่?
หรืออีกตัวอย่างหนึ่งที่กล่าวถึงโจรสองคนที่ถูกตรึงกางเขนพร้อมกับพระเยซู ในพระธรรมมัทธิวบทที่ 27 ข้อ 44 กล่าวว่าโจรทั้งสองคนด่าพระเยซู แต่ในพระธรรมลูกาบทที่ 23 ข้อ 39 ถึงข้อ 43 บอกเราว่า โจรคนหนึ่งหมิ่นประมาทพระเยซูขณะที่อีกคนหนึ่งเชื่อพระองค์ นั่นหมายความว่าอย่างไร? พระคัมภีร์ ขัดแย้งกันเองหรือ? ไม่ใช่อย่างแน่นอน นั่นหมายความว่า ตอนแรกโจรทั้งสองคนด่าพระเยซู แต่ต่อมาโจรคนหนึ่งกลับใจสำนึกบาปของตัว และสำนึกความบริสุทธิ์ของพระเยซู โจรคนนี้เชื่อในพระองค์ เขารู้สึกเจียมตัวจึงขอความกรุณาแค่พระองค์คิดถึงเขาบ้างเมื่อทรงเข้าใน สวรรค์ แต่พระองค์ประทานพระคุณยิ่งใหญ่แก่เขาผู้เป็นคนบาป พระคุณที่มากกว่าบาปของเขา พระเยซูตรั ว่า “วันนี้ท่านจะอยู่ กับเราในเมืองบรมสุขเกษม” พระคุณอัศจรรย์นี้มิใช่ขึ้นกับความ ดีของเขา แต่ขึ้นกับพระกรุณาเปี่ยมล้นของพระองค์ต่างหาก ฮาเลลูยาห์!
- อ.ปัญญา โชชัยชาญ