รองเท้าเกี่ยวข้องกับข่าวประเสริฐอย่างไร?
หลายคนอาจจะสงสัยว่าใครเป็นคนคิดทำรองเท้าเป็นคนแรก ถ้าจะค้นหาจริงๆ ก็อาจจะไม่มีใครรู้ แต่การที่มนุษย์เราใส่รองเท้านี้นับว่าเป็นอารยธรรมเก่าแก่มาก Cameron Kippen 2013 ได้เขียนไว้ใน History of Sandals blogspot ของเขาว่ารองเท้านี้น่าจะมีใช้กันในวัฒนธรรมเก่าแก่ของมนุษย์ที่อยู่ระหว่างแม่น้ำไทกริสและยูเฟรติส ซึ่งกินอาณาบริเวณกว้างมาก ถ้าจะพูดถึงประเทศในปัจจุบันก็คือดินแดนที่เริ่มจากอิหร่านไปจนถึงซีเรียในปัจจุบัน อารยธรรมเก่าแก่สมัยโบราณก็ได้แก่พวกสุมาเรียนที่อยู่ในดินแดนเมโสโปเตเมียเป็นอารยธรรมเก่าแก่ตั้งแต่สมัยประมาณ4,000ปีก่อนคริสตกาล
ในพระคริสตธรรมคัมภีร์เรื่องของเท้าถูกกล่าวถึงครั้งแรกในพระธรรมปฐมกาล“แม้เส้นด้ายหรือสายรัดรองเท้าหรือทุกอย่างที่เป็นของของท่านข้าพเจ้าก็จะไม่รับเพื่อไม่ให้ท่านพูดได้ว่า‘เราได้ทำให้อับรามมั่งมี’” (ปฐก.14:23) คำพูดนี้เป็นคำพูดของอับราฮัมที่กล่าวกับกษัตริย์เมืองโสโดมในบริบทนี้เราจะเห็นว่าเส้นด้ายและสายรัดรองเท้าเป็นสิ่งเล็กน้อยมากแสดงว่ารองเท้าเป็นสิ่งที่มีมานานแล้วอับราฮัมก็มีรกรากดั้งเดิมอยู่ที่เมโสโปเต-เมียก่อนที่จะอพยพมาอยู่ที่ดินแดนคานาอันแต่อย่างไรก็ดีการใช้รองเท้าหรือรองเท้าแตะที่มีสายรัดก็เป็นสิ่งที่มีแพร่หลายอยู่ในคานาอันอยู่แล้วการใส่รองเท้าจึงเป็นสิ่งปกติตั้งแต่สมัยโบราณ
การถอดรองเท้ามีความหมายหลายอย่าง
ประการแรก การถอดรองเท้าเป็นการแสดงความเคารพต่อสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นเมื่อโมเสสได้พบกับพระเจ้าที่พุ่มไม้เพลิงพระเจ้าได้ตรัสให้โมเสสถอดรองเท้าออก(อพย.3:5; กจ.7:33) และก่อนที่โยชูวาจะเข้ายึดเมืองเยรีโคท่านได้พบกับทูตของพระเจ้าผู้เป็นจอมทัพของพระเจ้าและทูตนั้นก็ได้บอกให้โยชูวาถอดรองเท้าออก(ยชว.5:15) อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือปุโรหิตหรือมหาปุโรหิตจะต้องสวมชุดตำแหน่งเพื่อปรนนิบัติพระเจ้าในพลับพลาหรือพระวิหารแต่เราจะไม่พบว่ามีรองเท้าอยู่ในชุดตำแหน่งนั้นเลยเป็นไปได้ว่าเมื่อปุโรหิตหรือมหาปุโรหิตทำหน้าที่นั้นจะไม่ได้สวมรองเท้าเลย
ประการที่สอง การไม่สวมรองเท้านั้นแสดงถึงการไว้ทุกข์เช่นใน2ซมอ.15:30; อสค.24:17, 23ประการที่สามเชลยและทาสจะไม่ได้สวมรองเท้า(2พศด.28:15; อสย.20:2) ประการที่สี่?เป็น การตำหนิคนที่ไม่ทำหน้าที่ของญาติสนิทในกรณีที่หญิงม่ายที่ถูกน้องชายของ สามีปฏิเสธที่จะทำหน้าที่สามีแทนโดยรับนางเป็นภรรยาเพื่อจะมีผู้สืบสกุลพี่ ชายต่อไปหญิงม่ายจะถอดรองเท้าของน้องชายของสามีออกต่อหน้าสาธารณชนแล้วถ่ม น้ำลายใส่หน้าเขาเพื่อเป็นการตำหนิเขา(ฉธบ.25:9-10) ประการที่ห้าการถอดรองเท้าแสดงถึงการผูกมัดทางกฎหมายที่มีการตกลงกันอย่างเป็นทางการคล้ายๆกับการลงลายมือชื่อในปัจจุบัน(นรธ. 4:7) ประการที่หกพระเจ้าทรงโยนรองเท้าของพระองค์เหนือเอโดม(สดด. 60:8; 108:9) น่าจะมีความหมายว่าพระเจ้าจะยึดครองแผ่นดินเอโดม
ส่วนการสวมรองเท้านั้นก็มีความหมายได้หลายอย่างเหมือนกันได้แก่
- ประการแรกการสวมรองเท้าเล็งถึงการเตรียมพร้อมเช่นในอฟ.6:15พูด ถึงการให้คริสตชนสวมรองเท้าแห่งข่าวประเสริฐในสมัยที่คนอิสราเอลจะอพยพออก จากอียิปต์พระเจ้ารับสั่งคนอิสราเอลให้เตรียมพร้อมที่จะออกจากอียิปต์ด้วย การรับประทานปัสกาขณะยังสวมรองเท้าอยู่ (อพย.12:11)
- ประการที่สองเป็นการเล็งถึงการเอาใจใส่ดูแลของพระเจ้าขณะคนอิสราเอลเดินทางอยู่ในถิ่นทุรกันดารนานถึง40ปีพระเจ้าทรงดูแลเอาใจใส่พวกเขาพระเจ้าตรัสว่า“เราได้นำพวกเจ้าอยู่ในถิ่นทุรกันดารสี่สิบปีเสื้อผ้าของเจ้าไม่ได้ขาดวิ่นไปจากเจ้าและรองเท้าไม่ได้ขาดหลุดไปจากเท้าของเจ้า” (ฉธบ. 29:5)
- ประการที่สามรองเท้าเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญอย่างหนึ่งที่สาวกสิบสองคนจะต้องมีติดตัวเมื่อพระเยซูใช้ให้พวกเขาออกไปสั่งสอนและขับผีตามหมู่บ้านต่างๆ“แต่ให้สวมรองเท้าและไม่ให้สวมเสื้อสองตัว” (มก. 6:9) ถ้าดูตามพระธรรมข้อนี้คือผู้ที่จะประกาศข่าวประเสริฐจะต้องมีรองเท้า1คู่และเสื้อ1ชุดไม่ต้องมีกระเป๋าและไม่ต้องมีเงินแสดงว่าต้องออกไปอย่างรีบเร่งและพระเจ้าจะเป็นผู้จัดเตรียมสิ่งจำเป็นข้างหน้าให้หากเราอ่านเรื่องเดียวกันนี้ในพระธรรมเล่มอื่นจะมีความแตกต่างบางอย่างในพระธรรมลูกาพระเยซูตรัสว่า“อย่าเอาถุงเงินหรือย่ามหรือรองเท้าไปและอย่าทักทายใครตามทาง” (ลก.10:4) หากเราอ่านอย่างผิวเผินเราอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นคำสั่งให้เดินเท้าเปล่าแต่ถ้าเราอ่านเรื่องเดียวกันในพระธรรมมัทธิวเราจะพบข้อมูลเพิ่มเติมอีกในพระธรรมมัทธิวพระเยซูตรัสว่า“อย่าเอาย่ามหรือเสื้อสองตัวหรือรองเท้าอีกคู่หรือไม้เท้าเพราะว่าคนที่ทำงานก็สมควรจะได้อาหารกิน” (มธ.10:10) เมื่อเราอ่านพระธรรม3ตอนนี้แล้วจะเห็นว่าคนที่จะออกไปประกาศหรือรับใช้พระเจ้าไม่ต้องเตรียมหรือเอาอะไรติดตัวไปเลยมีเสื้อที่สวมอยู่และรองเท้าที่สวมอยู่เพียงคู่เดียวก็พอแล้วไม่ต้องเอาเสื้อใหม่หรือรองเท้าใหม่ไปอีกคู่หนึ่ง
- ประการที่สี่การสวมรองเท้าแสดงว่าคนนั้นเป็นเสรีชนไม่ได้เป็นทาสหรือเชลยเมื่อบุตรคนเล็กเดินทางกลับมาหาพ่อของเขาหลังจากใช้ทรัพย์สินเงินทองหมดแล้วคุณพ่อของเขาได้เรียกให้คนใช้นำรองเท้ามาให้เขาสวม“แต่บิดาสั่งพวกบ่าวของตนว่า‘จงรีบไปเอาเสื้อที่ดีที่สุดออกมาสวมให้เขาเอาแหวนมาสวมที่นิ้วมือและเอารองเท้ามาสวมให้ด้วย” (ลก.15:22)
- ประการที่ห้ารองเท้าเป็นเหมือนเครื่องประดับของผู้หญิงที่ทำให้เท้าของเธองามหญิงขึ้นดังที่ปรากฏในพระธรรมบทเพลงซาโลมอน โอแม่ธิดาของเจ้าชาย เท้าที่สวมรองเท้าของเธอนั้นช่างเรียวงามนี่กระไรเรียวขาที่กลึงเกลาของเธองดงามดุจอัญมณีที่ช่างผู้ชำนาญได้เจียระไนไว้(พซม. 7:1)
รองเท้าเป็นปัจจัยพื้นฐานสำหรับมนุษย์มาตั้งแต่อดีตกาลรองเท้ามีประโยชน์สำหรับการเดินทางไปตามที่ต่างๆป้องกันเท้าจากความหนาวเย็นความชื้นในฤดูหนาวควาแหลมคมของหินความร้อนของทรายในฤดูร้อนแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรองเท้าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราออกไปรับใช้พระเจ้าตามที่ต่างๆได้อย่างเต็มที่และอย่างเสรี
- ศาสนาจารย์ ดร.เสรี หล่อกัณภัย
- ภาพ www.mcbcbannerelk.org