วัยรุ่นล้มละลาย
“ล้มละลาย! ไม่เห็นจะเกี่ยวกับวัยรุ่นเลย” นี่อาจเป็นความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นเมื่ออ่านชื่อเรื่องนี้ก็เป็นได้ ใครๆก็มักคิดว่าวัยหนุ่มสาวเป็นวัยแห่งการเริ่มต้น เป็นวัยแห่งการสร้างสรรค์ และมีเวลาอีกมากที่จะเรียนรู้ชีวิต เชื่อเถอะครับว่าทีแรกผมเองก็ไม่ได้เห็นต่างไปจากผู้อ่านทุกท่านนักหรอก แต่ไม่แน่ว่าเมื่ออ่านจนจบแล้วท่านอาจเริ่มเห็นด้วยกับผมขึ้นมาบ้าง
เรามักใช้คำว่า “ล้มละลาย” กับคนที่มีหนี้สินมากจนรับผิดชอบไม่ไหว แม้แต่ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานก็ให้ความหมายที่คล้ายๆกันคือ “สิ้นเนื้อประดาตัว หมดทรัพย์สมบัติของตัวฯ” เพราะเรามักพูดถึงการล้มละลายในแง่ทรัพย์สินเงินทอง แต่การล้มละลายในวัยรุ่นเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไป การล้มละลายที่สำคัญในชีวิตของเยาวชน เป็นการล้มละลายเรื่องเวลานั่นเอง
เมื่อคืนวานผมไปที่คริสตจักรสาธร ได้ฟังอาจารย์สตีเฟ่น เหลียงพูดถึงเรื่องเวลาไว้อย่างน่าสนใจ ลองคิดตามนะครับว่าถ้าเรามีรายได้ 1,440 บาทต่อวัน(43,200/เดือน) เราจะบริหารการใช้เงินของเราอย่างไร บางคนอาจเอาไปซื้อเสื้อผ้าสวยๆสักชุด แต่บางคนกลับเลือกออมไว้และใช้เฉพาะเท่าที่จำเป็น บางคนนำไปลงทุนให้เกิดกำไรก็มี บางคนคงเริ่มสงสัยแล้วว่ามันเกี่ยวกับเวลายังไง? เกี่ยวข้องอย่างมากครับ! ท่านทราบไหมครับว่าเราทุกคนมี 1,440 นาที/วัน เท่าๆกัน วิธีการใช้เวลานี่เองที่ทำให้วัยรุ่นสามารถกลายเป็นคนล้มละลายได้
จอร์จ ซานตายานา(ร้อยแปดพันเก้า ,2002) กล่าวว่า “บุคคลซึ่งไม่ยอมเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ เขาผู้นั้นก็กำลังเรียนรู้ที่จะผิดซ้ำรอยเดิม” ถ้าเราจะเรียนรู้เรื่องล้มละลายย่อมต้องเรียนรู้จากคนล้มละลาย คนกลุ่มหนึ่งที่ล้มละลายทางเวลามากที่สุดก็คือ “กลุ่มเสพติดไซเบอร์” เด็กกลุ่มนี้จะเริ่มจากการใช้เวลากับอินเทอร์เน็ตอย่างมาก บางคนเล่นเกมออนไลน์วันละ 5-6 ชั่วโมง บางคนก็แชทได้ทั้งคืน จากนอนน้อยและมีเวลาเรียนน้อยก็เริ่มไม่นอนและไม่ยอมไปโรงเรียน น้องนิ(นามสมมติ)เป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีปัญหานี้ ตอนที่ผมเข้าไปให้การช่วยเหลือ น้องนิไม่ได้นอนมากกว่า 10 วันแล้ว บางทีจะเห็นใจลอยแล้วก็หลับในทั้งๆที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ เมื่อคุยกันผมจึงทราบว่าน้องนิไม่ได้ออกจากบ้านของตัวเองมานานกว่า 3เดือนแล้ว
ในประเทศญี่ปุ่นมีเด็กกลุ่มหนึ่งถูกเรียกว่า “ฮิคิโคโมริ”(วิชาการ.คอม) มีความหมายถึง เด็กที่แยกตัวออกจากสังคม เก็บตัวอยู่เฉพาะในห้องส่วนตัว หรือในบ้านเป็นแรมเดือนหรือหลายปี เด็กเหล่านี้ใช้1,440 นาทีของทุกวันกับโทรทัศน์ หรืออินเทอร์เน็ต จะมีบ้างที่กลางดึกลุกมาหาอะไรทาน หรือบางครั้งถ้าร่างกายไม่ไหวก็จะหลับไปเป็นวันๆ เด็กบางคนหลังจากขังตัวเองมาเป็นเวลา 10-15 ปี จนพ่อแม่ตายจากไป ก็มักจะฆ่าตัวตายเพราะไม่สามารถดูแลตัวเองได้
เวลา 10 ปีคิดเป็น 5,256,000 นาที ถ้าเป็นเงินทองก็นับว่ามากพอดู แต่วัยรุ่นหลายคนก็ใช้มันไปอย่างไร้คุณค่า ลองมองที่กระจกแล้วมองรอบๆตัวดูสิครับว่า ตัวเราเองและเพื่อนๆของเราใช้ 1,440 นาทีนี้อย่างไร ถ้ารู้สึกว่าตัวเองชักจะเริ่มมีปัญหาและส่อเค้าว่าอาจจะพาตัวเองไปสู่การล้มละลายแล้วล่ะก็ ผมจะให้สูตรเริ่มต้นในการใช้เวลา ซึ่งเมื่อน้องเชี่ยวชาญแล้วก็สามารถไปปรับปรุงวิธีการให้ดียิ่งขึ้นไปมากกว่านี้ได้ สูตรนี้ก็คือ 30:30:30:10
30 แรกสำหรับการออม หมายถึงการพักผ่อน ซึ่งผมถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่า “การนอนคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด” นั่นเป็นความจริง ดังนั้นอาจไม่ฉลาดนักที่เรามีสิ่งที่จะดึงความสนใจจากการพักผ่อนในห้องนอนของพวกเรา เช่น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ฯ เว้นเสียแต่ว่าเรามีวินัยส่วนตัวที่ดีเลิศ ปัญหาที่มักเกิดขึ้นก็คือเรามักจะนอนหลับน้อยหรือมากเกินไป เริ่มตั้งแต่วันนี้แล้วมันจะกลายเป็นนิสัยที่ดีของเราในวันข้างหน้า (สำหรับเรื่องนี้ผมยกย่องอาชีพ หมอกับพยาบาลมากเพราะสามารถปรับเปลี่ยนเวลานอนของตัวเองได้อย่างอัศจรรย์ แต่ถ้าคุณไม่ใช่คนที่มีอาชีพนี้ก็ขอให้นอนให้เป็นเวลาเถอะครับ)
30 ที่สองสำหรับสิ่งที่จำเป็นและสำคัญในชีวิต เช่น การเรียน การอ่าน การอธิษฐาน การเรียนรู้สิ่งใหม่ และการช่วยเหลือผู้อื่น
ส่วน 30 ลำดับต่อมาสำหรับเพื่อน ครอบครัว และความสนุกสนานในชีวิต แต่เราจะได้กำไรมากขึ้นถ้าสิ่งที่เราเห็นว่าจำเป็นนั้นเป็นสิ่งเดียวกับสิ่งที่เราชอบและสนุกสนานเพราะคุณจะมีมากถึง 60 ทีเดียว คนที่ร่ำรวยเวลาส่วนใหญ่จึงมักเป็นคนที่มีความรักและสนุกสนานกับงานและการเรียนของตัวเอง
10 สุดท้ายสำหรับการเดินทางและค่าเสียเวลาอื่นๆ ซึ่งเราจะพบว่าเรามีอยู่ราว 2 ชั่วโมงเศษๆ ดังนั้นถ้าใครพบว่าใช้เวลาในการเดินทางในแต่ละวันมากกว่านี้ คุณอาจเป็นคนหนึ่งที่กำลังขาดทุน ลองทบทวนว่าเราใช้เวลามากเกินไปเพราะอะไร บางทีคุณจะได้คำตอบและสามารถตัดสินใจเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างที่ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
การล้มละลายเรื่องเวลาน่ากลัวกว่าการล้มละลายเรื่องเงินทองก็เพราะมันทำให้ชีวิตเราในทุกๆเรื่องล้มละลายไปพร้อมๆ กันได้ ผมเชื่อว่าวัยรุ่นทุกคนล้วนไม่อยากล้มละลายด้านเวลา พระเยซูเคยเตือนสาวกของท่านว่า “ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังและอธิษฐาน” เพราะพระองค์ทรงให้สาวกเฝ้ารอพระองค์ แต่พวกเขากลับนอนหลับ คนที่ล้มละลายก็เหมือนคนที่ง่วงหลับอยู่เสมอจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด พระเยซูกลับมาเห็นสาวกงีบหลับอยู่จึงตรัสว่า “ท่านจะนอนต่อไปให้หายเหนื่อยอีกหรือ เวลามาใกล้แล้ว” เวลาเดินอยู่ตลอดเวลานะครับ แล้วตอนนี้พวกเรากำลังทำอะไรอยู่?
- อ.วิทยา วุฒิไกรเกรียง
- ภาพ Bell_Ka_Pang – Freepik.com