สวรรค์บนดิน 1/15

สวรรค์บนดิน

ชีวิตนิรันดร์บนสวรรค์เป็นอย่างไร? เป็นหัวข้อที่คริสตชน ใคร่รู้เราต้องเชื่อว่าจะเห็นพระเยซูหน้าต่อหน้า ได้สนทนาใกล้ชิดกับพระองค์นมัสการพระองค์ไม่มีสิ้นสุด ภาพที่เราจะเห็นทุกหัวเข่าจะก้มกราบนมัสการพระเยซู  “ กษัตริย์ทั้งหลายในแผ่นดินโลกจะนำศักดิ์ศรีของตนเข้ามาในนครนั้น… คน ทั้งหลาย จะนำ​ศักดิ์ศรี และ เกียรติของประชาชาติต่างๆ เข้ามา” (วิวรณ์ 21:25-26)ภาพอันงดงามตระการตานี้เราจะมีโอกาสได้เห็นแน่นอน หลายคนนึกถึงรูปร่างหน้าตาของตนเองว่าจะเหมือนในโลกนี้ไหม? จะมีโอกาสได้พบกับ บรรดาผู้ที่เรารักพ่อแม่ญาติพี่น้องเพื่อนพี่น้องผู้เชื่อที่รู้จักหรือไม่? สิ่งที่สวรรค์มีให้อย่างแน่นอนคือ ความชื่นชมยินดีที่ภาษามนุษย์มิอาจบรรยายได้ จะท่วมท้นล้นหัวใจเราทุกคน เพียงนึกภาพและความสุขอันสมบูรณ์แบบก็สร้างความสุขใจเป็นล้นพ้น แล้วสิ่งเลวร้ายทุกอย่างในโลกไม่มีให้ เห็นอีกต่อไป  ด้วยเหตุนี้สวรรค์และชีวิต นิรันดร์ การนมัสการ พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์  จึงเป็นความหวัง อันยิ่งใหญ่ อยู่ในความคิดและจิตใจของผู้เชื่อพระเจ้าทุกคน ขอให้สิ่งนี้ สร้างแรงบันดาลใจ แก่คริสตชนทุกคน อดทนต่อปัญหา ความทุกข์ที่กำลัง เกิดขึ้นกับท่านในโลกแห่งบาป นี้ให้เรารอคอยความหวังว่าอีกไม่นานสวรรค์จะเป็นของเราตามพระสัญญา

ทว่า กว่าจะถึงวันนั้น พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรสำหรับเรา ขณะที่ยังอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยผลร้ายของความบาป ความวุ่นวายสงครามที่ไม่มีสิ้นสุด สภาพแวดล้อมที่เลวร้ายหลายคนถามว่าทำไมพระเยซูไม่เสด็จกลับมารับ เราสักที?ที่พระองค์ เนิ่นช้าทรงมีเหตุผลแน่นอน “องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรง เฉื่อยช้าในเรื่องพระสัญญา ของพระองค์  (การเสดจ็ มาครั้งที่สองของพระเยซู) ตามที่บางคนคิดนั้นแต่ทรงอดทนกับ พวกท่านพระองค์ ไม่ทรงประ สงค์ให้ใครพินาศเลยแต่ประ สงค์ให้ทุกคนกลับใจใหม่ ” (2 เปโตร3:9) จากพระธรรมข้อนี้แสดงว่า พระเยซูทรงพร้อมเสมอที่จะเสด็จกลับมา ปัญหาไม่ได้อยู่ที่พระองค์แต่อยู่ที่มนุษย์ ต่างหาก ที่ไม่พร้อมยังมีคนอีกมากมาย ที่ยังไม่ได้รับความรอด พระองค์ไม่ต้องการเห็นใครพินาศ เพราะเหตุนี้พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้ประชากรของพระองค์ทำหน้าที่สำคัญในการนำข่าวประเสริฐไปประกาศแก่ทุกคนทั่วโลก ขณะที่รอคอย พระเจ้าทรงประสงค์ให้เราปฏิบัติตัวเป็นชาวสวรรค์ให้คนทั้งโลกได้เห็น “บัดนี้ท่านเป็นความสว่างในองค์พระผู้เป็นเจ้าจงดำเนินชีวิตอย่างคนของความสว่าง (เพราะว่าผลของความสว่างคือทุกอย่างที่เป็นความดีความชอบธรรมและความจริง) จงค้นดูว่าอะไรเป็นสิ่งที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า และอย่ามีส่วนในกิจการของความมืดที่ไร้ผล ” (เอเฟซัส5:8-11)

จากคำแนะนำนี้แสดงให้เห็นว่า พระเจ้าทรงประสงค์ให้เราใช้ชีวิต “ชาวสวรรค์”ขณะที่อยู่ในโลกนี้  เพื่อจุดประสงค์สำคัญคือ การเป็นพยานให้คนทั้งหลายได้รู้ว่า วิถีชีวิตของคนชอบธรรม ชาวสวรรค์มีชีวิตเช่นนี้ จะเป็นสิ่งจูงใจคนเหล่านั้นรู้จักแผ่นดินของพระเจ้า คริสตชนต้องตระหนักอยู่เสมอว่า “เราเป็นพลเมืองแห่งสวรรค์และเรารอคอยผู้ช่วยให้รอดจากสวรรค์คือพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” (ฟีลิปปี 3:20) และเราต้องดำเนินชีวิตในโลกเป็นตัวอย่างแก่คนอื่นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้เขาเห็นว่าชีวิตในสวรรค์เป็นเช่นไร

ชาวสวรรค์พึงปฏิบัติดังนี้

• ชาวสวรรค์นมัสการพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์แห่งสวรรค์ บนสวรรค์เราจะทำสิ่งต่อไปนี้“เพราะว่าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ ซึ่งเราจะสร้างขึ้นนั้น…จากวันขึ้นค่ำถึงอีกวันขึ้นค่ำและจากวันสะบาโตถึงอีกวันสะบาโต มนุษย์ทั้งหมดจะมานมัสการต่อหน้าเรา” (อิสยาห์ 66:22-23) ”สิ่งมีชีวิตทั้งสี่นั้นแต่ละตนมีปีกหกปีก และมีตาอยู่รอบๆ และข้างในเต็มไปหมด และพวกเขาร้องตลอดวันตลอดคืนไม่ได้หยุดเลยว่า ‘บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์องค์พระผู้เป็นเจ้า คือพระเจ้าทรงฤทธานุภาพสูงสุด ผู้ทรงเคยเป็นอยู่ ผู้ทรงเป็นอยู่ และผู้ที่จะเสด็จมา’”(วิวรณ์ 4:8) วันนี้หากเราไม่ชื่นชมยินดีเข้าโบสถ์นมัสการ ขอให้นึกถึงการนมัสการของชาวสวรรค์ดังที่กล่าวนี้

• ชาวสวรรค์จับจ้องสายตาไปที่บุรุษผู้มาจากสวรรค์  “จับตามองที่พระเยซูผู้เบิกทางความเชื่อและผู้ทรงทำให้ความเชื่อนั้นสมบูรณ์….” ( ฮีบรู12:2)พระเยซูคือแบบอย่างของการดำเนินชีวิตชาวสวรรค์ในโลกของเรา จงประพฤติ กระทำตามอย่างของพระองค์ความเชื่อของเราสมบูรณ์เมื่อ “อุตส่าห์ประพฤติอย่างสมกับความรอดของท่านทั้งหลาย  ด้วยความเกรงกลัวและตัวสั่น”(ฟีลิปปี 2:12) จากนั้น “จงเลียนแบบของพระเจ้าให้สมกับเป็นบุตรที่รักและจงดำเนินชีวิตในความรักเช่นเดียวกับที่พระคริสต์ทรงรักเรา และประทานพระองค์เองเพื่อเรา” (เอเฟซัส 5:1-2)

• ชาวสวรรค์ใช้ชีวิตสวรรค์ในโลก ทันทีที่บุคคลใดรับเอาพระเยซูเข้ามาในชีวิต ชีวิตนิรันดร์

ของเขาเริ่มต้นทันที  “พระองค์ทรงทำให้เราเป็นขึ้นมา (จากชีวิตบาปและความตาย) ด้วยกันกับพระคริสต์ และทรงให้เรานั่งด้วยกันกับพระองค์ ในสวรรคสถานในพระเยซูคริสต์ ” (เอเฟซัส 2:5-6)นี่คือสิทธิพิเศษของคริสตชน เราเป็นชาวสวรรค์แล้วเรานั่งอยู่กับพระเยซูในสวรรค์   คริสตชนมีชีวิตร่างกายอยู่ในโลก ส่วนจิตวิญญาณ อยู่บนสวรรค์ เป็นหลักประกันว่าความรอดเป็นจริง เป็นมัดจำในความมั่นใจในความรอดที่แน่นอน เมื่อคริสตชน มีชีวิตอยู่ในโลกและนั่งอยู่กับพระเยซูบนสวรรค์ ก็ควรดำเนินชีวิตให้สมกับเป็นชาวสวรรค์ “เป็นบุตรของพระเจ้าที่ปราศจากตำหนิ ท่ามกลางชนชาติที่คดโกง และวิปลาส ท่านปรากฏในหมู่พวก เขาดุจดวงสว่างต่างๆ ในโลก” (ฟีลิปปี 2:15) และ “ยึดมั่นในพระวจนะแห่งชีวิต” (ข้อ 16) ยามใดที่ถูกทดลองชักจูงให้ทำบาป จงระลึกเสมอว่าท่านนั่งอยู่กับพระเยซู ชาวสวรรค์สะท้อนการดำเนินชีวิตในสวรรค์ เปาโลขอร้องให้คริสตชนทุกคน “ขอเพียงให้พวกท่านดำเนินชีวิตสมกับข่าวประเสริฐของพระคริสต์” (ฟีลิปปี 1:27) คนอีกมากมายจะรู้จักพระเยซูมากยิ่งขึ้นพระองค์ทรงตรัสว่าเราเป็นเกลือเป็นความสว่างแก่ชาวโลก หากประพฤติตนสมกับเป็นชาวสวรรค์ จะมีส่วนให้นิมิต ที่เศคาริยาห์ได้รับเป็นจริงท่านเห็นภาพของชาวโลกมุ่งหน้า ไปเยรูซาเล็ม เพื่อนมัสการพระเจ้า“พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้ว่าในสมัยนั้น 10คน จากทุกชาติ ทุกภาษา จะยึดชายเสื้อคลุมของยิว คนหนึ่งไว้ แล้วกล่าวว่า ‘ขอให้เราไปกับท่านทั้งหลาย เถิดเพราะเราได้ยินว่าพระเจ้าสถิตกับพวกท่าน’” (เศคาริยาห์ 8:23) น่าเสียดายที่คนยิวทำให้ภาพนี้ขาดหายไป ยุคนี้ คริสตชนจะทำให้นิมิตนี้สำเร็จได้ไหม?ชาวสวรรค์ค้นดูพระวจนะ ศึกษาพระธรรมอย่างจริงจัง ค้นหาความจริงรับเอาพระวจนะเข้ามาในชวี ติ “เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงทำการอยู่ภายในพวกท่าน” (ฟีลิปปี 2:13) ให้ท่านมีความประสงค์และมีความสามารถทำตามชอบพระทัยของพระองค์ ชาวสวรรค์ประพฤติตามพระวจนะสะท้อนให้เห็นชีวิตเบื้องบน “อุตส่าห์ประพฤติอย่างสมกับความรอด ” (ฟีลิปปี 2:12) ชาวสวรรค์แบ่งปันพระวจนะ “จงเล่าถึงพระสิริของพระองค์ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ และการอัศจรรย์ต่างๆของพระองค์ท่ามกลางชนทุกชาติ” (สดุดี 96:3)ชาวสวรรค์จะ “อวดพระเยซูคริสต์” (ฟีลิปปี 3:3)บุตรทั้งหลายของพระเจ้าที่อยู่ในโลกควรสะท้อนให้เห็นความรักจากชีวิตที่ปราศจากตำหนิ การกระทำเช่นนี้จะนำคนบาปอีกมากมายไปยังไม้กางเขนเพื่อให้เขาเห็นลูกแกะของพระเจ้า  “พวกท่านจงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาทั้งหลาย ได้เห็นความดีที่ท่านทำพวกเขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์” (มัทธิว 5:16)

• ชาวสวรรค์ต้องคาดว่าจะมีการข่มเหงซาตานยังเป็นศัตรูที่ไม่เคยหยุดการทำลายมันดุร้าย หมายมั่นต่อสู้บรรดาผู้ติดตามพระเยซู พระองค์ทรงตรัสแก่ผู้ที่ทรงรักว่า “ถ้าพวกเขาข่มเหงเรา เขาก็จะข่มเหงพวกท่านด้วย” (ยอห์น

15:20) ความชั่วร้ายไม่ว่าเกิดขึ้นที่ไหนย่อมปฏิเสธความสว่างและความจริงเสมอ แยกจากพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ ศัตรูเหล่านั้นจะรวมตัวเพื่อต่อสู้บรรดาผู้ชอบธรรมและเชื่อฟังเสมอ ดังที่เปาโลกล่าวไว้ว่า  “แท้จริงทุกคนที่ตั้งใจจะดำเนินชีวิตตามทางพระเจ้าในพระเยซูคริสต์จะถูกข่มเหง”(2 ทิโมธี 3:12)

• ชาวสวรรค์กินอาหารสวรรค์ พระเจ้าทรงมอบอาหารเพื่อการดำรงชีวิตให้แก่มนุษย์คู่แรกและยังคงเป็นอาหารของเราในทุกวันนี้  “ดูนี่เราให้ธัญพืชที่มีเมล็ดทุกชนิดซึ่งมีอยู่ทั่วพื้นแผ่นดินและต้นไม้ผลทุกชนิดที่มีเมล็ดในผลของมันแก่เจ้า เป็นอาหารของเจ้า” (ปฐมกาล 1:29) ซาตานใช้การกินทำลายมนุษย์ คู่แรก ได้ผลอย่างไร วันนี้มันยังใช้วิธีการเดิมอย่างได้ผล ขณะที่ชาวโลกกำลังทุกข์ทรมานด้วยโรคที่เกิดจากพฤติกรรม การกินคริสตชนควรเป็นแบบอย่างในการยึดมั่นในคำสอนของพระคัมภีร์เรื่องอาหาร  นอกจากเราจะไม่เจ็บป่วยง่าย เรายังสามารถใช้เป็นวิธีในการเป็นพยานที่เกิดผลมาก เคยมีคนถามผู้เขียนว่า  ในสวรรค์เราจะมีเนื้อสัตว์กินไหม? คำตอบคือ “ไม่มี” สวนเอเดนก่อนมนุษย์ทำบาปเป็นอย่างไร ในสวรรค์ใหม่จะเป็นเช่นเดียวกัน คำตอบที่ชัดเจนที่สุด คือเมื่อไม่มีบาปย่อมไม่มีความตาย จึงไม่มีฆ่า เมื่อคนไม่ตาย สัตว์ก็ย่อมไม่ตายด้วย “ ความตายจะไม่มีอีกต่อไป” (วิวรณ์ 21:4) ในสวรรค์สัตว์ไม่กินเนื้อ “สุนัขป่าและลูกแกะ จะหากินเหมือนพวกเดียวกัน สิงโต จะกินฟางเหมือนวัวและงูกิน ผงคลีเป็นอาหารพวกมันจะ ไม่ทำ​อันตราย หรือทำ​ลายกัน ทั่วภูเขาบริสุทธิ์ของเรา” (อิสยาห์ 65:25) ชาวสวรรค์จึงต้องฝึกกินอาหารสวรรค์เสียแต่วันนี้….(โปรดอ่าน บทความอื่นๆ เกี่ยวกับสุขภาพ และพระคัมภีร์ในเว็บไซต์ของสมาคมฯ “NCDsโรคร้าย” ใน “คริสตสายสัมพันธ์” ฉบับ 3/2014)

• ชาวสวรรค์พูดภาษาของสวรรค์ เปาโล

แนะนำว่า “จงปฏิบัติต่อคนภายนอกด้วยสติปัญญา โดยใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ จงให้ถ้อยคำของท่านทั้งหลายประกอบด้วยเมตตาคุณเสมอปรุงด้วยเกลือให้มีรสเพื่อท่านจะได้รู้ว่า ควรจะตอบแต่ละคนอย่างไร” (โคโลสี 4:5-6) “อย่าให้คำเลวร้ายออกจากปากของท่านทั้งหลาย แต่จงกล่าวคำดีๆที่เสริมสร้างและที่เหมาะกับความต้องการ เพื่อจะได้เป็นคุณแก่คนที่ได้ยิน” (เอฟซัส 4:29)

• ชาวสวรรค์ตั้งเป้าหมายเข้าไปอยู่ในสวรรค์

เราต้องแสวงหาสวรรค์ ค้นหาสวรรค์ ประพฤติตนเพื่อจะเข้าสวรรค์ จำใส่ใจเสมอว่า อุปนิสัยที่ไม่รับการเปลี่ยนแปลงใหม่จะแอบเข้าไปสวรรค์ไม่ได้โดยการต้งั เป้าหมายใช้ชีวิตของชาวสวรรค์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าท่านต้องใช้ชีวิตแบบพระคริสต์ขณะที่อยู่บนโลกนี้ จากนั้นจะกลายเป็นสวรรค์สำหรับท่านและจะเป็นสวรรค์สำหรับบรรดาผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตของท่าน คนรอบข้าง จะเห็นความเป็น “ชาวสวรรค์” ในตัวเรา ยิ่งไปกว่านั้น เราต้องเข้าสู่ชีวิตชาวสวรรค์บนโลกนี้ก่อน หาไม่แล้วจะไม่มีโอกาสได้เข้าไปในสวรรค์ที่กำลังจะมาถึงชีวิตอันเป็นนิรันดร์… อย่าให้สูญเสียเป็นอันขาด

• ชาวสวรรค์สื่อสารกับสวรรค์ โดยการศึกษาพระคัมภีร์อย่างสม่ำเสมอไม่ขาด ดื่มด่ำกับพระวจนะของพระเจ้าทุกเวลา อธิษฐานเสมอไม่ขาดการติดต่อกับพระเจ้า ศึกษาหนังสือตำราหนังสือส่งเสริมจิตวิญญาณอย่างต่อเนื่อง

• ชาวสวรรค์จะไม่สิ้นหวัง เราต้องมี “ความจริงตามทางพระเจ้าซึ่งอยู่บนความหวังของชีวิตนิรันดร์ ที่พระเจ้าผู้ไม่ตรัสมุสาทรงสัญญาไว้” (ทิตัส 1:1-2) เชื่อว่า “เมื่อเราถูกชำระให้ชอบธรรมโดยพระคุณของพระองค์แล้วก็จะได้เป็นผู้รับมรดกตามที่หวังไว้ คือชีวิตนิรันดร์” (ทิตัส 3:7) มี “พระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นความหวังของเรา”(1 ทิโมธี 1:1) “บังเกิดใหม่เข้าในความหวังที่ยั่งยืน”(1 เปโตร 1:3) “ชื่นชมยินดีในความหวังว่าจะได้มีส่วนในพระสิริของพระเจ้า” (โรม 5:2) “พระเจ้าแห่งความหวังโปรดให้ท่านบริบูรณ์ด้วยความชื่นชมยินดีและสันติสุขในความเชื่อ…เปี่ยมด้วยความหวังโดยฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์” (โรม 15:13)ความหวังคือสิ่งสุดท้ายที่ควรสูญเสีย (สุภาษิตอิตาลี) ด้วยเพราะ “พระคริสต์สถิตในพวกท่านอันเป็นความหวังที่จะได้รับศักดิ์ศรี” (โคโลสี 1:27)จากข้อคิดบางประการที่นำมาแบ่งปันนี้ ก็เพื่อให้คริสตชนทกุ คน เตรียมพร้อมเสมอที่จะเข้าสู่แผ่นดินของพระเจ้าทุกเวลา และขณะที่รอคอย เราจะเล่าเรื่องราว “พระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นความหวังของเรา” แก่ทุกคน (1 ทิโมธี 1:1) คำถามสำหรับเราทุกคนในวันนี้ “เราใช้ชีวิตชาวสวรรค์อย่างสมคุณค่าหรือยัง?”

  • ศาสนาจารย์ ดร.สุรเชษฐ์ อินสม
  • ภาพ Wirestock – Freepik.com