สุขหรรษา มีอนามัย จิตใจบริสุทธิ์ 3/16

สุขหรรษา มีอนามัย จิตใจบริสุทธิ์

สืบเนื่องจากที่ผู้เขียนได้รับเชิญเป็นวิทยากรนำเสนอความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ ในรายการ “สุขภาพดี คัมภีร์บอก” จัดโดยสมาคมพระคริสต-ธรรมไทย เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2016 ที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอเรื่องสุขภาพที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ มีผู้เข้าร่วมจากหลายคริสตจักร ต่างคณะนิกาย จึงขอนำบางส่วนของสัมมนามาแบ่งปันในบทความนี้แก่พี่น้องผู้รักพระคัมภีร์ทุกท่านจะได้ประโยชน์ร่วมกัน พระวจนะของพระเจ้าเป็น “คู่มือสุขภาพ” คำแนะนำการดูแลร่างกายให้ปลอดภัยจากโรคที่กำลังคุกคามชาวไทยและชาวโลกอยู่ในขณะนี้ เพื่อทุกคนจะมี “สุขหรรษา มีอนามัย จิตใจบริสุทธิ์” (Happy, Healthy, Holy) ทุกด้าน “ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ” (Physical, Mental and Spiritual) ตามหลักการสุขภาพองค์รวม (Wholistic) ขอเชิญผู้อ่านย้อนกลับไปอ่านบทความสุขภาพของผู้เขียนในเว็บไซต์ของสมาคมฯ ประกอบ (พระคริสตธรรมคัมภีร์-มหัศจรรย์แห่งการรักษา, อาหารของพระเจ้า VS อาหารของมนุษย์, เอ็นซีดี โรคร้าย) จะเข้าใจรายละเอียดได้ดียิ่งขึ้นจากเว็บไซต์ http://www.thaibible.or.th/home/article/treatise/arti

สุขภาพดีในพันธสัญญาเดิม และพันธสัญญาใหม่
ตราบใดที่ผลของความบาปยังคงอยู่ในโลก เรามิอาจหลีกเลี่ยงความเจ็บป่วยและความตายได้ ทว่า เราหวังว่าขอให้สองสิ่งนี้มาถึงบุตรของพระเจ้าช้าที่สุด เพื่อเราจะอุทิศชีวิตและพลังงานในการรับใช้พระองค์ให้นานยิ่งขึ้น และเกิดผลมากตามพระคุณของพระองค์

ความบาปนำเอาความเจ็บป่วยและความตายมาสู่มวลมนุษย์ ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายถูกขวางกั้นด้วยบาป (อสย. 59:2) พระเจ้าผู้บริสุทธิ์ไม่สามารถติดต่อกับคนบาปได้ จึงให้เขา “ชำระตัวให้บริสุทธิ์” ทรงชำระอาดัมและเอวา (ปฐก.3:20) ครอบครัวของเขา (ปฐก. 4:4) คนที่เชื่อปฏิบัติเรื่อยมาจนถึงสมัยอิสราเอลชนชาติพิเศษ “​เป็น​อา​ณา​จักร​ปุโร​หิต และ​เป็น​ชน​ชาติ​บริ​สุทธิ์​สำหรับ​เรา” (อพย.19:4-6) ​​​เป็น​คน​กลาง​ระ​หว่าง​พระ​เจ้า​กับ​มนุษย์ โมเสส “ชำระ” ประชาชนให้บริสุทธิ์ เพื่อพวกเขาจะเป็นชนชาติบริสุทธิ์ และนำคนชาวโลกเข้าสู่ความบริสุทธิ์ของพระองค์ (อพย. 19:10, 14)

พระเจ้าทรงให้เป็นชาติบริสุทธิ์ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ “เพราะ​เรา​คือ​ยาห์-​เวห์​พระ​เจ้า​ของ​เจ้า จง​ชำระ​ตัว​ให้​บริ​สุทธิ์​เพื่อ​เจ้า​จะ​บริ​สุทธิ์ เพราะ​เรา​บริ​สุทธิ์…เจ้า​จึง​ต้อง​บริ​สุทธิ์ เพราะ​เรา​บริ​สุทธิ์” (ลนต.11:44-45) โปรดสังเกตพระนามของพระเจ้าที่ปรากฏซ้อนกัน “ยาห์​เวห์​พระ​เจ้า” ในภาษาฮีบรู “ยาห์เวห์เอโลฮิม” เน้นให้เห็นความสำคัญในพระดำรัสนี้ การชำระให้บริสุทธิ์ในรากศัพท์ภาษาฮีบรู หมายถึงการแยกออกจากสิ่งสามัญ ชนชาติของพระเจ้าจึงแยกออกจากวิถีปฏิบัติของชาวโลกอื่นๆ ในการกินดื่ม การใช้ชีวิต และการนมัสการ

หลักการสุขภาพของพระคัมภีร์ในพันธสัญญาเดิมและใหม่ตั้งอยู่บนความบริสุทธิ์ของพระเจ้า ในพันธสัญญาใหม่ก็เช่นกัน ข่าวสารนี้จึงส่งต่อไปยัง “อิส​รา​เอล​ของ​พระ​เจ้า” (อฟ.6:16) อิสราเอลฝ่ายจิตวิญญาณ “ปุโรหิตหลวง เป็นชนชาติบริสุทธิ์” ของพระเจ้า (1ปต.2:9) เปโตรเรียกร้องคริสตชน “​พระ​องค์​ผู้​ทรง​เรียก​พวก​ท่าน​นั้น​ บริ​สุทธิ์​อย่าง​ไร พวก​ท่าน​เอง​ก็​จง​เป็น​คน​บริ​สุทธิ์​ใน​ชีวิต​ทุก​ด้าน​อย่าง​นั้น เพราะ​มี​คำ​เขียน​ไว้​แล้ว​ว่า ‘พวก​ท่าน​จง​เป็น​คน​บริ​สุทธิ์ เพราะ​เรา​เอง​บริ​สุทธิ์’” (1ปต.1:15-16)

คริสตชนไม่ต้องปฏิบัติตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ต้องไม่เพิกเฉยตัวกฎเกณฑ์สุขภาพในพระคัมภีร์เช่นกัน ในศตวรรษที่ 19 ประมาณ 150 ปีที่ผ่านมา กลุ่มที่จริงจังในเรื่องนี้เช่น เซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีส เน้นส่งเสริมให้มวลสมาชิก “เลือก” บริโภคอาหารเนื้อสัตว์สะอาดตามพระธรรมเลวีนิติ 11 บางคนเลือกบริโภคอาหารที่ได้จากพืชผักและผลไม้ หลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ โดยให้เหตุผลว่าพระเจ้าทรงสร้างร่างกายมนุษย์ให้บริโภคอาหารจากพืช ประกอบกับปัจจุบันเนื้อสัตว์จากฟาร์มมีการใช้สารเคมี อาหารเร่งการเติบโต มีผลต่อสุขภาพของผู้บริโภค ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์พิสูจน์ว่า อาหารเนื้อสัตว์มีอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าอาหารที่ได้จากพืช จึงทำให้สมาชิกจำนวนหนึ่งเลือกปฏิบัติตามแนวนี้ ตามข่าวของหนังสือพิมพ์ US NEWS ชี้ให้เห็นว่าวิธีการนี้มีผลดีต่อสุขภาพ

สุขภาพดีเริ่มจากการเชื่อฟัง
การมีสุขภาพดี ขึ้นอยู่กับการเชื่อฟังกฎเกณฑ์ของพระเจ้าที่เขียนไว้ในร่างกายของเรา “ความ​เชื่อ​คือ​ความ​มั่น​ใจ​ใน​สิ่ง​ที่​หวัง​ไว้ เป็น​ความ​แน่​ใจ​ใน​สิ่ง​ที่​มอง​ไม่​เห็น” (ฮบ.1:1) “สิ่งที่มองไม่เห็น” ภายในร่างกายของเรา พระเจ้าทรงเห็น “โครง​ร่าง​ของ​ข้า​พระ​องค์” (สดด.139:15) “เซล” นับล้านๆ มีชีวิต พระเจ้าจึงประทานอาหารแก่มนุษย์คู่แรกในสวนเอเดน แม้มนุษย์ทำบาป พระเจ้าไม่เคยเปลี่ยนอาหารเหล่านั้น เมื่อความเจ็บป่วยและความตายเกิดขึ้น “​เจ้า​จะ​กิน​พืช​ตาม​ท้อง​ทุ่ง” (ปฐก.3:18) เป็นอาหารและเป็นยารักษาสุขภาพ มนุษย์ออกห่างจากพระเจ้าเป็นเหตุให้ทำบาปฉันใด เมื่อเราออกห่างจากอาหารจากธรรมชาติของพระเจ้าจึงเป็นเหตุให้เราเจ็บป่วยฉันนั้น อาหารจากพืชสดจากธรรมชาติมีคุณประโยชน์ หน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัฐล้วนส่งเสริมการบริโภคอาหารสดจากพืชทั้งสิ้น

พี่น้องคริสตชนทุกท่าน ขณะนี้มีผู้สนใจอาหารสุขภาพจากธรรมชาติ หลีกเลี่ยงอาหารที่ได้จากสัตว์จำนวนมากเกิดขึ้นทั่วโลก และในประเทศไทย (https://www.facebook.com/events/371051693093238/) (http://www.vegetarian-society.org/) คนเหล่านี้ได้รับผลดีจากอาหารจากธรรมชาติ แต่เขาไม่สามารถนำจิตใจของประชาชนไปถึงพระเจ้า เพราะเขาไม่รู้จักพระองค์ ทราบแต่เพียงว่าร่างกายของมนุษย์มีโครงสร้างระบบการย่อยพืชผักไม่เหมือนสัตว์กินเนื้อ ขณะที่บุตรของพระเจ้าผู้เชื่อในการทรงสร้างและอาหารสวนเอเดน บอกว่าอาหารทุกอย่างพระเจ้าชำระแล้ว จึงป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งกำลังเป็นปัญหาในสังคม จากพฤติกรรมการบริโภค (Non-Communicable Diseases “NCDs”) เหมือนคนทั่วไป ขณะที่คนที่ไม่เชื่อพระเจ้าเอาจริงเอาจังเกี่ยวกับเรื่องนี้ ค้นพบว่าสุขภาพดีเกิดจากการบริโภคอาหารจากธรรมชาติ ทั้งที่คริสตชนควรนำเสนอเรื่องนี้สู่สังคม (โปรดอ่าน http://www.morkeaw.net/) ขณะนี้มีคนไทยร่วม 20 ล้านคน กำลังเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง พร้อมเปิดใจและรับฟังข่าวดีเรื่องสุขภาพ ท่านจะเข้าถึงจิตใจคนเหล่านั้นได้ง่ายมากขึ้น เป็นพยานเพื่อพระเยซูได้ดียิ่งขึ้น สิ่งสำคัญที่ต้องกระทำก็คือ ต้องดูแลสุขภาพของเราก่อน จึงจะเป็นพยานได้ดียิ่งขึ้น

มีบางท่านเคยถามว่า ที่พระคัมภีร์กล่าวว่า “ทุกสิ่งที่ขายตามตลาดเนื้อนั้น” กินได้หมด (1คร. 10:25) ขอชี้แจงว่า ในบริบทของพระธรรมนี้กล่าวถึงปัญหาอาหารผ่านการถวายแก่รูปเคารพ พระเจ้าทรงชำระแล้ว (กจ.10:15) เป็นการกล่าวถึงการประกาศข่าวประเสริฐแก่คนต่างชาติ พระเจ้าทรง “ชำระ” ด้วยพระโลหิตของพระคริสต์ อีกคำถามที่พระเยซูตรัสว่า อาหาร “ลง​ไป​ใน​ท้อง​แล้ว​ก็​ถ่าย​ออก​ลง​ส้วม​ไป” (เป็น​การ​ประ​กาศ​ว่า​อาหาร​ทุก​อย่าง​สะอาด มก.7:14-19) ตามบริบทนี้ พระเยซูตรัสกับอัครสาวกให้เห็นว่าความคิดที่ชั่วร้ายจากใจเป็นมลทิน ส่วนอาหารของชาวยิวซึ่งปฏิบัติตามกฎสุขภาพในพระคัมภีร์ ไม่ทำให้เป็นมลทิน พระองค์ตรัสกับชาวยิว อาหารของยิว การที่เรานำเอาอาหารของวันนี้ซึ่งไม่เหมือนอาหาร “โคเชอร์” ของชาวยิวไปเปรียบเทียบ จึงเป็นการตีความที่ไม่ตรงกับความมุ่งหมายของบริบท

การเชื่อฟังพระคัมภีร์เท่านั้นที่จะทำให้เราปลอดภัย การพยายามหาช่องทางเลี่ยงคำแนะนำย่อมไม่ส่งผลดีอย่างแน่นอน “ถ้า​เจ้า​ใส่​ใจ​ฟัง​พระ​สุร​เสียง​ของ​พระ​ยาห์​เวห์​พระ​เจ้า​ของ​เจ้า และ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระ​องค์ อีก​ทั้ง​เงี่ย​หู​ฟัง​พระ​บัญ​ญัติ​ของ​พระ​องค์ และ​รักษา​กฎ​เกณฑ์​ของ​พระ​องค์​ทุก​ประ​การ​แล้ว โรค​ต่างๆ ซึ่ง​เรา​บัน​ดาล​ให้​เกิด​แก่​คน​อียิปต์​นั้น เรา​จะ​ไม่​ให้​เกิด​ขึ้น​กับ​เจ้า​เลย เพราะ​เรา​คือ​ยาห์​เวห์​แพทย์​ของ​เจ้า” (อพย. 15:26) พระดำรัสนี้ยังคงความศักดิ์สิทธิ์ตลอดกาล

โรคของชาวอียิปต์คือโรคอะไร? จากการผ่าตัดดูจากมัมมี่ในสมัยของโมเสส พบว่ามีคนในยุคนั้นเจ็บป่วยด้วยโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไขข้ออักเสบ โรคตับอักเสบ โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคอ้วน พยาธิชนิดต่างๆ และโรคมะเร็ง หากโรคเหล่านี้ยังแพร่หลายในยุคของเรา ก็แสดงว่าหลักการสุขภาพในพระคัมภีร์ย่อมมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับวันนี้ หลักการอาหารตามพระคัมภีร์แนะนำได้แก่

  • ให้รับประทานอาหารจากพืชผัก เมล็ดพืช อาหารจากธรรมชาติ (เหมาะสำหรับร่างกายมนุษย์ เป็นยารักษาสุขภาพ)
  • ห้ามบริโภค
    • เลือด (ป้องกันเชื้อโรค สารเคมี ไขมัน ที่มากับเลือด)
    • ไขมันสัตว์ (สาเหตุของโรคหลอดเลือดตีบ สาเหตุของโรคหัวใจ เส้นเลือดสมองตีบ โรคเบาหวาน ฯลฯ)
    • เนื้อหมู (ไขมันสูง พยาธิ และโรคอื่นๆ จากหมู)
    • สัตว์ที่ตายเอง (อาจตายด้วยเชื้อโรคหรือสัตว์มีโรคกัดตาย)
    • สัตว์ที่มีเนื้อสัตว์ไม่สะอาด (สัตว์ที่พระเจ้าสร้างไว้เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกในธรรมชาติ)
    • เนื้อสัตว์ที่ตายด้วยการทรมาน
    • เนื้อสัตว์ที่รัดคอตาย (เพราะเลือดคั่งอยู่ตามอวัยวะต่างๆ ทำให้เทออกยาก)

สุขภาพดีด้วยอาหารของพระเจ้า
“พระเจ้าทรงเปิดเผยหลักการพื้นฐานนี้ไว้ในพระคัมภีร์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ใช้เวลาหลายพันปีกว่าจะค้นพบและยืนยันว่าถูกต้อง น่าเสียดายที่นักศาสนศาสตร์จำนวนมากไม่เข้าใจคุณค่าของหลักสุขภาพที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ ผลก็คือ เขาล้มเหลวในการทำหน้าที่ซึ่งพระเจ้าทรงมอบหมาย” (Bible Principles of Health by Douglas S. Winnail หลักสุขภาพพระคัมภีร์ โดย ดักลาส เอส. วินเนล) หลักการสุขภาพของพระคัมภีร์ จึงนับเป็น “เวชศาสตร์ป้องกัน” ครั้งแรกของโลก

การศึกษาวิจัยของ ดร. ที. คอลลิน แคมป์เบล ได้รับยกย่องจาก นสพ. นิวยอร์ค-ไทม์ ว่าเป็นการศึกษาด้านระบาดวิทยาระดับสูง กล่าวว่า “ทุกสิ่งในอาหารล้วนมีผลต่อการเสริมสร้างสุขภาพ หรือ ก่อเกิดโรค…การศึกษาทั่วโลกแสดงให้เห็นว่า อาหารที่ดีป้องกันโรคมะเร็ง ดีต่อการป้องกันโรคหัวใจ และเป็นผลดีต่อการป้องกันโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคอื่นๆ อีกหลายชนิด” “อาหารชนิดหนึ่งที่ต่อสู้กับโรคเหล่านี้ได้จากพืชเป็นหลัก” อาหารจากพืชผัก ผลไม้ ธัญพืช ราคาไม่แพง ปลูกเองก็ได้ มีคุณค่าตามที่ร่างกายต้องการ ส่วนอาหารราคาแพง ผ่านการปรุงแต่งรสชาติ ใส่ผงชูรส หรือสารเพิ่มรสต่างๆ ของคนมีเงิน อาจจะไม่ใช่อาหารที่ดีต่อสุขภาพก็เป็นได้ (อ่านได้จาก https://th.wikipedia.org/wikiที_คอลลิน_แคมป์เบลล์)

ร่างกายของเรามาจากดิน เราจึงต้องการแร่ธาตุต่างๆ ที่มาจากดิน ซึ่งร่างกายไม่สามารถรับได้โดยตรง พืชจึงทำหน้าที่ดูดซึมเอาแร่ธาตุเหล่านี้ไว้ เมื่อเรารับประทานก็จะได้รับสารและแร่ธาตุตามที่ร่างกายต้องการไม่มากไม่น้อยเกินไป ร่างกายมีระบบจัดการนำไปบำรุงร่างกายได้อย่างเหมาะสม นี่คือเหตุผลที่อาหารจากพืชคือยารักษาสุขภาพที่ดีเยี่ยมที่สุด ถึงแม้เราปรับตัวให้กินอาหารชนิดอื่น ที่ไม่ใช่อาหารซึ่งเหมาะสำหรับร่างกาย เช่น อาหารที่ได้มาจากสัตว์ เราก็ยังจำเป็นต้องบริโภคพืชผักอยู่ดี เพราะเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพและเหมาะสำหรับร่างกายที่สุด ยกตัวอย่าง ชาวเอสกิโม ซึ่งอาศัยอยู่ในอลาสก้า ที่ปรับตัวเข้ากับอาหารซึ่งได้มาจากปลา แต่พวกเขาป่วยเป็นโรคเรื้อรังหลายชนิด เนื่องจากการบริโภคผลไม้และผักเพียงเล็กน้อย

ไม่มีอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งที่ให้สารอาหารที่จำเป็นแก่มนุษย์ได้อย่างครบถ้วน ยกเว้นน้ำนมมารดาระหว่างวัยทารกเท่านั้น ดังนั้นการรู้จักเลือกสรรอาหาร ผสมผสานอย่างเหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง อาหารที่ได้จากพืชเป็นหลัก เช่น พืชที่มีคุณสมบัติเป็นยา ประกอบด้วยสารที่มีผลเป็นยา เหมือนกับยาชนิดอื่นๆ สิ่งที่ได้มีประโยชน์ ดังนี้ • มีคุณสมบัติป้องกันและแก้ไขปัญหาที่นำไปสู่ความเจ็บป่วย และมีคุณสมบัติในการรักษาด้วย

  • โดยทั่วไป ไม่มีผลข้างเคียงเหมือนยาชนิดอื่น
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ (วิตามินและแร่ธาตุบางชนิด)
  • มีพฤกษเคมีซึ่งมีคุณสมบัติในการรักษา

อาหารจากเนื้อสัตว์ กลายมาเป็นสิ่งจำเป็นในบางกรณี แต่ไม่อาจเป็นอาหารหลักได้ กระนั้นก็ตาม อาหารที่มีคุณค่าพื้นฐานสำหรับร่างกายมนุษย์ และเป็นแหล่งที่มาของสุขภาพดีมาโดยตลอดก็คือ ผลไม้ ธัญพืช เมล็ดพืช และผักชนิดต่างๆ อยู่ดี มีข้อยกเว้นเพียงครั้งเดียว ขณะที่คนเราอยู่ในช่วงแรกของชีวิต วัยทารกที่ต้องดื่มนมมารดาเท่านั้น

จากการศึกษาวิทยาการต่างๆ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า อาหารจากพืชผักที่ปรุงง่ายๆ เป็นแหล่งที่ให้พลังงานที่ดีที่สุด สำหรับ “เครื่องจักร” ของเรา เป็นที่มาของพลังงานซึ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของร่างกายเพื่อ “ชะลอความเสื่อม” ของร่างกาย ให้อายุยืนขึ้น และช่วยป้องกันจักรกลของร่างกายไม่ให้ “เสีย” (หรือตาย) กลางทาง ดังนั้น จึงไม่ควรลืม น้ำ(มัน) หล่อลื่นที่ดีที่สุดสำหรับ “จักรกล” ของร่างกาย ให้จำสูตรนี้ไว้ ข้อมูล +การตัดสินใจอย่างถูกต้อง = สุขภาพดี

แม่บ้านทั้งหลาย ท่านคือผู้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพให้แก่สมาชิกในครอบครัว หากท่านปรุงอาหารที่มีคุณค่า มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารสหวานจัด มันจัด เค็มจัด เสริมผลไม้และผักสดให้มาก ทุกคนในบ้านจะมีสุขภาพดี เท่ากับท่านคือ “นักโภชนาการ” ประจำครอบครัวที่ดี หากทำตรงกันข้าม รับประทานอาหารรสจัดซื้อจากนอกบ้าน ท่านอาจทำให้สมาชิกในครอบครัวเจ็บป่วยได้ง่าย ต้องสิ้นเปลืองค่าดูแลรักษาสุขภาพอีกมากมาย

สุขภาพดีพร้อมพบองค์พระผู้เป็นเจ้า
ยุคปัจจุบัน การนำพืชที่พระเจ้าสร้างมาดัดแปลง ผ่านกระบวนการผลิต ทำให้สูญเสียคุณค่าอาหารตามธรรมชาติ รส กลิ่น สี และแร่ธาตุที่สำคัญ อาหารที่ผ่านกระบวนการผลิตจึงมีแคลอรี่สูง เช่น คนทั่วไปต้องการพลังงานจากอาหารวันละเพียง 2,000 แคลอรี่ เฉลี่ยมื้อละ 600 แคลอรี่ นักกีฬา เกษตรกรและผู้ใช้แรงงาน 2,500 แคลอรี่ หากไม่ต้องการให้น้ำหนักเกินควรเลือกผักสด ผลไม้สด ซึ่งมีแคลอรี่ต่ำ รับประทานได้มาก ส่วนอาหารเมื่อนำไปปรุงจะทำให้แคลอรี่สูงขึ้น เช่น ไข่ต้ม 75 แคลอรี่ ไข่เจียว 215 แคลอรี่ เป็นต้น อาหารยอดนิยมของคนไทยบางชนิดมีแคลอรี่สูง เช่น เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว 679 แคลอรี่ ข้าวมันไก่ 596 ข้าวหมูแดง 541 จึงควรอ่านฉลากปริมาณแคลอรี่ข้างกล่องหรือขวดเสมอ นอกจากของคาว เรามักนิยมรับประทานของหวานและน้ำอัดลม น้ำหวาน อื่นๆ การบริโภคเกินความต้องการ คือสาเหตุโรคเบาหวาน ไขมันสะสม ทำให้น้ำหนักเกินและอ้วน ทุกอย่างจึงอยู่ที่การเลือกบริโภค (ดูตารางแคลอรี่ในอาหารจาก http://kcal.memo8.com/food-calorie-table/)

เด็กนิยมบริโภคขนมถุง ขนมอบ เบเกอรี่ ดื่มน้ำอัดลมแทนน้ำเปล่า ไม่ค่อยออกกำลังกาย จึงเป็นสาเหตุทำให้น้ำหนักเกิน สะสมไขมัน น้ำตาลในเลือด เมื่อโตขึ้นจึงเป็นโรคเบาหวานและความดันสูงได้ง่าย

อย่าคิดว่าร่างกายเหมือนเครื่องจักร เมื่อเสียก็นำเข้าโรงซ่อม การซื้อยามากินเองมีผลเสียต่อสุขภาพ อาจมีผลข้างเคียงต่ออวัยวะส่วนอื่น จึงควรกินยาตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น และการรักษาโรคตามอาการป่วย ก็เหมือนการเช็ดพื้นเปียกน้ำให้แห้งแต่ไม่ปิดก๊อกน้ำ! จึงต้องแก้ปัญหาที่ “การกิน” ของเรา อดีตประธานาธิบดีคลินตัน เมื่อได้รับการแจ้งว่าสุขภาพมีความเสี่ยงสูงจึงหันไปบริโภคอาหารจากพืชผัก กล่าวว่า “ผมได้รับแจ้งว่ามีความเสี่ยงสูง จึงไม่อยากปล่อยตัวไปกับอาหารพวกนี้อีกต่อไป (อาหารอเมริกันทั่วไป) ผมอยากมีชีวิตอยู่ ได้เป็นคุณตา จึงตัดสินใจเลือกอาหารที่คิดว่าจะทำให้มีชีวิตยืนยาวขึ้น….อาหารเหล่านี้ เปลี่ยนชีวิตของผม….”

คริสตชนเชื่อว่า ร่างกายของเราคือ “วิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์” (1คร.6:19) ขอบพระคุณพระเจ้าที่เรามีพระคริสต์ผู้ “ทรง​เป็น​ผู้​ชำระ​เรา​ให้​บริ​สุทธิ์” (1คร.1:30) แล้ว เราจึงร่วมมือกับพระเจ้าเพื่อให้เกิด “ผลของพระวิญญาณ” เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต การควบคุมบริโภคด้วย “การรู้จักบังคับตน” จึงเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสุขภาพ ป้องกันจากโรคจากพฤติกรรมการกิน ขณะเดียวกัน เป็นพยานแก่คนอื่น ในการชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ด้วยอาหารของพระเจ้า หลักการสุขภาพของพระคัมภีร์เป็นเสมือนการนำเอาวิถีชีวิตบนสวรรค์มาใช้ในขณะที่อยู่ในโลก จะทำให้คนที่ไม่เชื่อเห็นว่า ชาวสวรรค์ที่กำลังรอเข้าสวรรค์มีสุขภาพดี ในสวรรค์ไม่มีความตาย ไม่มีการฆ่า อาหารหลายชนิดที่มีอยู่ในโลกปัจจุบันจะไม่มีในแผ่นดินของพระเจ้า “​แผ่น​ดิน​ของ​พระ​เจ้า​นั้น​ไม่​ใช่​การ​กิน​และ​การ​ดื่ม แต่​เป็น​ความ​ชอบ​ธรรม สันติ​สุข และ​ความ​ชื่น​ชม​ยินดี​ใน​พระ​วิญ​ญาณ​ บริ​สุทธิ์” (รม.14:17) ทำไมต้องรอการใช้ชีวิตสุขภาพดีเมื่อไปถึงสวรรค์ ใช้ชีวิตชาวสวรรค์ตั้งแต่วันนี้ไม่ดีกว่าหรือ? เพื่อจะได้ประโยชน์ทั้งโลกนี้และโลกหน้า!!

ประการสำคัญ การดูแลร่างกายทุกด้าน ก็เพื่อเตรียมตัวต้อนรับพระเยซู “องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กำ​ลัง​เสด็จ​มา​พร้อม​กับผู้บริสุทธิ์​ของ​พระ​องค์​ นับ​เป็น​หมื่นๆ” (ยด.14) เพื่อมารับผู้บริสุทธิ์ในโลก “เพราะ​ถ้า​ปราศ​จาก​ความ​บริ​สุทธิ์​แล้ว ก็​จะ​ไม่​มี​ ใคร​ได้​เห็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เลย” (ฮบ.12:14) ท่านชำระชีวิตให้พร้อมเพื่อรอรับเสด็จพระองค์หรือยัง?

  • ศาสนาจารย์ ดร.สุรเชษฐ์ อินสม
  • ภาพ Timolina – Freepik.com