หัวหมอ
คุณวรสิทธิ์ กับคุณประสิทธิ์ 2 ทนายความหนุ่มเดินเข้าไปในภัตตาคารแห่งหนึ่ง
“ขอน้ำเปล่าขวดหนึ่ง น้ำแข็ง 2 “ คุณวรสิทธิ์สั่งพนักงานบริการ
พอสั่งเสร็จ ทั้งคุณวรสิทธิ์และคุณประสิทธิ์ต่างก็ควักห่ออาหารกลางวันออกมาจากกระเป๋าถือ
“ขอโทษครับ…”พนักงานประจำร้านเดินเข้ามาหา พร้อมกล่าวว่า …
“ที่นี่มีกฎ ห้ามรับประทานอาหารที่คุณนำเข้ามาครับ”
ทั้งคุณวรสิทธิ์ และคุณประสิทธิ์ต่างมองหน้ากันครู่หนึ่งส่งยิ้มให้กัน พร้อมกับยักไหล่
จากนั้นทั้งสองก็แลกห่ออาหารกัน!
เบนจามิน วิชโคธ (Benjamin Whichcote) เคยกล่าวไว้ว่า
“สรรพสิ่งล้วนแข็งแกร่งกว่าเรา และไม่ดำเนินตามทางของเรา เราผู้ซึ่งเล็กน้อยว่าสรรพสิ่ง จึงต้องดำเนินตามระบบกฎเกณฑ์ของสรรพสิ่ง…”
(Things are greater than we, and will not comply with us; we, who are less than things, must comply with them.)
ใช่แล้วครับ!
ทุกสังคมที่อยู่ร่วมกัน ปรกติจะต้องมีกฎเกณฑ์ กฎระเบียบหรือกฎหมายที่ทุกคนจะต้องยอมรับ และปฏิบัติเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย!
เพื่อความสงบสุขของคนส่วนใหญ่ แม้จะมีคนส่วนน้อยหรือคนบางคนอาจไม่รู้สึกเป็นสุขไปด้วยก็ตาม!
และกฎเกณฑ์ กฎหมายที่ควรเป็นแนวทางมาตรฐานในการปฏิบัติของเรา คือ กฎที่มาจากพระเป็นเจ้าผู้ทรงสร้างสรรพสิ่ง และมนุษย์ ดังที่กษัตริย์ดาวิดทรงพระราชนิพนธ์ไว้ว่า…
“กฎหมายของพระเจ้ารอบคอบ
และฟื้นฟูจิตวิญญาณ
กฎเกณฑ์ของพระเจ้านั้นแน่นอน
กระทำให้คนรู้น้อยมีปัญญา
ข้อบังคับของพระเจ้านั้นถูกต้อง
กระทำให้จิตใจเปรมปรีดิ์
พระบัญญัติของพระเจ้านั้นบริสุทธิ์
กระทำให้ดวงตากระจ่างแจ้ง!”1
และแน่นอนว่าหากทุกคนในสังคมไทยและสังคมโลกกระทำตามกฎเหล่านี้ของพระเจ้า โลกนี้จะน่าอยู่น่าอภิรมย์มากกว่าปัจจุบันนี้มากมายหลายเท่านัก!
แต่ในความเป็นจริงนั้น ปรากฎว่า มนุษย์ที่ลุ่มหลงในบาปมักปฏิเสธกฎเกณฑ์ กฎหมายของพระเจ้า และสร้างกฎเกณฑ์ กฎหมายของเขาขึ้นมาแทนที่ และเมื่อผู้นำผู้เป็นคนบาปมีอำนาจปกครองก็มักจะออกกฎต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ของตนหรือหมู่คณะ มากกว่าของคนส่วนใหญ่ 1
แต่ว่าเมื่อใดก็ตามที่ กฎเกณฑ์ กฎระเบียบ หรือกฎหมายที่มีอยู่ เริ่มทำให้คนส่วนใหญ่ไม่มีความสุข กฎเหล่านั้นจะถูกผลักดันให้ได้รับการพิจารณาแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงเสียใหม่!
และหากการเรียกร้องโดยสันติ ไม่ได้รับการตอบสนอง ก็มักจะนำมาซึ่งความรุนแรง และความเสียหาย!
แท้จริงแล้ว พระเจ้าทรงประทานกฎบัญญัติต่าง ๆ มาด้วยความรัก คือเพื่อพิทักษ์ปกป้องให้มนุษย์มีแนวทางที่อยู่ร่วมกันอย่างเคารพซึ่งกันและกันด้วยสวัสดิภาพอย่างผาสุก และความรักที่แท้จริงจะมีพลังอำนาจยิ่งกว่ากฎหมายหรือกฎเกณฑ์ใด ๆ !
กฎหมายบังคับให้คนฝืนใจเดินไป 1 กิโลเมตรได้ แต่ความรักผลักดันให้คนเต็มใจเดินไปไกลกว่านั้นอีก 1
กิโลเมตร!
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เคยย้ำเตือนผู้นำประเทศให้ตระหนักเสมอว่า..
จริยธรรมนั้นต้องมาก่อนกฎหมาย!
เพราะผู้มีอำนาจอาจออกกฎหมายมาอย่างไร้คุณธรรม จริยธรรม เพื่อเป็นเครื่องมือในการกระทำสิ่งชั่วร้าย เอารัดเอาเปรียบ หรือผูกขาดภายใต้นามของกฎหมายอันชอบธรรม!
กล่าวคือ เป็นการให้ความชอบธรรมกับสิ่งที่ไร้จริยธรรม ซึ่งมักนำไปสู่การต่อสู้ล้มล้างในที่สุด!
ดังนั้น ผู้ที่เขียนหรือออกกฎหมาย จึงควรจะตั้งพระเจ้าและประชาชนไว้ตรงหน้าเสมอ ในขณะที่ออกกฎเหล่านั้น!
หากกระทำดังที่ว่ามานี้ ทั้งผู้ออกกฎกติกา และผู้ปฏิบัติจะมีความพึงพอใจกันโดยถ้วนหน้าแล้ว พระเจ้าจะทรงอวยพรเป็นทวีคูณ!
คุณอยากให้สภาพการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับตัวคุณหรือไม่ครับ?
ตอบที!
1.สดุดี19:7-8
- บทความ ศาสนาจารย์ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
- ภาพ Freepik.com