โนอาห์ปล่อยนกเขา… หรือนกพิราบกันแน่? 1/10

โนอาห์ปล่อยนกเขา… หรือนกพิราบกันแน่?

ถาม : ทำไม อ่านพระคัมภีร์ฉบับสองภาษาคือ พระคัมภีร์ไทยฉบับ 1971กับ พระคัมภีร์อังกฤษฉบับ Good News Translation หรือ ฉบับ Today’s English Version เมื่ออ่านพระคัมภีร์เปรียบเทียบกันระหว่างภาษาไทยกับภาษา อังกฤษท่านผู้อ่านได้สังเกตเห็นความแตกต่างบางอย่างแล้วสงสัยว่าทำไมจึงแตก ต่าง? แล้วพระคัมภีร์ฉบับใดเชื่อถือได้?

1. ก่อนจะ เข้าสู่คำถามที่เจาะจง ก็อยากจะปูพื้นฐานให้ผู้อ่านเข้าใจก่อนว่า พระคัมภีร์ไทยมิได้แปลมาจากพระคัมภีร์อังกฤษ ดังนั้นจะคาดหวังว่าต้องแปลเหมือนกันนั้นย่อมไม่ได้ เพราะพระคัมภีร์ไทยแปลมาจากภาษาเดิมคือภาษาฮีบรู ภาษาอารเมค และภาษากรีก โดยมีการเปรียบเทียบคำแปลกับพระคัมภีร์อังกฤษที่เป็นมาตรฐาน อาทิ American Standard Version, Revised Standard Version เป็นต้น
2. หลักการแปลของพระคัมภีร์ไทย ก็คือการแปลที่รักษารูปแบบ (Form Base) คือพยายามรักษาคำต่างๆ และรูปแบบการจัดเรียงประโยคให้ใกล้เคียงกับภาษาเดิมมากที่สุดเท่าที่ทำได้ และหากจำเป็นในบางที่ก็ต้องแปลเอาความหมายเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจอย่างถูก ต้อง ส่วนหลักการแปลของพระคัมภีร์อังกฤษฉบับ Good News Translation นั้น คือ การแปลเอาความหมายเป็นหลัก (Meaning Base) โดยไม่สนใจการ รักษาคำและรูปแบบการจัดเรียงประโยคในภาษาเดิม
ดังนั้น เราจึงพบความแตกต่างอย่างแน่นอนแต่นั่นก็เป็นจุดประสงค์ของสมาคมฯ ในการทำพระคัมภีร์ฉบับสองภาษาที่มีความแตกต่างกันในหลักการแปล ทั้งนี้เพื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ศึกษาจะได้เห็น Form Base ใน ฉบับภาษาไทย และเข้าใจความหมายใน Meaning Base ในภาษาอังกฤษ หากผู้อ่านพบบางตอนใน Form Base ที่เข้าใจยาก ก็สามารถอ่านเอาความหมายจากMeaning Baseได้ หรือ ผู้อ่านอยากจะทราบว่าเนื้อความพระคัมภีร์ในภาษาเดิมเป็นอย่างไร ก็สามารถดูได้จาก Form Base ได้ ทางสมาคมฯ อยากให้ผู้อ่านเข้าใจว่า ทางสมาคมฯ ไม่ต้องการเปรียบเทียบพระคัมภีร์สองภาษาเพื่อจะหาข้อผิดพลาดของฉบับใดฉบับ หนึ่ง ไม่ต้องการให้ความเชื่อถือกับฉบับหนึ่งและทำให้อีกฉบับหนึ่งเสื่อมความน่า เชื่อถือไป ทั้งนี้เพราะทั้งพระคัมภีร์ไทยฉบับ 1971 และพระคัมภีร์อังกฤษ ฉบับ Good News Translation ต่างก็เป็นฉบับมาตรฐานที่เชื่อถือ ได้ ทั้งสิ้น ตอนนี้จะขอกล่าวถึงปัญหาที่ผู้อ่านพบ และได้สอบถามมายังสมาคมฯ หลังจากได้อ่านพระคัมภีร์ฉบับสองภาษาของสมาคมฯ แล้ว ก่อนอื่นขอแจกแจงปัญหาออกเป็นสองประเด็นคือ หนึ่งปัญหาเกี่ยวกับเนื้อความในสองฉบับที่ไม่ตรงกัน และสองปัญหาเกี่ยวกับการลำดับเนื้อความที่ต่างกันจนทำให้บางท่านเข้าใจว่า ทางสมาคมฯ จัดเรียงข้อพระคัมภีร์ผิดพลาด

ตอบ : ปัญหาแรก คือ เนื้อความไม่ตรงกันตัวอย่างที่ 1 มีผู้ถามมาว่า คำว่า “dove” ที่พบในฉบับอังกฤษ น่าจแปลว่า “นกเขา”มากกว่า จะแปลว่า “นกพิราบ” อย่างในฉบับไทย ยกตัวอย่าง ในปฐมกาล 8:8-12 โนอาห์ปล่อยนกเขาหรือนกพิราบ? เพราะฉบับอังกฤษใช้คำว่า doveมิใช่ pigeon (นก พิราบ) และในมัทธิว 3:16 เมื่อ พระเยซูรับบัพติสมาจากยอห์นแล้ว พระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมาบนพระเยซูดุจนกเขาหรือนกพิราบ? ฉบับไทยบอกว่า นกพิราบ ส่วนฉบับอังกฤษว่า dove ผู้ถาม คิดว่า ทางสมาคมฯ แปลพระคัมภีร์ไทยไม่ถูกต้อง ควรแปลทั้งในปฐมกาลและมัทธิวว่า นกเขา แล้วทางสมาคมฯ จะตอบคำถามนี้อย่างไรดี? จะหาคำตอบได้จาก ที่ไหน?ในด้านชีววิทยา ทั้งนกพิราบและนกเขาก็อยู่ในตระกูลเดียวกันคือ Columbidae นก พิราบเป็นนกที่มีขนาดใหญ่กว่านกเขา นกพิราบมีหางสั้น แต่นกเขามีหางยาวกว่า ในด้านธรรมบัญญัติของโมเสส นกทั้งสองชนิดจัดเป็นสัตว์สะอาด ดังนั้นจึงใช้เป็นอาหารและเครื่องบูชาแด่พระเจ้าได้ดู เลวีนิติ 1:14 ในด้านการใช้ภาษาอังกฤษปัจจุบันคำ dove อาจหมายถึงนกพิราบ หรือ นกเขาก็ได้ส่วนคำ pigeon หมาย ถึง นกพิราบ และคำ turtledoves หมายถึง นกเขา อนึ่งคำ dove และ pigeon ใช้แทนกันได้ดังนั้นคำ dove ที่ ปรากฏในปฐมกาล 8:8-12 และมัทธิว 3:16 จึงอาจหมาย ถึง นกพิราบได้ด้วย อย่างไรก็ดี เพื่อให้ได้คำตอบที่ชัดเจนก็ต้องกลับไปดูที่ภาษาเดิมของพระคัมภีร์ในเลวี นิติ1:14 มี การระบุชื่อนก สองชนิดคือนกเขาและนกพิราบ คำฮีบรูสำหรับนกเขาคือ  อ่านว่า “โธร” พระคัมภีร์อังกฤษฉบับ Good News Translation แปลว่า dove ส่วนนกพิราบ คือ  อ่าน ว่า “โย นาห์” พระคัมภีร์อังกฤษฉบับ Good News Translation แปลว่า pigeon เมื่อมา ถึงตอนนี้ เราก็จะได้คำตอบแล้วว่า ในปฐมกาล 8:8-12 นั้น โนอาห์ปล่อยนกอะไรออกไปสำรวจพื้นที่? ในพระคัมภีร์ภาษาฮีบรูนั้น คำที่ใช้คือ  (โย นาห์) ดังนั้นเราจึงได้คำตอบที่ชัดเจนว่า โนอาห์ปล่อยนกพิราบ มิใช่ปล่อยนกเขา ส่วนในมัทธิว 3:16 นั้น พระวิญญาณของพระเจ้ามีสัณฐานรูปเหมือนนกอะไร? เพื่อ จะตอบคำถามข้างต้น ก็ต้องมาดูคำกรีกที่ใช้ในลูกา 2:24 เพราะ ที่นี่มีทั้งนกเขาและนกพิราบอยู่ด้วยกัน ข้อพระคัมภีร์นี้บันทึกว่า “และ ถวายของบูชาตามที่ได้ตรัสสั่งไว้แล้ว ในธรรมบัญญัติของพระเป็นเจ้า คือ นก เขา  คู่ หนึ่ง หรือ นกพิราบ   หนุ่ม สองตัว” เราพบ ว่า คำ อ่าน ว่า “ทรู โกน” นั้น หมายถึงนกเขาซึ่งปรากฏหนึ่งครั้งในพระคัมภีร์ใหม่ ส่วนคำ  “เพ ริสเท-รา” นั้นหมายถึง นกพิราบ ซึ่งปรากฏในพระคัมภีร์ใหม่10 ครั้ง (มธ.3:16, 10:16, 21:12; มก.1:10, 11:15;ลก.2:24, 3:22; ยน.1:32, 2:14,16) ดังนั้นเราก็ได้คำตอบชัดเจนว่า พระวิญญาณของพระเจ้ามีสัณฐานรูปเหมือนนกพิราบ เพราะคำกรีกที่ปรากฎในมัทธิว 3:16 คือ คำ   (เพริสเท-รา)


ตัวอย่าง ที่ 2 มีผู้ถามมา ว่า ใน เยเรมีย์ 38:10 พระราชารับสั่งให้เอเบดเมเลคนำคนกี่คนไปช่วยเยเรมีย์ขึ้นมาจากที่ขัง น้ำ? พระคัมภีร์ไทยฉบับ 1971 ระบุจำนวน 30 คน ส่วนพระคัมภีร์อังกฤษระบุจำนวน 3 คน คำตอบก็คือน่าจะเป็น 30 คน มากกว่า 3 คน ทั้งนี้เพราะสำเนาต้นฉบับพระคัมภีร์ทั้งภาษาฮีบรูและภาษากรีกระบุเช่นนั้น ประกอบกับความคิดเห็นของนักวิชาการพระคัมภีร์เกี่ยวกับความแตกต่างของสำเนา ต้นฉบับที่ให้ไว้ในหนังสือ HOTTP (Hebrew Old Testament Text Project) ซึ่งผู้แปลพระคัมภีร์ใช้ ศึกษาเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับสำเนาต้นฉบับ ได้สนับสนุนการแปลเยเรมีย์ว่า 30 คน โดยจัดให้เกรด A กับ สำเนาต้นฉบับที่มีเนื้อความว่า 30 คน และนี่เองเป็นเหตุผลที่พระคัมภีร์ฉบับมาตรฐานส่วนใหญ่แปลว่า 30 คน (ตัวอย่าง KJV, NIV, NET, NLT, NCV, NJB, CSB, TSV) ส่วนพระคัมภีร์บางฉบับเช่น NAB, NRSV, ESV, REB, GNB แปลว่า 3 คนนั้นก็เนื่องมาจากแปล จากสำเนาต้นฉบับฮีบรูฉบับหนึ่งและจากความคิดว่าการช่วยดึงท่านเย เรมีย์ขึ้นจากบ่อนั้น ไม่น่าจะต้องใช้คนมากถึง30 คน แต่ทางฝ่ายที่สนับสนุนจำนวน 30 คน ก็อธิบายว่า ที่ต้องใช้คนมากขนาดนั้นก็เพื่อป้องกันมิให้ศัตรูมาขัดขวางการช่วยเหลือท่าน เยเรมีย์ เพราะก่อนหน้านี้พวกเจ้านายก็เป็นปฏิปักษ์ต่อผู้เผยพระวจนะ ดูเยเรมีย์ 38:4 อนึ่งพระคัมภีร์ฉบับมาตรฐานทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้ใส่เชิงอรรถ อธิบายในจุดนี้ นั่นก็อาจเป็นไปได้ว่าผู้แปลเห็นว่ามิใช่ประเด็นสำคัญอย่างไรก็ดี เราได้มองเห็นที่มาของการแปลที่ต่างกันแล้ว เราไม่ต้องการจะตัดสินว่าฝ่ายใดถูก ฝ่ายใดผิด เพราะต่างฝ่ายก็มีเหตุผลสนับสนุนของตัวเองทั้งสิ้น แต่เราเองต้องชั่งน้ำหนักเหตุผลของแต่ละฝ่าย เพื่อจะทราบว่าฝ่ายใดน่าจะเป็นได้มากกว่า

ตอบ : ปัญหาที่ส คือ การลำดับเนื้อความในพระคัมภีร์อังกฤษฉบับ Good News Translationกับพระคัมภีร์ไทยฉบับ 1971 มีผู้ ถามมาว่าทำไมพระธรรมเศคาริยาห์บทที่ 4 ในฉบับ Good News Translation จึงไม่เรียงเนื้อความตามลำดับข้อคือ ข้อ 1-5, ข้อ 10b-14 และข้อ 6-10a ที่เป็น อย่างนี้เพราะทางสมาคมฯ ทำผิดพลาดที่ไม่ตรวจตราให้ดีก่อนเรียงพิมพ์แน่นอนคำถามนี้มาพร้อมกับคำ ตัดสินเรียบร้อยแล้วแต่หากเราพิเคราะห์ดูในฉบับอังกฤษตรงปลายข้อ10b เราก็จะพบอักษร e ลอยอยู่ นั่นหมายความว่า ให้ดูเชิงอรรถ (Footnote) ข้างล่างของหน้านั้นแล้วเราก็จะพบ เหตุผลของทีมผู้แปล Good News Translation ที่ได้อธิบายไว้ว่า ได้ย้ายข้อ 10b-14จากท้ายบทมาไว้ที่นี้ก็เพื่อรักษากระแสความให้ไหลอย่างเป็นธรรมชาตินั่นเอง ดังนั้นคำตัดสินว่าเป็นความผิดของสมาคมฯ จึงตกไป อนึ่งนี้เป็นกรณีศึกษาที่ดีว่า หากเราพบอะไรที่ไม่เข้าใจในพระคัมภีร์ ก็ให้ลองดูว่ามีเชิงอรรถกำกับอธิบายอยู่ด้วยหรือไม่? เพราะบางทีคำตอบข้อ ข้องใจของเราก็อยู่ที่เชิงอรรถนั้นเอง

  • อ.ปัญญา โชชัยชาญ
  • ภาพ Wirestock – Freepik.com