สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสสิ้นพระชนม์

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสสิ้นพระชนม์ แม้ว่าผมและสมเด็จพระสันตปาปา ฟรานซิส จะมีความเชื่อต่างนิกายกัน แต่ผมเคารพศรัทธาและชื่นชมในชีวิต คำสอนและการรับใช้ของพระองค์เป็นพิเศษ วันนี้ ผมทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ (21 เมษายน 2025) จากสำนัวาติกัน (ผ่านTheStandardNews) ที่เผยแพร่แถลงการณ์ว่า โป๊ปฟรานซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ด้วยพระชนมายุ 88 พรรษา! การสิ้นพระชนม์ของพระสันตปาปาเกิดขึ้นในช่วงไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังจากที่พระองค์ปรากฏตัวที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ในวาติกัน และประทานพรแด่ชาวคริสต์เนื่องในวันอีสเตอร์ ผมประทับใจในเส้นทางสู่การเป็นประมุขศาสนจักรโรมันคาทอลิกของพระองค์ ดังนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เป็นพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 ของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก พระองค์มีพระนามเดิมว่า “ฮอร์เก มาริโอ แบร์โกกลิโอ” (Jorge Mario Bergoglio) เป็นชาวอาร์เจนตินา ประสูติในกรุงบัวโนสไอเรส เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 1936 เป็นบุตรคนโตจากพี่น้อง 5 คน บิดาชื่อมาริโอ เป็นผู้อพยพชาวอิตาลี และนักบัญชีที่ทำงานให้กับการรถไฟ ส่วนมารดาชื่อ เรจินา ซิโวรี พระองค์จบการศึกษาระดับปริญญาสาขาเคมีเทคนิคจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ก่อนเป็นบาทหลวง โดยเข้าศึกษาที่เซมินารี […]

คุณรู้หรือไม่ เกิดอะไรขึ้นบ้างในยุครอยต่อระหว่าง พันธสัญญาเดิมกับพันธสัญญาใหม่ 11/25

คุณรู้หรือไม่ เกิดอะไรขึ้นบ้างในยุครอยต่อระหว่าง พันธสัญญาเดิมกับพันธสัญญาใหม่ ช่วงเวลาระหว่างพันธสัญญาเดิมกับพันธสัญญาใหม่นั้นยาวนานราว 400 ปี โดยนับจากพันธกิจ ของมาลาคีสิ้นสุดลงจนถึงเหตุการณ์ในพระกิตติคุณเริ่มต้นขึ้น ยุคนี้ยังถูกเรียกว่า “ยุคเงียบ” ด้วยเหตุที่พระเจ้าไม่ได้ส่งผู้เผยพระวจนะมาสื่อสารกับชนชาติของพระองค์ ช่วงเวลานี้มีเหตุการณ์สำคัญหลายอย่างเกิดขึ้น แต่ในที่นี้จะขอกล่าวโดยสังเขป สมัยอาณาจักรเปอร์เซีย (ประมาณปี 538-331 ก่อน ค.ศ.) อาณาจักรเปอร์เซียรุ่งเรืองขึ้นและมีชัยเหนืออาณาจักรบาบิโลน ชาวยิวที่ถูกนำไปเป็นเชลยในบาบิโลนต่อมาได้รับอนุญาตจากไซรัสกษัตริย์ชาวเปอร์เซียให้เดินทางกลับมายังปาเลสไตน์เป็นสามระลอก นำโดยเศรุบบาเบล เอสรา และเนหะมีย์ พวกเขาได้ฟื้นฟูชนชาติของพระเจ้าขึ้นใหม่โดยมีพระวิหารหลังที่สองที่พวกเขาสร้างเป็นศูนย์กลาง (2 พศด.36:22-23; อสร.1:1-4) ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ยังคงดำรง รักษากิจกรรมฝ่ายจิตวิญญาณอย่างอื่นที่ได้พัฒนาขึ้นในช่วงที่เป็นเชลย อาทิ การประชุมในธรรมศาลา (กจ.15:21) และการตีความหมายกับการสอนพระคัมภีร์โดยพวกอาลักษณ์และธรรมาจารย์ในยุคนี้ ชนชาติยิวสามารถปกครองตนเองได้โดยมีปุโรหิตเป็นผู้นำที่มีอำนาจปกครองทั้งทางด้านศาสนาและการเมือง โดยขึ้นตรงต่อผู้สำเร็จราชการแห่งเปอร์เซีย สมัยอาณาจักรกรีก (ประมาณปี 331-164 ก่อน ค.ศ.) อาณาจักรกรีกของอเล็กซานเดอร์มหาราชได้พิชิตอาณาจักรเปอร์เซียและขยายบริเวณไปไกลถึงลุ่มแม่น้ำสินธุ ในขณะเดียวกันก็เผยแพร่ภาษาและวัฒนธรรมกรีกไปด้วย จนราวปี 323 ก่อน ค.ศ. อเล็กซานเดอร์ก็สิ้นพระชนม์ บรรดาแม่ทัพของพระองค์ชิงอำนาจกันทำให้อาณาจักรกรีกถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน อาณาจักรที่สำคัญสองอาณาจักรปกครองโดยราชวงศ์ปโตเลมี (มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองอเล็กซานเดรียในอียิปต์) และราชวงศ์เซลูซิด (มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองอันทิโอคในซีเรีย) ซึ่งผลัดกันครอบครองแคว้นยูเดีย โดยทีแรกราชวงศ์ปโตเลมีปกครองชาวยิวอย่างเป็นมิตรในช่วง […]

วันนี้ คุณฟังเรื่องอะไรมา?

วันนี้ คุณฟังเรื่องอะไรมา? คุณอาจคิดไม่ถึงนะครับว่า สิ่งที่คุณฟังมาอาจเปลี่ยนชีวิตของคุณได้! เพียงแต่ว่า เปลี่ยนให้ดีขึ้นหรือเลวลงเท่านั้น! คุณรู้ไหมว่า “การฟัง” ของคุณเป็นตัววัดวุฒิภาวะทั้งทางจิตและวิญญาณของคุณ หากว่าคุณฟังทุกเรื่องหรือทุก ๆ คำ แล้วเก็บมาทำลายความสุข ความยินดี ในชีวิตของคุณ คุณกำลังทำร้ายตัวเองอย่างโหดร้าย! สิ่งที่คุณรับฟังมาอาจไม่จริงเลยแม้สักนิด หรือจริงนิดหน่อย ซึ่งก็ไม่มีผลอะไรต่อชีวิตของคุณเลย หากคุณปล่อยให้มันผ่านไปเหมือนสายลม  หรืออาจเป็นจริงพอสมควร แต่จัดการได้อย่างสร้างสรรค์ ในเชิงรับ หรือเชิงรุก ถือเป็นข้อสอบท้าทายให้พิชิตเพื่อจะเลื่อนชั้น  มิใช่นำกลับมาคิด ขยายประเด็นจนทำให้สอบตก! และหากว่าเรื่องที่ได้ยินได้ฟังมาเป็นเรื่องจริงที่เลวร้ายอย่างสุด ๆ จนเกินวิสัยมนุษย์อย่างเราจะรับได้ วิธีรับมือที่ดีที่สุดก็คือ มอบเรื่องดังกล่าวไว้กับพระเจ้า และปวารณาตัวให้พระเจ้าทรงใช้ในการสร้างสันติ หรือก่อประโยชน์สุข เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า และเป็นพรต่อทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยที่เรายังคงดำเนินชีวิตอย่างปรกติสุขในสามัคคีธรรมกับ พระเจ้า และพี่น้องทุกวันสืบไป!   อย่างนี้ไม่ดีกว่าหรือ? แต่หากว่าสิ่งที่ได้ฟังมานั้นเป็นคำเตือนสติ ก็จงรับไว้ด้วยความขอบคุณ ไม่ว่าผู้ที่เตือนสติเรานั้นจะเตือนเราด้วยท่าทีอย่างไร  คำขอบคุณอย่างจริงใจของเราจะนำมาซึ่งผลดีมากกว่าผลเสีย! พระธรรมสุภาษิต บอกว่า…. “จงฟังคำแนะนำและรับคำเตือนสติ เพื่อเจ้าจะได้ปัญญาสำหรับอนาคต” (สภษ.19:20) วันนี้ คุณจงกระตือรือร้นในการฟังสิ่งดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพระวจนะของพระเจ้า! แต่ในเวลาเดียวกันก็มีคำเตือนว่า อย่าสนใจฟังทุกเรื่องที่ไม่ก่อเกิดประโยชน์ และอาจนำทุกข์มาสู่คุณ! […]

คุณใช้คำพูดของคุณ ฆ่าคน หรือ ช่วยคน?

คุณใช้คำพูดของคุณ ฆ่าคน หรือ ช่วยคน? คำพูดของเราอาจเป็นยาพิษ ทำให้คนฟัง ตายทันที หรือตายช้าๆอย่างทรมานเพราะพิษร้าย หรือเป็นยารักษาดุจทิพย์โอสถ ที่ทำให้คนฟัง ที่กำลังใกล้จะตายกลับฟื้นคืนชีวิตกลับมาอีกครั้ง นั่นขึ้นอยู่กับว่า คุณใช้คำพูดของคุณอย่างไร? ยิ่งกว่านั้น โลกปัจจุบันนี้ เพิ่มพลานุภาพอันไร้ขีดจำกัดให้กับการพูดของเรา ผ่านทางสื่อต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสื่อออนไลน์ (ทั้งการโพสต์ การเม้า และ การเม้นท์ ของเรา) การพูดของเราและการรับฟังคำพูดของคนอื่นเขาจึงส่งผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต่อสุขภาพพลานามัยของเราทั้ง ทางกาย จิต และวิญญาณ ดังนั้น แทนที่จะใช้คำพูดของคุณ ทำร้ายคน จงใช้คำพูดของคุณ เสริมสร้างคน แน่นอนว่าคนเรา (รวมทั้งคุณและผม) ล้วนไม่สมบูรณ์ ต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย มีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน มีทั้งเรื่องที่น่ายกย่องชมเชย และเรื่องที่น่าตำหนิต่อว่า อย่างไรก็ตาม การชมเชยส่วนดีของกัน ย่อมเกิดประโยชน์มากกว่าการ บดขยี้ในส่วนเสียของกัน คนผิดพลาด ต้องการคำแนะนำและการแก้ไข ให้ถูกต้องและเริ่มต้นใหม่ได้ และแม้แต่คนที่ทำพลาดผิดก็ยังมีสิ่งดีบางสิ่งที่ควรไดรับการรับรู้และการยอมรับจากเรา ในทำนองเดียวกับที่ในหมู่คนที่ทำถูกต้อง ก็ยังมีบางสิ่งที่ไม่ถูกต้องปะปนอยู่ในชีวิตของเขาด้วยเช่นกัน ดังคำที่กล่าวว่า “แม้แต่ในคนดี ก็มีสิ่งเลว และในคนเลวก็ยังมีสิ่งดี!” (แม้แต่คนที่ทำถูก […]

คุณเป็นผู้นำที่คนภูมิใจในตัวของคุณไหม?

คุณเป็นผู้นำที่คนภูมิใจในตัวของคุณไหม? คุณเป็นบุคคลที่คนซึ่งอยู่ในการดูแลของคุณ… สามารถกล่าวได้อย่างจริงใจ และภูมิใจหรือไม่ว่า คุณเป็นผู้นำที่ดีเยี่ยมของเขา? พวกเขายืนยันได้หรือไม่ว่า คุณเป็นผู้สอนพระวจนะของพระเจ้า(ไม่ใช่สอนแค่ความรู้หรือความคิดเห็นของตัวคุณ)แก่พวกเขา อย่างซื่อตรง และชัดเจน? พวกเขามองเห็นแบบอย่างความเชื่อของคุณที่คงเส้นคงวามาอย่างยาวนานและไว้ใจคุณได้? พวกเขาพิจารณาดูผลในชีวิตของคุณมาจนถึงบั้นปลายได้ และปรารถนาที่จะเลียนแบบความเชื่อของคุณ? พวกเขาเต็มใจนบนอบเชื่อฟังคุณอย่างเต็มใจ? พวกเขามีความสุขใจและพอใจกับการที่คุณเอาใจใส่ดูแลรักษาจิตวิญญาณของพวกเขาที่ผ่านมา? พวกเขาชื่นชมยินดีกับการได้มีส่วนสนับสนุนให้คุณสามารถทำงานในความรับผิดชอบของคุณได้เป็นอย่างดี? พวกเขาหลีกเลี่ยงหรือลดการทำให้คุณเศร้าเสียใจ หรือไม่เป็นประโยชน์ต่อการรับใช้ที่คุณกระทำอยู่? พวกเขาอธิษฐานเผื่อคุณอยู่ตลอดเวลา? พวกเขาแน่ใจว่าคุณมีมโนธรรมที่ดี และปรารถนาที่จะประพฤติตัวดีงามในทุกเรื่อง? ถ้าคุณเป็นผู้นำที่มีคุณลักษณะที่กล่าวมา คุณคือของขวัญจากพระเจ้าสำหรับชุมชนที่คุณเป็นผู้นำ และเป็นผู้เลี้ยงดู! และหากว่าคุณเป็นผู้ที่กระทำเช่นดังที่กล่าวมานั้นต่อผู้นำของคุณ คุณก็คือ ของขวัญล้ำค่า สำหรับผู้นำของคุณ! วันนี้ ให้เรา เป็นแบบอย่างของผู้รับใช้ ที่ถ่อมใจเข้าหากันด้วยความรักความห่วงใยต่อกันอย่างจริงใจ ให้เราเสริมสร้างกัน ร่วมมือร่วมใจกันทั้งในฐานะเป็นผู้นำและทีม(สนับสนุน)ผู้นำ ในการช่วยกันพลิกฟื้นแผ่นดินไทยให้ใสสะอาดและน่าอยู่อาศัย ในอันที่จะทำให้คนไทยได้รับความรอด และพระพรแห่งความสุขใจจากพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ กันถ้วนหน้า …จะดีไหมครับ? “จงระลึกถึงบรรดาผู้นำของพวกท่าน ผู้กล่าวพระวจนะของพระเจ้ากับพวกท่าน จงพิจารณาดูผลบั้นปลายชีวิตของพวกเขา แล้วจงเลียนแบบความเชื่อของพวกเขา …จงนบนอบเชื่อฟัง บรรดาผู้นำของท่านทั้งหลาย เพราะว่าพวกเขาดูแลรักษาจิตวิญญาณของพวกท่านอยู่อย่างคนที่ต้องถวายรายงาน จงให้พวกเขาทำงานนี้ด้วยความชื่นชมยินดี ไม่ใช่ด้วยความเศร้าใจ ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์แก่พวกท่านเลย จงอธิษฐานเผื่อเรา เพราะเราแน่ใจว่าเรามีมโนธรรมที่ดีและปรารถนาที่จะประพฤติตัวดีงามในทุกเรื่อง” ฮีบรู 13:7, 17-18 ฉบับมาตรฐาน บทความ […]

คุณยังสุขสันต์วันเกิดได้ไหม

คุณยังสุขสันต์วันเกิดได้ไหม หากว่ากายของคุณกำลังทรุดโทรมไป? คุณกำลังทรุดโทรมอยู่หรือไม่? ร่างกายของคุณกำลังทรุดโทรมให้เห็นอาการบ้างไหม? ตาคุณเริ่มฝ้าฟางแล้วหรือยัง? ฟันเริ่มผุกร่อนหรือแตกหักบ้างหรือไม่? หัวใจ และตับไตไส้พุงเริ่มออกอาการไม่ปกติอะไรบ้างไหม? กำลังวังชาแขนขาเริ่มถดถอยแล้วหรือยัง? ฮอร์โมนที่จำเป็นในร่างกายของคุณเริ่มลดหรือหมดไปแล้วหรือไม่? และอาการเจ็บป่วยอื่นๆเริ่มปรากฏชัดขึ้นแล้วหรือยัง? สมองของคุณเริ่มออกอาการทรุดโทรมอ่อนล้าแล้วหรือยัง? ความจำเริ่มออกอาการหลงๆลืมๆไปบ้าง หรือไม่? ความแม่นยำเฉียบคมในความคิดเริ่มค่อยๆหมดไปไหม? ใจของคุณเริ่มฝ่อ มีความวิตกกังวลและความกลัวเพิ่มขึ้นหรือไม่? อารมณ์ของคุณเริ่มเปราะบางแตกง่ายเมื่อถูกกระทบด้วยคำพูดหรือไม่? …แล้วจิตวิญญาณของคุณล่ะ เป็นอย่างไร? เราทุกคนต้องยอมรับความจริงว่า เรามีอายุโดยเฉลี่ย ในโลกประมาณ 70–80 ปี “อายุขัยของข้าพระองค์ทั้งหลายคือเจ็ดสิบ หรือหากแข็งแรงก็ถึงแปดสิบ แต่ช่วงชีวิตนั้นมีแต่ความลำบากและความเศร้าโศก ไม่ช้าก็สูญไปและพวกข้าพระองค์ก็จากไป” สดุดี 90:10 ฉบับมาตรฐาน และยิ่งเราอายุมากขึ้น เราก็กำลังก้าวเข้าไปใกล้จุดจบของชีวิตของเรามากขึ้น พร้อมกับความยากลำบากในการดำเนินชีวิต ที่ควบคู่มากับความโศกเศร้านานาประการที่เกิดขึ้นบนเส้นทางชีวิตนั้น แต่ที่น่าเสียดายและเสียใจก็คือ คนบางคนที่เรารัก กลับต้องเผชิญกับความทุกข์เวทนาก่อนวัยอันควร และบางคนใช้โควต้าชีวิตของพวกเขาไม่ครบเพราะมีอันต้องจากไปเสียก่อน ด้วยโรคภัยไข้เจ็บ หรือไม่ก็เกิดจากอุบัติเหตุ หรือเภทภัยที่ไม่คาดฝัน! ยิ่งคนใดกำลังฉลองวันเกิดของเขา เขาก็ยิ่งตระหนักว่า เวลาในชีวิตของเขากำลังหมดไปแล้วอีกวันหนึ่ง! ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่เราฉลองวันเกิดของเรา ก็ให้เราเตือนสติตัวเองว่า วันตายของเรากำลังใกล้เข้ามาแล้ว อย่ามัวแต่จมอยู่กับความเศร้าเสียใจ ความโกรธแค้น ความขมขื่นใจ หรือความท้อแท้สิ้นหวัง เราควรจะมีสติ […]

พระเจ้าทรงเรียกให้ท่านมาประเทศไทยเมื่อ 60 ปีที่แล้ว และท่านยังคงอยู่ที่นี่จวบจนทุกวันนี้

พระเจ้าทรงเรียกให้ท่านมาประเทศไทยเมื่อ 60 ปีที่แล้ว และท่านยังคงอยู่ที่นี่จวบจนทุกวันนี้ ภาพ หมอเฮ็นรี่ ไบรเดนธอล กำลังร่วมนมัสการ อธิษฐานในคริสตจักรพระคุณชีวิตใหม่ ในฐานะนายแพทย์ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนพระคริสตธรรม และผู้ประกาศข่าวประเสริฐ เฮนรี่ ไบรเดนธอล คือมิชชันนารีที่ได้สอนศิษยาภิบาลไทยมาแล้วหลากหลายรุ่น เช้าวันอาทิตย์อันอบอุ่นของเดือนมีนาคม ณ คริสตจักรพระคุณชีวิตใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่พี่น้องคริสเตียนชาวไทยประมาณ 12 คนกำลังนั่งอยู่อย่างสงบรอการนมัสการ ผู้นำนมัสการเสร็จการทดสอบเสียงกีต้าร์ และศิษยาภิบาลตรวจสอบสไลด์ประกอบการเทศนาเป็นครั้งสุดท้าย สุภาพบุรุษผิวขาวชาวตะวันตก ในวัย 91 ปี เดินก้าวเท้าช้าๆ เข้ามาภายในห้องนมัสการและนั่งลงที่เก้าอี้ เมื่อผู้นำนมัสการลุกขึ้นและขอเชิญ “อาจารย์หมอ” ให้อธิษฐานเปิดการนมัสการ หมอเฮนรี่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ช้า ๆ และเดินไปบริเวณหน้าห้อง ศีรษะสีเทาก้มลง ตาที่ลึกหลับลง และเริ่มอธิษฐาน ด้วยเสียงแผ่วเบาเนื่องด้วยวัย เมื่ออธิษฐานเสร็จ ท่านกลับมานั่งที่เก้าอี้ เมื่อดนตรีเริ่มบรรเลง เมื่อร้องเพลงนมัสการเสร็จ หมอเฮนรี่และผู้ร่วมนมัสการคนอื่นๆ นั่งฟังคำเทศนาเรื่องการถวาย โดยศิษยาภิบาล คืออาจารย์ปฐมพร คงอมรสายชล ครั้งหนึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของหมอเฮนรี่ในโรงเรียนพระคัมภีร์ที่ท่านเองเป็นผู้ก่อตั้ง แต่ในช่วงปัจฉิมวัยอาจารย์ปฐมพรคือเป็นศิษยาภิบาลของท่าน ตลอดระยะเวลากว่า 60 ปี ที่ผ่านมา […]

ทำไมพระเยซูทรงเลือก ยูดาสเป็นสาวก

ทำไมพระเยซูทรงเลือก ยูดาสเป็นสาวก ยูดาสอิสคาริโอท น่าจะเป็นหนึ่งในสาวกของพระเยซูคริสต์ที่เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ที่ทรยศพระองค์ จนเป็นเหตุให้พระองค์ทรงถูกจับกุมและถูกตรึงบนไม้กางเขน แต่เรื่องที่น่าจะคาใจหลายคนก็คือ พระเยซูทรงทราบตั้งแต่แรกหรือไม่ว่ายูดาสจะกลายเป็นคนทรยศ และหากพระองค์ทรงทราบ ทำไมพระองค์จึงยังทรงเลือกเขาเป็นหนึ่งในสาวก ยูดาสอิสคาริโอท เป็นบุตรของซีโมนอิสคาริโอท (ยน.6:71; 13:2) อย่างไรก็ตาม “อิสคา- ริโอท” (Iscariot) ไม่ใช่นามสกุลของเขา แต่อาจมีความหมายที่เป็นไปได้หลักๆ 2 แบบ คือ 1) คำนี้มาจากคำฮีบรู “อิช เคริโอท/คีริยาท” (Ish Kerioth/Kiriyath) ซึ่งแปลว่า “ชายจากเมือง เคริโอท/คีริยาท” ซึ่งเป็นเมืองในภาคใต้ของอิสราเอล ถ้าเป็นเช่นนี้ก็แสดงว่า ยูดาสเป็นคนจากแคว้นยูเดีย ขณะที่สาวกคนอื่นๆ นั้นมาจากแคว้นกาลิลีในภาคเหนือเหมือนกับพระเยซูคริสต์ 2) คำนี้อาจมาจากคำละติน “สิคารีอุส” (Sicarius) แปลว่า “ฆาตกร/นักฆ่า” ซึ่งมาจากรากศัพท์ “สิคา” (Sica) ซึ่งแปลว่า “กริช/มีดสั้น” คำนี้ยังใช้เรียกพวกยิวชาตินิยมหัวรุนแรงที่มักจะลอบสังหารเจ้าหน้าที่ของโรมด้วย ถ้าเป็นเช่นนี้ก็แสดงว่า ยูดาสเป็นพวกชาตินิยมเช่นเดียวกันกับซีโมนพรรคชาตินิยม (มธ.10:4; มก.3:18; ลก.6:15) ทั้งนี้ นักวิชาการส่วนใหญ่ในปัจจุบันดูจะเห็นด้วยกับความหมายแบบแรกมากกว่า […]

“เยโฮวาห์” หรือ “ยาห์เวห์”

“เยโฮวาห์” หรือ “ยาห์เวห์” ในพระคัมภีร์ภาษาเดิมคือภาษาฮีบรู พระนามเฉพาะของพระเจ้าประกอบด้วยตัวอักษรฮีบรู 4 ตัว ได้แก่  י (โยด) ה (เฮ) ו (วาว) ה (เฮ) รวมกันเป็น יהוה หรือเขียนทับศัพท์เป็นภาษาอังกฤษได้ว่า YHWH ซึ่งนักวิชาการเรียกกันว่า เททราแกรมมาทอน (Tetragrammaton) ซึ่งเป็นคำกรีก แปลตรงตัวว่า อักษรสี่ตัว ในอดีต พระคริสตธรรมคัมภีร์ฉบับต่างๆ มีแนวทางการแปลพระนามนี้อยู่สองแนวทางหลักได้แก่ การทับศัพท์ โดยยึดเอาตามการสะกดที่ปรากฏในสำเนาโบราณ เช่น “ยะโฮวา” หรือ “เยโฮวาห์” หรือในภาษาอังกฤษว่า “Jehovah” ฉบับที่มักจะแปลตามแนวทางนี้ได้แก่ ฉบับ 1940 ฉบับ 1971 ASV เป็นต้น การแปลเป็นพระนามทั่วไป เช่น “องค์พระผู้เป็นเจ้า” หรือ “องค์เจ้านาย” หรือในภาษาอังกฤษว่า “The Lord” ฉบับที่มักจะแปลตามแนวทางนี้ได้แก่ ฉบับประชานิยม ฉบับอมตธรรม ESV KJV NKJV NASB NIV GNB CEV เป็นต้น คำถามหนึ่งที่คนสงสัยคือ พระนามนี้ควรจะออกเสียงว่า “เยโฮวาห์” หรือ “ยาห์เวห์” กันแน่  เพื่อที่จะตอบคำถามนี้ เราจะต้องย้อนไปดูประวัติศาสตร์ของการออกเสียงเรียกพระนามพระเจ้า เนื่องจากชาวยิวตั้งแต่สมัยโบราณถือว่าพระนามเฉพาะของพระเจ้าเป็นพระนามบริสุทธิ์และไม่ควรที่จะเอ่ยถึง ดังนั้น เวลากล่าวถึงพระเจ้า ชาวยิวจึงนิยมใช้คำว่า אֲדֹנָי (เขียนทับศัพท์ได้ว่า ʾăDoNaY อ่านว่า อโดนาย) […]

อาจารย์ กนก ลีฬหเกรียงไกร แนะนำอ่านพระคัมภีร์

อาจารย์ กนก ลีฬหเกรียงไกร แนะนำอ่านพระคัมภีร์ ปีละครั้ง ณ จุดเริ่มต้นของปี ผมจะอ่านพระคัมภีร์สักรอบก่อนอ่านหนังสือทั่วไป เป็นแบบนี้ทุกปีๆ ขอบคุณพระเจ้านับวันๆ เนื้อหาถ้อยคำของพระเจ้าเหมือนห้วงน้ำที่ดูเหมือนนิ่ง แต่กลับค่อยๆ เคลื่อนอย่างช้าๆ เข้าไปในจิตใจและความคิดจนสัมผัสได้ถึงความรักความพยายามของพระเจ้าอย่างมากในการนำมนุษย์ที่ล้มลงในบาปให้มีโอกาสกลับตัวกลับใจหันมาหาพระเจ้า ได้รับการช่วยกู้แก้ไข และชีวิตนิรันดร์ การซึมซับของพระวจนะทำให้ผมอดขอบคุณพระเจ้าไม่ได้ จริงๆ บางครั้งก็รู้สึกสงสารพระองค์ในความพยายามที่ไม่ได้รับการตอบรับจากมนุษย์อย่างต่อเนื่องแต่ละยุคสมัย ตอนหนึ่งในพระธรรมอิสยาห์บรรยายถึงแผนการของพระเจ้าที่พระเยซูจะลงมาเพื่อไถ่บาปซึ่งพยากรณ์ไว้ล่วงหน้ากว่า 700 ปี อิสยาห์‬ ‭53‬:‭4‬-‭7‬ “แน่ทีเดียวท่านแบกความเจ็บไข้ของพวกเรา และหอบความเจ็บปวดของเราไป กระนั้นพวกเรายังคิดว่าที่ท่านถูกตี คือถูกพระเจ้าทรงโบยตีและข่มใจ แต่ท่านถูกแทงเพราะความทรยศของเรา ท่านบอบช้ำเพราะความบาปผิดของเรา การตีสอนที่ตกบนท่านนั้นทำให้พวกเรามีสวัสดิภาพ และที่ท่านถูกเฆี่ยนตีก็ทำให้เราได้รับการรักษา เราทุกคนหลงทางไปเหมือนแกะ ต่างคนต่างหันไปตามทางของตนเอง และพระยาห์เวห์ทรงวางความผิดบาป ของเราทุกคนลงบนตัวท่าน ท่านถูกบีบบังคับและถูกข่มใจ ถึงกระนั้นท่านก็ไม่ปริปาก เหมือนลูกแกะที่ถูกนำไปฆ่า และเหมือนแกะที่เป็นใบ้ต่อหน้าผู้ตัดขนของมันเช่นใด ท่านก็ไม่ปริปากของท่านเลยเช่นนั้น” พระเยซูได้คร่ำครวญถึงผู้เผยพระวจนะที่พระเจ้าส่งมาแต่กลับถูกปฏิเสธ ‭‭ ลูกา 13:34 “โอ เย​รู​ซา​เล็มๆ เมือง​ที่​ฆ่า​บรร​ดา​ผู้​เผย​พระ​วจนะ​และ​เอา​หิน​ขว้าง​พวก​ที่​ทรง​ใช้​มา​หา​ถึง​ตาย บ่อย​ครั้ง​เรา​ปรารถ​นา​จะ​รวบ​รวม​ลูกๆ ของ​เจ้า​ไว้ เหมือน​แม่​ไก่​ที่​กก​ลูก​อยู่​ใต้​ปีก​ของ​มัน แต่​พวก​เจ้า​ไม่​ยอม” จนถึงคำพยากรณ์ในอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้นที่ถูกเขียนไว้ในพระธรรมวิวรณ์ วิวรณ์ 22:3-4 […]

1 2 3 11