TBStory I เจ้าพ่อเพลงรัก ได้มาพบกับความหมายของความรักที่แท้จริง ในพระคัมภีร์ I บอย โกสิยพงษ์

TBStory I เจ้าพ่อเพลงรัก ได้มาพบกับความหมายของความรักที่แท้จริง ในพระคัมภีร์ I บอย โกสิยพงษ์

TBStory เรื่องราวของผู้คนที่ชีวิตพลิกผันเพราะพลังของพระคัมภีร์ Ep.6 เจ้าพ่อเพลงรัก ได้มาพบกับความหมายของความรักที่แท้จริง ในพระคัมภีร์ I บอย โกสิยพงษ์ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ทว่าชีวิตดำเนินไปท่ามกลางอุปสรรคปัญหา แต่งเพลงรักร้อยพันบทตามหน้าที่ กระทั่งได้พบพระเจ้าและสัมผัสถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ยากที่จะบรรยายเป็นถ้อยคำ จนเป็นที่มาของบทเพลงดังชื่อว่า “รัก” แต่นิยามของความรักแท้นั้น มีบันทึกไว้ในหนังสือเล่มเดียว คือ พระคัมภีร์

ผมได้รู้จักกับพระเจ้านะครับ ในปี 2002 นะครับ

I came to know God in 2002.

ในช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่ผมก็หลายอย่างในชีวิตเนี่ยเป็นเรื่องที่เรียงลำดับไม่ถูกนะฮะ

At that time, I was faced with many challenges in my life. I can’t put them in a right order.

ผมมีคุณพ่อคุณแม่คุณยายที่ไม่สบายที่อายุเยอะแล้ว

My dad, my mom and my aged grand-ma fell sick.

ภรรยานะฮะที่เพิ่งคลอดลูกสาวคนแรกออกมา ก็นับเวลา ที่จะแบบต้องเดี๋ยวเขาก็จะต้องโตก็ต้องต้องคอยดูแล

My wife just gave birth to our first daughter. She would grow up and we were busy looking after her.

เอ่อผมมีงานนะฮะที่ช่วงนั้นประสบความสำเร็จมากบริษัทก็ประสบความสำเร็จมากก็ก็ต้องการที่เราจะต้องเข้าไปร่วมงาน

I got a company that went well back then, which kept me busy.

3 สิ่งเนี้ยที่ๆ รู้สึกว่า ทำให้เราเครียดอ่ะ

These 3 things stressed me out.

ก็ เออเครียดจนถึงขั้นจิตตกนะฮะ

So much that I became depressed.

แล้วก็มีช่วงเวลาที่ผมจะต้องไปทำงานที่ต่างประเทศผมได้พบเพื่อนสนิทของผมน่ะ ชื่อคุณเดวิดวาสเคสนะฮะ

Then came a time when I went abroad for work and I met one of my close friends, called David Vasquez.

เขาเห็นผมแบบหน้าตาไม่สบายอ่ะนะฮะ เอ่อแนะนำให้บอกว่าลองอ่านไบเบิลดู เพราะว่าไบเบิลเนี่ยช่วยเขาผ่านในช่วงเวลาที่มันลำบากมากเหมือนกันนะฮะ

He noticed that I looked unwell. So he recommended me to read the Bible because it had helped him get through difficult times.

เออผมก็บอกเขาว่าเนื่องจากว่าผมเคยเรียนโรงเรียนคริสต์มาก่อนแล้วก็มีความสนใจในเรื่องพระคัมภีร์

I told him that I had attended a Christian school before and the Bible intrigued me.

ในเรื่องการที่จะเรื่องแบบนี้เนี่ยนะฮะก็ ก็บอกเขาว่าเราเคยอ่านแล้วอ่ะแล้วก็รู้สึกว่าเออไม่ได้เป็นคำตอบของชีวิตเรานะฮะ

I told him that I had read the Bible before but I didn’t think it could provide a solution to my life.

เขาก็บอกว่าให้ผมลองอธิษฐานก่อนนะ เพราะการอธิษฐานเนี่ยจะเป็นการ เป็นการ decode สิ่งที่พระเจ้า encode เอาไว้ในไบเบิล

He then advised me to pray before reading it because prayer would decode what God had encoded in the Bible.

 

การอธิษฐานช่วยถอดรหัสสิ่งที่พระเจ้าใส่รหัสไว้ในพระคัมภีร์

Prayer decodes what God has encoded in the Bible

 

ก่อนที่จะอ่านผมอธิษฐานก่อนคราวนี้ ผมอธิษฐานว่าพระเจ้าครับพระเจ้ามีจริงเนี่ย ขอพระเจ้า เอ่อ บอกให้ผมรู้เลยนะว่าพระเจ้ากำลังคุยกับผมอยู่นะ

Next time before I read it, I prayed that if God really existed, He would let me realise that He was speaking to me.

ผมจะเปิด ผั่วะเดียวแล้วผมเห็นคำพูดไหนพระเจ้าต้องยืนยันกับผมเลยนะ

I prayed that His word in the Bible would hit me when I opened it.

ผมก็เปิดผั่วะว่า เจอเลย You must trust in me ผมว่าเอ๊ะมีความเฮ้ยในใจฟลุกป่าวเนี่ยนะฮะ

When I opened it, I was struck by the phrase “You must trust in me.” I was wondering if that was a coincidence.

เออแล้วคราวนี้ผมก็ถามไปเรื่อยๆ ในคืนนั้น

So I kept asking God throughout that night.

ผมถามหลายคำถามมากนะฮ่ะเอ่อจำไม่ได้ก็น่าจะนับ 10 คำถาม ได้รับคำตอบหมดเลย

I asked Him so many questions. I can’t remember how many, perhaps ten of them, which were all answered.

คราวนี้ทุกวันผมเริ่มถามตื่นขึ้นมาตอนตี 3 ถาม ถาม ถาม

From then onwards, the first thing I did every day when I woke up at 3 a.m. was asking Him over and over.

ถามเดือน หนึ่ง จนผมรู้แล้วว่า ไม่มีทางที่พระเจ้าไม่มีจริงกันล่ะ

I kept doing this for one whole month until I was so convinced that it’s not possible for Him not to exist.

แล้วก็เข้ามารับเชื่อพระเจ้าครับ ครับ

I then received Him as my Lord and Saviour.

 

ทุกคำถามมีคำตอบในพระเจ้า

Every question has an answer in God

 

ตอนที่ผมเป็นนักแต่งเพลง เริ่มต้นนะฮะแล้วผมก็ได้รับ สมญานามนะครับได้รับการให้เกียรติจากสื่อว่าผมเป็นเจ้าพ่อเพลงรักนะฮะ

I became a music composer and I was honoured to be dubbed by the press the “King of Love Songs”.

ซึ่งในตอนนั้นผมก็แต่งเพลงตามความคิดแต่งตามบทบาทที่เราต้องทำงานอ่ะนะฮะ โดยที่ไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วเนี่ยความรักข้างในมันมันต้องเป็นแบบไหนนะฮะ

Back then, I wrote lyrics as per my understanding, as a part of my job, not knowing exactly what true love is.

พอได้มารู้จักกับพระเจ้านะได้มาอ่านพระคัมภีร์ เอ่อในหนังสือโครินธ์บทที่เอ่อ 13

After I had become a Christian, I came across 1 Cor. 13

ที่จะบอกว่าแม้เรามีความสามารถมากมายเท่าไหร่เรามีความเก่งมีความร่ำรวยมีอะไรเท่าไหร่

It says no matter how capable you are or how rich you are,

แต่เราไม่มีความรักเลยเนี่ยเราก็เป็นเหมือนกับ เออไม่ได้มีค่าอะไรอ่ะ ไม่ได้มีค่าตามที่เราคิดนะฮะ ก็ผมรู้สึกว่าตัวเองในตอนนั้นน่ะเป็นแบบเดียวกันเนี้ย

without love you are nothing, you are not as valuable as you think. I thought that’s me.

พอเราเข้าใจพอสมควรเกี่ยวกับความรักที่พระเจ้าให้กับเราแล้วเนี่ยเราก็รู้สึกว่าโอ้โห พระเจ้าเนี่ย มีความรักที่อดทนนานกับนายบอยเหลือเกิน

As I came to understand how great the love God gave us was, I was amazed at how patient He was with me.

นายบอยที่ไม่ได้เรื่องนายบอยที่เป็นคนบาปนะฮะ มีใจปรานีกับนายบอยมากไม่อิจฉา ไม่อวดตัวเลย

I was not as good as I thought. I was only a sinner. But God was so kind to me. He was not envious or boastful.

พระเจ้าเงียบๆ แล้วก็รอที่เราจะพูดคุยนะฮะ ไม่หยิ่งผยองไม่หยาบคายไม่เห็นแก่ตัวไม่ฉุนเฉียวไม่จดจำความผิดนะครับ

He gently spoke to me. He was not arrogant or rude. He did not remember my wrongdoing.

นายบอยทำความผิดมามากมายแต่พระเจ้าไม่จดจำความผิดนายบอยนะฮะ

I had done many bad things but He did not remember them.

ไม่ชื่นชมในความอธรรมนะฮะแต่ชื่นชมยินดีในความจริง แล้วก็ทนได้ทุกอย่างทนได้แม้กระทั่งตัวเรา

He did not rejoice at wrongdoing but rejoiced with the truth. And He bore all things even me.

และเชื่ออยู่เสมอมีความหวังในตัวเราอยู่เสมอนะฮะ

And He always hoped and believed in me.

ตรงนี้เนี่ยทำให้ผมรู้สึกถึงว่า เหมือนกับเราได้ เจอฝนตกตอนที่หน้าแล้งมากๆ ของชีวิต

At that point, I felt as if I experienced rain in the dry season of my life.

เหมือนเห็นสายรุ้งขึ้นเวลาที่ ฝนไม่ได้ตกนะฮ่ะ

As if I saw a rainbow without rain.

เราได้รู้สึกรับถึงลมหนาวเดือนเมษา เหมือนหัวใจที่เราอ่อนล้าเนี่ยได้แข็งแกร่งนะฮะ

It was as if I could feel the cold breeze in April and my weary heart became strengthened.

เหมือนในเนื้อเพลงที่ชื่อว่า รัก ที่ที่ได้แต่งร่วมกันกับคุณนภ พรชำนิ คุณนภจะเป็นคนแต่งทำนองผมเป็นคนแต่งเนื้อร้องนะฮะ

Just like the lyrics of the song called “Love” I co-wrote with Mr Nop Ponchamni. He composed the melody while I did the lyrics.

ก็พระเจ้าได้ทำให้เรารู้สึกถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์จนเราไม่รู้จะเขียนคำว่าขอบคุณยังไง

God let me experience His love that was so great that I couldn’t thank Him enough for it.

ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกที่เราได้รับมาเนี่ย เอ่อ ด้วยคำพูดแบบไหนนะฮะ

The feeling that I had from Him was just indescribable.

เอ่อจากทั้งหมดเนี่ยผมเชื่อว่าถ้าใครได้อ่านในคัมภีร์อ่ะ แล้วก็ได้ลองค่อยๆใคร่ครวญแล้วค่อยสะท้อนนะฮะ

I believe if anyone has a chance to read the Bible and spends some time to reflect on it,

ก็จะพบว่า ความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเนี่ย ถูกบันทึกไว้หมดแล้วนะฮะอยู่ในพระคัมภีร์

they would find the great love of God that is clearly spelt out in the Bible.


ขอเชิญร่วมสนับสนุนพันธกิจกับเรา ได้ที่
ธนาคารกรุงเทพ สาขาอินทามระ ชื่อบัญชี สมาคพระคริสตธรรมไทย เลขที่บัญชี 138-0-86415-5

Bank details for donations
Bank name : Bangkok Account name : Thailand Bible Society Account number : 138-0-86415-5
ติดต่อเจ้าหน้าที่ โทร. 064-137-0235 หรือ 02-279-8341 ต่อ 47