ขอลองหน่อยสิ
ผู้หญิงที่ผมรู้จักหลายคนตื่นเต้นกับการได้รับสินค้าตัวอย่างจากเครื่อง สำอางดังๆ สักยี่ห้อ ยิ่งถ้าได้ลองเสื้อผ้าสวยๆ หลายๆ ชุด จะทำให้เธออารมณ์ดีไปได้ทั้งวันเชียวครับ แต่สำหรับผู้ชายการได้ทดลองขับรถยนต์คันงามในโชว์รูม หรือทดลองใช้กล้องวีดีโอตัวใหม่จากร้านก็ทำให้เราเพลิดเพลินได้ไม่แพ้กัน ไม่ทราบว่าเราพอจะจำโฆษณาเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่กำลังเข้าห้องหอได้ไหม ในโฆษณาเจ้าบ่าวแทบสลบเมื่อเจ้าสาวที่สวยงามของตัวเองดึงฟองน้ำออกมาจากหน้า อก ฟันปลอม คิ้วก็ปลอม ขนาดผมยังใส่วิก เรียกว่ามีแต่ของปลอมทั้งตัว ก่อนจะตบท้ายด้วยสโลแกนว่า “ดูให้ดีๆก่อนจะตัดสินใจ” ทุกวันนี้เราชอบทดลองสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อมาเป็นเจ้าของ จนแทบกลายเป็นค่านิยมของสังคมไปแล้ว แต่ก็ใช่ว่าทุกเรื่องถ้าได้ลองแล้วจะดีเสมอไป
เรื่องง่ายๆ ที่เรารู้ได้ว่าไม่ควรทดลองเลยนั่นก็คือยาเสพติด ทุกคนรู้ถึงโทษภัยของมันดี และไม่จำเป็นต้องไปเหยียบขี้หมาก้อนเดิมที่มีคนเคยเหยียบมาแล้ว แต่บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ตอบยากว่าควรหรือไม่ควรทดลองอย่างเช่นการทดลอง “อยู่ก่อนแต่ง” ที่ว่าตอบยากก็เพราะคนแต่ละคนมีจุดยืนในเรื่องนี้แตกต่างกัน เดิมผมเคยเชื่อว่ามีคนส่วนน้อยที่เห็นด้วยกับการอยู่ก่อนแต่ง เท่าที่สังเกตเห็นมักจะเป็นชนชั้นแรงงานที่เดินทางมาทำงานในเมืองห่างไกลจากวัฒนธรรมท้องถิ่นของตัวเองมานานเมื่อพอใจทั้งสองฝ่ายก็มักจะตกลงใช้ชีวิตเยี่ยงสามีภรรยา แต่เมื่อเวลาผ่านไปความคิดของผมก็เริ่มเปลี่ยน ทุกวันนี้ภาพของนิสิตนักศึกษาที่ได้ชื่อว่าเป็นชนชั้นปัญญาชนของสังคมใช้ชีวิตคู่แบบอยู่ก่อนแต่งเริ่มกลายเป็นภาพชินตาหรือแม้กระทั่งคนในวัยทำงานมีการศึกษาสูง และรายได้ที่มั่นคงหลายคนก็ตัดสินใจชีวิตอยู่ก่อนแต่งเช่นกัน เชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านก็คงเคยพบเห็นหรือได้ยินเรื่องนี้มามากแล้ว จากการทำงานเป็นผู้ให้คำปรึกษามาเป็นเวลากว่าสิบปีผมมีโอกาสดีที่ได้พูดคุยซักถามกับหนุ่มสาวหลายคู่ที่ตกลงเลือกใช้ชีวิตคู่ก่อนการจบเป็นบัณฑิต และหนุ่มสาวหลายคู่ที่มีความมั่นคงพอจะสร้างชีวิตครอบครัวด้วยการสมรส แต่เลือกการใช้ชีวิตคู่แบบอยู่ก่อนแต่ง
ทุกครั้งที่ให้คำปรึกษาเรื่องชีวิตคู่กับคนที่อยู่ก่อนแต่ง ผมมักอ้างถึงสถิติในการวิจัยว่า 8 ใน 10 คู่ของคนที่ตัดสินใจอยู่ก่อนแต่งจะไม่ได้จบลงที่การสมรสและมักจะเลิกรากันไป แต่นั่นไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของคนส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจเช่นนี้ได้ถ้าท่านเป็นคนหนึ่งที่ยืนอยู่คนละฝั่งกับหนุ่มสาวเหล่านี้ท่านคงมีคำถามในใจมากมายว่า “คนพวกนี้คิดยังไงกันนะ” หรืออาจพาลคิดไปว่าคนพวกนี้ไม่มีหัวคิดผมอยากย้ำกับผู้อ่านอีกครั้งว่าหนุ่มสาวเหล่านี้หลายคนมีผลการเรียนที่ยอดเยี่ยมมาก หลายคนเป็นครูอาจารย์ที่สังคมนับหน้าถือตา ผมจึงไม่เชื่อว่าพวกเขาไม่มีหัวคิด แต่เชื่อว่ามีบางอย่างที่ทำให้เขาคิดต่างออกไป
เหตุผลหลักประการแรกที่ผมพบว่าทำให้คนเลือกการอยู่ก่อนแต่งก็คือ คนศรัทธาเรื่องการแต่งงานน้อยลง คงต้องยอมรับว่าในปัจจุบันการหย่าร้างเพิ่มสูงขึ้นมาก การสมรสที่จบลงด้วยการแก่เฒ่าถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรเริ่มมีให้เห็นกันน้อยลง บุคคลสาธารณะอย่างดาราก็มีหลายคู่ที่เริ่มต้นชีวิตสมรสด้วยความหวานชื่น แต่กลับจบลงอย่างน่าเศร้า ในความคิดของหนุ่มสาวยุคใหม่หลายคนมองว่าการสมรสเป็นเพียงงานรื่นเริงที่สิ้นเปลืองเท่านั้น นอกจากนี้พวกเขายังเชื่อว่าการสมรสยังนำมาซึ่งความรับผิดชอบทางกฎหมายที่น่าเบื่อหน่าย การฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูหากเลิกรากันไป การอยู่ก่อนแต่งจึงน่าจะเป็นทางออกที่ยุติธรรมสำหรับทั้งสองฝ่าย
เหตุผลประการต่อมาก็คือ คนให้ความสำคัญกับความบริสุทธิ์ทางเพศน้อยลงหนุ่มสาวหลายคนเชื่อว่าความบริสุทธิ์ทางเพศเป็นเรื่องโบราณคร่ำครึ บางคนถึงกับพาลคิดว่าคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ทางเพศเลยเป็นคนที่ไม่เข้าใจเรื่องความสุขของชีวิตคู่ และไม่สามารถจะสร้างความสุขให้กับอีกฝ่ายได้ ผู้ชายหลายคนเชื่อว่าขอแค่ผู้หญิงหน้าตาดี เขาไม่สนหรอกว่าจะผ่านผู้ชายมาแล้วกี่คน และตนเองก็ไม่ได้คิดจริงจัง อาจจะอยู่ด้วยกันสักสองสามปีแล้วก็ไปหาคนใหม่
เหตุผลสุดท้ายก็คือ พวกเขาเชื่อว่าชีวิตนี้สั้นนัก สมควรต้องหาความสุขให้มากเท่าที่มากได้ หากพอใจใครก็ควรรีบใช้ชีวิตร่วมกัน ถ้ารอจนถึงการสมรสพวกเขาคงทนไม่ไหว และเหี่ยวเฉาตายไปเสียก่อน จะว่าไปเหตุผลของพวกเขาก็ชวนให้คล้อยตามอยู่ไม่น้อยเลย นั่นจึงทำให้มีคนที่เชื่อเช่นนี้เพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ แต่ถ้าสิ่งที่พวกเขาเชื่อเป็นจริง ผมก็คงไม่มีโอกาสได้ให้คำปรึกษาในปัญหาชีวิตคู่ของพวกเขาหรอกครับ เพราะแท้ที่จริงแล้วคนที่อยู่ก่อนแต่งมีปัญหาชีวิตเสียยิ่งกว่าคนที่สมรสกันเสียอีก
ใน ปฐมกาล 2:24 กล่าวว่า “เพราะเหตุนั้นผู้ชายจึงจากบิดามารดาของตนไปผูกพันอยู่กับภรรยาและเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน” การสมรสและความสัมพันธ์ทางเพศมีผลให้เราเป็นเนื้อเดียวกัน การแยกสิ่งที่เป็นเนื้อเดียวกันมีผลอย่างเดียวคือการแตกร้าวเสียหาย การอยู่ก่อนแต่งที่มีความสัมพันธ์ทางกายโดยไม่มีการสมรสมีโอกาสสูงที่จะทำให้เลิกราได้ง่าย แม้ว่าเราจะปิดซ่อนเรื่องความบริสุทธิ์ทางเพศได้ แต่เราไม่อาจป้องกันจิตใจจากความชอกช้ำได้ ความจริงที่น่าตกใจที่ผมได้ทราบจากชายและหญิงที่ใช้ชีวิตอยู่ก่อนแต่งก็คือ ผู้ชายส่วนใหญ่ต้องการเพียงความสัมพันธ์ทางเพศที่ปลอดภัยและฟรี ในขณะที่ฝ่ายหญิงเป็นเรื่องของความรู้สึกอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว การเริ่มต้นที่เชื่อว่ามาจากความรักบางครั้งมันต้องการเวลาพิสูจน์ หากเราตัดสินใจว่าการอยู่ก่อนแต่งนี่ล่ะจะช่วยพิสูจน์ได้ว่าเราจะไปกันรอดหรือไม่ในชีวิตแต่งงาน คุณก็อาจกลายเป็นคนหนึ่งที่ถูกหลอก หรือกลายเป็นคนหนึ่งที่ต้องเจ็บปวด
แท้ที่จริงในใจลึกๆ ของหนุ่มสาวเหล่านี้ต่างก็รู้ว่าการอยู่ก่อนแต่งอาจสร้างปัญหาให้พวกเขาได้ เพราะมีน้อยรายเหลือเกินที่เปิดเผยเรื่องของตนเองกับครอบครัวของตน ส่วนใหญ่ต้องหลบซ่อนและปิดบังความจริง มีผู้หญิงหลายคนกำลังถูกความทรงจำอันปวดร้าวจากการอยู่ก่อนแต่งกัดกินจนไม่สามารถมีชีวิตคู่ที่มีความสุขได้เลย มีผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่งใช้ชีวิตกับผู้ชายมาแล้วถึงเจ็ดคน ทุกวันนี้เธออายุมากขึ้นและไม่มีผู้ชายแม้แต่คนเดียวอยู่กับเธอ สิ่งที่เหลือไว้มีเพียงความทรงจำที่โหดร้าย เธอต้องไปทำแท้งสองครั้ง ติดหนองในอีกสองครั้ง อกหักและถูกทิ้งถึงเจ็ดครั้ง และทุกวันนี้เธอยังคงต้องทานยารักษาอาการซึมเศร้าอยู่ทุกวัน ส่วนผู้ชายอีกคนต้องกลายเป็นนักโทษอาญาแผ่นดินเพราะเอาน้ำกรดไปสาดแฟนสาวที่อยู่ด้วยกัน เพราะฝ่ายหญิงต้องการไปเริ่มต้นกับคนใหม่ ทุกวันนี้เขาพ้นโทษแล้ว แต่ยังคงต้องติดคุกแห่งความรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตที่ทำร้ายคนที่ตนรักด้วยมือของตนเอง
มีหลายเรื่องที่เราสามารถทดลอง ทดสอบได้ แต่ก็มีหลายเรื่องที่เราไม่ควรทดลอง ชีวิตของคนนั้นมีเลือดเนื้อและจิตวิญญาณ มนุษย์จึงไม่ใช่สินค้าที่เราสามารถทดลองและนำมาเปลี่ยนได้หากไม่พอใจ แต่เราสามารถเข้าใจ และเรียนรู้คนที่เราต้องการใช้ชีวิตด้วยไปตลอดชีวิตของเราได้โดยไม่ต้องอาศัยความสัมพันธ์ทางเพศ แต่ต้องอาศัยเวลาและความรัก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถช่วยสะกิดใจให้ทุกท่านลองใคร่ครวญก่อนจะตัดสินใจทดลองสิ่งที่จะมีผลไปตลอดชีวิตของท่าน และผมอยากจะแบ่งปันว่า พระเจ้าได้ช่วยให้เรารู้จักความรัก และทรงสามารถช่วยให้เรารู้จักคนที่รักอย่างลึกซึ้งมากขึ้นทุกๆ วันได้ พระเจ้าทรงมีน้ำพระทัยที่จะปกป้องเราจากความเจ็บปวด ผู้อ่านที่รักพระเจ้าทรงรักคุณเช่นกัน เชื่อเถอะครับว่าพระองค์จะช่วยให้คุณตัดสินใจอย่างดีที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงกับความปวดร้าวใจ ขอพระเจ้าอวยพรครับ
- อ.วิทยา วุฒิไกรเกรียง
- ภาพ User13400093 – Freepik.com