ถ้าช่วยได้นะหรือ ใครเชื่อก็ทำให้ได้ทุกสิ่ง 1/12

ถ้าช่วยได้นะหรือ ใครเชื่อก็ทำให้ได้ทุกสิ่ง

สมาคมพระคริสตธรรมไทยขอขอบพระคุณคุณอุมา อรัญดร จากคริสตจักรนาสีทอง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา สำหรับคำพยานชีวิตที่ได้ให้กับสมาคมฯ เพื่อลงในคริสตสายสัมพันธ์ คุณอุมา อายุ 34 ปี จบการศึกษาจากสถาบันราชภัฏสงขลา ปัจจุบันรับราชการในตำแหน่งเจ้าพนักงานการเงินและบัญชีระดับ 5 องค์การบริหารส่วนตำบลบางกล่ำ จ.สงขลา สามีชื่อคุณธุวานันท์ อรัญดร มีบุตร 2 คน ชื่อ ด.ญ.ฐิตาภา อรัญดร อายุ 5 ขวบ และ ด.ช.ธีร์ธวัช อรัญดร อายุ 3 ขวบ

พบพระเจ้าผ่านคนรัก
ดิฉันเกิดในครอบครัวที่นับถือศาสนาพุทธ และเป็นพุทธศาสนิกชนที่ค่อนข้างจะเคร่งครัด ทำบุญตักบาตรเกือบทุกวัน และทุกๆ วันพระ หากไม่ติดธุระใดๆ ก็มักจะไปวัดเพื่อนำอาหารไปถวายพระและฟังเทศน์ฟังธรรมอยู่เสมอๆ ดิฉันมีโอกาสรู้จักกับพระเจ้าเมื่อได้เริ่มคบกับคุณธุวานันท์ อรัญ-ดร ซึ่งเติบโตมาในครอบครัวคริสเตียน หลังจากที่เริ่มคบหากันมาได้ระยะหนึ่งคุณธุวานันท์ ได้ชวนดิฉันที่จะไปโบสถ์ในวันอาทิตย์ ด้วยความเกรงใจจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการได้เรียนรู้เรื่องพระเจ้า เมื่อไปโบสถ์บ่อยขึ้น ดิฉันเริ่มชอบบรรยากาศของการนมัสการพระเจ้า และรู้สึกดีกับการต้อนรับของทุกๆ คนที่โบสถ์ จากการเริ่มต้นที่ไม่ค่อยจะมีความสุขสักเท่าไร กลับเปลี่ยนเป็นมีความสุขหรือเรียกว่าสันติสุขที่มาจากภายใน แต่เมื่อถูกท้าทายให้รับเชื่อ ทำให้ดิฉันเกิดความลังเลขึ้นในใจ เพราะดิฉันก็ยึดติดอยู่กับศาสนาที่ได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยเกิดความสับสนมากในตอนนั้น แต่ดิฉันก็บอกกับตัวเองว่าดิฉันไม่อยากให้คุณธุวานันท์ และครอบครัวของคุณธุวานันท์ผิดหวังในตัวของดิฉัน และจากการที่ดิฉันได้เรียนรู้กับพระเจ้ามาได้ระยะหนึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจ ในที่สุดดิฉันก็เลยตัดสินใจต้อนรับพระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิต โดยที่ยังมีหลายอย่างที่ขัดแย้งกันในความรู้สึก

พระพรแรกมาถึง
เมื่อต้อนรับพระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิตแล้ว ชีวิตของดิฉันก็มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน ในช่วงเวลานั้นที่ จ.สงขลาได้เปิดสอบคัดเลือกข้าราชการ เพื่อบรรจุเข้าทำงานซึ่งดิฉันก็ได้ไปสมัครสอบ และในช่วงนั้นก็มีพี่ข้างบ้านมาถามดิฉันว่า ดิฉันได้บนบานศาลกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนบ้าง ซึ่งดิฉันก็ตอบเขาไปว่าไม่ แล้วพี่เขาก็บอกว่า งั้นก็ไม่ต้องไปสอบหรอกเพราะว่าขนาดคนที่เขาบนบานศาลกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วเขาก็ยังสอบไม่ได้เลย แต่ดิฉันบอกเขาไปว่าดิฉันไม่จำเป็นต้องบนบานศาลกล่าวสิ่งใดๆ เลย เพราะว่าดิฉันมีพระเจ้าอยู่แล้ว และพระเจ้าก็ช่วยดิฉันได้ในทุกๆ อย่าง แล้วพี่คนนั้นก็บอกว่างั้นเขาจะคอยดู และเป็นครั้งแรกที่ดิฉันอธิษฐานต่อพระเจ้าด้วยความร้อนรนที่จะขอให้พระเจ้าทรงนำดิฉันในการสอบครั้งนี้ เพื่อดิฉันจะได้ไปเป็นพยานกับพี่คนนั้นว่าพระเจ้าช่วยดิฉันได้ทุกเรื่อง และแล้วพระเจ้าก็ตอบรับคำอธิษฐาน ดิฉันสามารถสอบผ่านการคัดเลือกในครั้งนี้ได้จริงๆ แล้วพระเจ้าก็ทรงนำให้ดิฉันสอบได้ในอันดับต้นๆ และก็ได้รับการเรียกให้บรรจุเป็นข้าราชการในรอบแรกของ จ.สงขลา หลังจากนั้นชีวิตของดิฉันก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และดีขึ้นในทุกๆ วัน และทุกๆ เรื่อง จึงทำให้ดิฉันเป็นคริสเตียนที่มีความเชื่อต่อพระเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ และรู้สึกดีกับพระพรที่ได้รับในทุกๆ วัน

เมื่อความเชื่อถูกทดสอบ
แต่แล้วพระเจ้าก็ทรงมีแผนการเพื่อเปลี่ยนชีวิตคริสเตียนของดิฉัน เมื่อประมาณเดือนมกราคม 2552 วันนั้นเป็นวันที่แย่มากกับอาการปวดท้องอย่างรุนแรงจนแทบจะลุกขึ้นไม่ไหว แต่ก็ต้องลุกขึ้นเพื่อทำกิจวัตรประจำวันให้ลูกสองคนตามปกติ เนื่องจากสามีไปทำงานต่างจังหวัด หลังเลิกงานได้ไปพบแพทย์ ผลการตรวจออกมาว่าดิฉันเป็นถุงน้ำและพังผืดบริเวณปีกมดลูกด้านซ้าย ต้องรักษาโดยการส่องกล้องเพื่อเลาะถุงน้ำและพังผืดออกจึงจะหายปวด แต่แพทย์ก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าจะกลับมาเป็นอีกหรือไม่ ดิฉันกลับบ้านด้วยความกังวลใจ เป็นห่วงลูกชายคนเล็กอายุ 3 เดือน หากผ่าตัดแล้วในระหว่างพักฟื้นก็จะอุ้มลูกไม่ได้ ลูกชายก็ติดแม่จะให้อุ้มอยู่ตลอดเวลา ใครจะทำงานบ้านเพราะสามีก็มีงานยุ่ง หลายสิ่งหลายอย่างประดังเข้ามาในความคิด คอยสามีกลับมาก่อนแล้วค่อยปรึกษากันว่าจะทำอย่างไร เป็นความคิดสุดท้ายที่จะระงับความกระวนกระวายใจไปก่อน พร้อมกับนอนหลับไปกับอาการปวดท้องที่ยังรุนแรง

วันรุ่งขึ้นอาการก็ยังเหมือนเดิมไม่ได้ทุเลาลงไป ยังคงปวดท้องจนตัวงอ ขณะที่ขับรถไปทำงานดิฉันมีความรู้สึกต้องการความช่วยเหลือจากใครสักคนหนึ่ง “พระเจ้า” เป็นสิ่งแรกที่ผุดขึ้นในใจของดิฉัน แต่ด้วยความเชื่อที่ไม่ได้เข้มแข็ง ดิฉันไม่มั่นใจที่จะทูลขอต่อพระองค์สำหรับการรักษา อ.กิตติ พลวัฒน์ เป็นบุคคลต่อมาที่เข้ามาในความคิด ดิฉันขับรถเปลี่ยนเส้นทางจากจะไปที่ทำงานมุ่งหน้าไปคริสตจักรนาสีทอง เป็นโบสถ์ที่ดิฉันเป็นสมาชิก และ อ.กิตติ พลวัฒน์ เป็นศิษยาภิบาลอยู่ อ.กิตติ ได้อธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อทรงรักษาดิฉัน แล้วพระองค์ได้ทรงสำแดงต่อดิฉัน อาการปวดท้องอย่างรุนแรงกลับดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ก็ยังไม่หายขาดเสียทีเดียว นี่เป็นประสบการณ์กับพระเจ้าที่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 มีค่ายฟื้นฟูจัดขึ้นที่ คริสตจักรนาสีทอง โดย อ.สมหมาย บุตรทุมพันธ์ ด้วยความเชื่อที่เข้มแข็งขึ้นดิฉันได้รับวางมือจาก อ.สมหมาย เพื่อรักษาอาการถุงน้ำและพังผืด ประสบการณ์กับพระเจ้าก็ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ดิฉันหายปวดท้องอย่างเด็ดขาด ไปพบแพทย์ก็ได้รับการยืนยันว่าไม่มีถุงน้ำและพังผืดอยู่ที่ปีกมดลูกด้านซ้ายอีกแล้ว สรรเสริญพระเจ้า ขอบคุณพระเจ้า เป็นคำสรรเสริญพระเจ้าที่ดังขึ้นในใจเมื่อได้รับฟังคำวินิจฉัยของแพทย์

ดิฉันเชื่อว่านี่คือแผนการของพระเจ้าที่จะเปลี่ยนดิฉัน สมาชิกคริสตจักรนาสีทองจะเห็นดิฉันทุกวันอาทิตย์แทบไม่ขาด จากแต่ก่อนไปบ้างไม่ไปบ้าง ดิฉันเริ่มแสวงหาพระเจ้ามากขึ้น มีความสนใจในการศึกษาพระวจนะมากขึ้น รักพระองค์มากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้สุดจิต สุดใจ สุดกำลัง

ตอกย้ำความเชื่อ…อีกครั้ง
ต่อมาในช่วงกลางปี พ.ศ.2552 ดิฉันเริ่มเป็นภูมิแพ้ มีอาการแพ้ฝุ่น เป็นหวัดเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ มาตลอดจนปี พ.ศ.2553 ดิฉันไปพบแพทย์ปรากฏว่า ดิฉันเป็นไซนัสในระยะเริ่มต้น จึงเริ่มรักษาพบแพทย์เป็นระยะๆ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นมีแต่ทรงกับทรุด จนปี พ.ศ.2554 แพทย์แนะนำว่าต้องรักษาด้วยวิธีผ่าตัดแล้วเพราะยาฆ่าเชื้อและยาพ่นโพรงจมูกชุดหลังสุดเป็นยาที่แรงที่สุดเท่าที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์มีอยู่แต่ก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ซึ่งแพทย์ก็ได้อธิบายให้ฟังว่า การผ่าตัดไซนัสมีความเสี่ยงอยู่พอสมควรเนื่องจากเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับสมอง ความกังวลใจกลับมาหาดิฉันอีกด้วยเหตุผลเดิมๆ ลูกบ้าง สามีบ้าง งานบ้าง หลังจากที่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์แล้ว ดิฉันกลับมาย้อนคิดถึงการทรงรักษาอาการปวดท้องให้หายได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นการอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับดิฉัน ดิฉันลืมไปได้อย่างไร ทำให้ดิฉันต้องกลับมามองดูตัวเองว่าทุกวันนี้ดิฉันได้ทำอะไรให้สมกับความรักที่พระเจ้าทรงมีให้กับชีวิตดิฉัน เปล่าเลย ดิฉันยังไม่ได้แสวงหาพระเจ้า รักพระเจ้าอย่างสุดจิต สุดใจ สุดกำลัง ขาดการปรนนิบัติต่อพระองค์ ตลอดเวลาที่ผ่านมาดิฉันอธิษฐานขอการรักษาด้วยความสงสัยว่าจะหายจากโรคได้จริงหรือ แล้วดิฉันเริ่มการอธิษฐานร้องทูลต่อพระเจ้าขอการรักษาจากพระองค์ ขอการอัศจรรย์ที่จะเกิดขึ้นในชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ดิฉันอธิษฐานด้วยความเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงรักษาดิฉันให้หายขาดจากอาการไซนัสได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และเริ่มแสวงหาพระเจ้ามากขึ้น เริ่มอ่านพระคัมภีร์ เฝ้าเดี่ยว และเริ่มมีส่วนในงานรับใช้ อาการไซนัสเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2554 ดิฉันได้มีประสบการณ์ครั้งใหญ่กับพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง เป็นประสบการณ์ครั้งที่ 3 และเป็นครั้งที่เปลี่ยนชีวิตคริสเตียนของดิฉันไม่ให้หันหลังกลับไปอย่างตลอดกาล เป็นวันที่คริสตจักรนาสีทองได้จัดสัมมนาฟื้นฟูโดย อ.สมหมาย บุตรทุมพันธ์ ดิฉันได้รับวางมืออธิษฐานเพื่อรักษาไซนัสกับท่านอีกครั้งหนึ่ง มีประโยคหนึ่งที่ท่านได้พูดว่า “เจ้ามีความเชื่ออย่างไรก็ขอให้เป็นอย่างนั้น” หลังจากวันนั้นอาการไซนัสที่เป็นอยู่ก็หายขาด ไม่ต้องทานยา และพ่นยาอีกต่อไป ขอบคุณพระเจ้าการอัศจรรย์ได้เกิดขึ้นกับดิฉันอีกครั้ง

เมื่อความเชื่อเต็มล้น
ในทุกๆ วันพระเจ้าจะสอนดิฉันว่าจงเชื่อและวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้สำหรับพระเจ้า นับแต่เวลานี้ ดิฉันได้มอบชีวิต ครอบครัว และทุกๆ อย่างให้เป็นของพระเจ้า และจะเป็นผู้รับใช้ที่ดีสำหรับพระเจ้าให้ได้มากที่สุด โดยการอธิษฐานร้องทูลต่อพระองค์ตลอดเวลา ที่พระเจ้าจะทรงชำระชีวิตของดิฉันให้เป็นภาชนะที่พระองค์จะทรงใช้การได้

ข้อพระคำ…นำชีวิต
ฟีลิปปี 4:6 “อย่ากระวนกระวายในสิ่งใดๆ เลย แต่จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบทุกสิ่งที่พวกท่านขอ โดยการอธิษฐานและการวิงวอน พร้อมกับการขอบพระคุณ” พระคำในตอนนี้ จะหนุนใจให้ดิฉัน เลือกที่จะวางทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่างในชีวิตของดิฉันไว้กับพระเจ้า เลือกที่จะให้พระเจ้าเป็นผู้ทรงนำในทุกๆ ย่างเท้าในการดำเนินชีวิตของดิฉัน ฟีลิปปี 4:13 “ข้าพเจ้าเผชิญได้ทุกอย่างโดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า” พระคำในตอนนี้หนุนใจดิฉันอย่างมาก เพราะว่าดิฉันต้องทำงานนอกบ้านและยังต้องทำงานบ้าน ทุกๆ อย่าง รวมทั้งยังต้องดูแลลูกอีก 2 คน และดิฉันก็พยายามจะจัดสรรเวลาของดิฉันเพื่องานรับใช้พระเจ้าด้วย ซึ่งในบางครั้งก็รู้สึกว่าเหนื่อย แต่ดิฉันก็มักจะคิดถึงพระคำในข้อนี้เสมอๆ ว่าดิฉันทำทุกอย่างได้โดยพระเจ้าจะเป็นผู้เสริมกำลังให้กับดิฉัน ซึ่งก็ทำให้ดิฉันมีสันติสุขในการดำเนินชีวิตแต่ละวันกับพระเจ้า

มัทธิว 7:7-8 “จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่พวกท่าน เพราะว่าทุกคนที่ขอก็ได้ และทุกคนที่แสวงหาก็พบ ทุกคนที่เคาะก็จะเปิดให้เขา” พระคำในข้อนี้หนุนใจดิฉันในการดำเนินชีวิตคริสเตียนที่จะแสวงหาพระเจ้า เพราะในพระคำของพระเจ้าได้บอกว่า ขอแล้วจะได้ หาแล้วจะพบ เคาะแล้วจะเปิด จึงทำให้ดิฉันดำเนินชีวิตคริสเตียนที่ติดสนิทกับพระเจ้าโดยมีจุดมุ่งหมายคือดิฉันอยากจะรู้จักกับพระเจ้ามากขึ้น และเมื่อดิฉันดำเนินชีวิตติดสนิทกับพระเจ้ามากขึ้นเท่าใดดิฉันก็ได้รู้จักกับพระเจ้าของดิฉันมากขึ้นเท่านั้น จนทำให้ดิฉันมีความรู้สึกว่าพระเจ้าเป็นส่วนสำคัญในชีวิต ดิฉันสามารถคุยกับพระองค์ได้ตลอดเวลา และพระองค์ก็เป็นทุกสิ่งที่ดิฉันต้องการ ไม่ว่าจะเป็นพ่อ หรือเป็นที่ปรึกษา หรือแม้กระทั่งเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของดิฉัน จนทำให้รู้สึกว่าการที่ดิฉันได้มารู้จักกับพระเจ้าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต

ฝากถึงคริสตชน
ทุกวันนี้ดิฉันพยายามที่จะใช้ชีวิตของดิฉันเพื่อเป็นพยานถึงการเป็นคริสเตียน ไม่ว่าจะอยู่ที่ทำงานหรือที่ไหนๆ คือในการทำงานทุกอย่างของดิฉัน ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดเสมือนว่าดิฉันทำเพื่อถวายแด่พระเจ้า อยากจะบอกว่าขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้าได้ใช้ชีวิตของดิฉัน ซึ่งเป็นเพียงภาชนะชิ้นเล็กๆ เพียงชิ้นหนึ่งที่พระองค์ทรงใช้ เพื่อเป็นพยานถึงความรักและการอัศจรรย์ของพระองค์ที่มีต่อบุตรของพระองค์ทุกคน และอยากจะหนุนใจทุกๆ คนว่า การดำเนินชีวิตติดสนิทกับพระเจ้า และการอ่านพระคำของพระเจ้าทุกวัน รวมถึงการดำเนินชีวิตเพื่อรับใช้พระเจ้านั้นไม่ใช่สิ่งที่ยากเลย หากเรามีความรู้สึกว่าเราอยากจะทำอะไรให้กับใครสักคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่เรารักมากที่สุด และผู้นั้นก็เป็นผู้ที่รักเรามากที่สุดเช่นกัน ทุกวันนี้ดิฉันขอบคุณพระเจ้าในทุกกรณี และชีวิตแต่นี้ไปขอมอบไว้แด่พระองค์ จะเดินไปในทางของพระองค์ทุกย่างก้าว ดิฉันรู้สึกยินดีมาก หากคำพยานนี้จะได้หนุนใจผู้อ่านให้แสวงหาพระเจ้าและรักพระองค์มากขึ้น

  • คุณอุมา อรัญดร