สมาคมพระคริสตธรรมไทย ได้จัดการแข่งขัน ซูเปอร์จิ๋วเจาะโลกพระคัมภีร์ ประจำปี 2012 ของเขตภาคกลางไปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2012 ที่ผ่านมา ซึ่งผลการแข่งขันในระดับชั้นประถมศึกษานั้น ปรากฏว่าน้องๆ จากโรงเรียนสัจจพิทยา กรุงเทพฯ สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศรองอันดับ 1 และรองอันดับ 2 ไปครอง (น้องๆ ทั้งหมด 9 คน เป็นคริสเตียนเพียง 1 คน) สมาคมฯ จึงไม่รอช้า รีบหาโอกาสไปสัมภาษณ์ความรู้สึกของน้องผู้เข้าแข่งขันและคุณครูผู้สอน เราไปติดตามอ่านกันค่ะ
กว่าจะได้เข้าแข่งขัน
“ทางโรงเรียนมีการเปิดรับสมัคร และมีนักเรียนสมัครเป็นจำนวนมาก จากนั้นคุณครูจะทดสอบว่าใครที่มีความตั้งใจจริงๆ เพื่อคัดเลือกเป็นตัวแทนของโรงเรียนค่ะ จากนั้นเมื่อเป็นตัวแทนของโรงเรียนแล้ว เราต้องติวกันตอนเย็น ติวหนักมากเป็นเวลาเดือนกว่าๆ อ่านพระธรรมโยชูวากันคนละหลายรอบเลย ตอนแรกอ่านเองก่อนแล้วครูก็จะมาช่วยสรุปสิ่งที่เราอ่าน เน้นสิ่งที่สำคัญ ช่วยให้เราจำได้มากขึ้น”
เมื่อได้อ่านเรื่องราวของโยชูวา
“สนุก… และมีข้อคิดหลายเรื่อง เช่น การเชื่อฟัง โยชูวาเชื่อฟังพระเจ้า เป็นคนที่ซื่อสัตย์ ไม่โกง ไม่ลักขโมย พระคัมภีร์สอนว่าการโกง การลักขโมยเป็นสิ่งไม่ดี ไม่ควรทำ”
ความรู้สึกในวันแข่งขัน
“ตอนก่อนจะถึงวันแข่งก็เครียดเหมือนกันค่ะเพราะรู้ว่าจะมีผู้มาร่วมแข่งขันเยอะมาก และบางทีมก็มาจากโบสถ์โดยตรง เขาอาจจะได้รับการติวมาดีกว่าเรา และพอถึงวันแข่งจริงก็เห็นแต่ละทีมเครียดกัน แต่วันนั้นทีมพวกหนูไม่เครียดแล้ว ก็เล่นกัน เฮฮา เพราะเตรียมพร้อมเต็มที่แล้วค่ะ พอเริ่มเดินแถวเข้าห้องก็มีตื่นเต้นบ้างค่ะ เพื่อนๆ บางคนก็เริ่มกดดันบ้าง แต่การสอบก็ผ่านไปด้วยดี และยิ่งรู้สึกดีใจที่ทีมของพวกหนูทั้งหมดได้รางวัลกันทุกทีม ก็กลับมาบอกพ่อแม่ แม่ถามว่าแล้วที่ไปแข่งได้ความรู้อะไรบ้าง ลองมาบอกให้พ่อกับแม่ฟังหน่อย ก็ได้เล่าเรื่องพระเจ้าให้พ่อแม่ฟังไปบ้างค่ะ”
คิดอย่างไรกับพระคัมภีร์ของคริสเตียน
“เป็นเรื่องราวที่แทรกความรู้ให้เราเข้าใจอย่างสมมติว่าเราอ่านหนังสือแบบอื่น มันอาจจะซับซ้อนวนไปวนมา ทำให้เราไม่เข้าใจ แต่อันนี้คือมันจะเป็นตอนๆ ให้เราเข้าใจว่า ตอนนี้นะ เขาต้องการให้เราเข้าใจเรื่องนี้นะ ก็ไม่เคยอ่านพระคัมภีร์มาก่อน แต่คิดว่าต่อไปนี้ถึงจะไม่ได้เข้าแข่งขันก็จะอ่านค่ะ”
ฝากถึงเพื่อนๆที่กำลังจะแข่งขันที่ภาคใต้, เหนือ, อีสาน
“ให้อ่านเยอะๆ…ทำแบบทดสอบเยอะๆ… แล้วก็เวลาแข่งอย่าเครียดมากนะคะ สบายๆ เพราะวันแข่งถ้าเครียดเกินไปมันจะคิดไม่ออก เป็นกำลังใจให้ แล้วปีหน้าพบกันอีกแน่นอนค่ะ”
คุยกับ…คุณครู เด็กส่วนใหญ่ไม่ใช่คริสเตียน ทำอย่างไรเด็กจึงสนใจเข้าร่วมการแข่งขัน
“ในฐานะที่เป็นครูเราก็มีความต้องการอยากจะประกาศเรื่องราวของพระเจ้าอยู่แล้ว และเราก็รู้จักเด็กของเราดีว่าจิตใจของเขาอ่อนโยนและพร้อมที่จะเปิดรับเรื่องราวของพระเจ้า อีกทั้งทางโรงเรียนก็สอนเรื่องพระเจ้าตลอดเวลาอยู่แล้ว เมื่อเปิดรับสมัครแข่งขันก็มีเด็กมากมายต้องการเข้าร่วม แสดงถึงว่าเด็กๆ เปิดรับเรื่องพระเจ้าดีค่ะ”
รูปแบบการแข่งขันและเวลาในการสอบ
“คิดว่าเป็นรูปแบบที่ดี น่าตื่นเต้น ก็ขอให้รักษาไว้ ในเรื่องเวลาตอนแรกก็ตกใจเพราะว่ามันน้อย คิดว่าเด็กของเราจะทำทันหรือเปล่า แต่เมื่อได้สอบถามดูก็พบว่าส่วนใหญ่ทำทันและเหลือเวลาในด้านความยากง่ายก็เหมือนกัน ใจเราก็คิดว่ายากนะ แต่ก็พบว่า ถ้าเด็กให้ความสนใจจริงจังในสิ่งที่เขาอ่าน เขาก็สามารถทำได้ค่ะ”
การแข่งขันทำให้รู้ว่าเด็กๆ มีพระเจ้าอยู่ในจิตใจ
“เราบอกเด็กเสมอว่าการแข่งขัน แพ้ ชนะ ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือ เขาต้องเอาชนะตัวเอง ทำให้เต็มที่เท่าที่ศักยภาพของเขามี นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด และจากการที่ได้ใช้เวลาอยู๋กับเด็กค่อนข้างจะนานทำให้เข้าใจถึงจิตใจและความคิดของเขาว่าเขามีทัศนคติอย่างไรกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ ก็พบว่า ถึงแม้เด็กจะไม่ใช่คริสเตียนแต่กจากการที่เด็กให้ความสนใจใส่ใจสิ่งที่เราสอน เชื่อในพระคัมภีร์ ก็คิดว่าสิ่งนั้นสำคัญมากกว่า และเมื่อจิตใจของเขา
ยอมรับพระเจ้า เอาใจใส่ในพระคัมภีร์ ไม่ใช่แค่ทำให้ผ่านๆ ไป ทำให้คุณครูทุกคนรู้ได้ว่า เด็กๆ ของ
เรามีพระเจ้าอยู่ในใจ”
“การที่เราไปแข่ง เราไม่ได้ไปเอาแค่รางวัลแต่เราไปเอาประสบการณ์ เปิดหูเปิดตาสู่โลกภายนอก ทดสอบสิ่งที่เข้าใจ ได้ความท้าทาย ขอขอบคุณคุณครูที่ช่วยติว ขอบคุณคุณแม่ที่คอยรับส่งและเป็นกำลังใจ ขอบคุณพระเจ้าที่ช่วยปกป้องคุ้มครองเราและเราก็เชื่อใจและวางใจในพระนามของพระองค์”
สัมภาษณ์พิเศษ โรงเรียนสัจจพิทยา