น่าตื่นเต้น ยอดเยี่ยม และไม่มีใครเหมือน
ผมวาดภาพการ์ตูนภาพหนึ่งด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ง่ายๆ สำหรับผมภาพนี้น่ารักและมีความหมายมาก เพราะผมวาดรูปนี้เป็นของขวัญให้คนที่ผมรัก ผมเปิดดูมันซ้ำแล้วซ้ำอีก ยิ้มแล้วยิ้มอีก ภูมิใจแล้วภูมิใจอีก แม้โดยความเห็นจากคนรอบข้างจะบอกว่าภาพที่ผมวาดก็แค่รูปการ์ตูนทั่วๆ ไปรูปหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีคุณค่าอะไรมากมายเลย แต่คำพูดเหล่านั้นไม่เคยลดคุณค่าศิลปะชิ้นเอกของผมลงเลยแม้แต่น้อย เพราะนี่คือผลงานชิ้นเอกของผมที่ไม่มีใครในโลกนี้ทำได้เหมือน
.
ผมไม่ค่อยมีโอกาสมาเดินห้างสรรพสินค้าบ่อยนัก โดยเฉพาะในช่วงเช้าวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันทำงานของผมด้วย แต่เพราะมีความจำเป็นต้องมาทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารซึ่งยังเปิดบริการในวันหยุดแบบนี้ จึงมีโอกาสสังเกตเห็นว่ามีสถานที่เรียนพิเศษมากจริงๆ ในห้างแห่งนี้ ด้วยความสนใจจึงเริ่มหาโอกาสแวะไปดูห้างอื่นๆในเช้าวันเสาร์ และเย็นวันธรรมดา ก็พบเหมือนกันหมดว่ามีสถานที่เรียนอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด และสถานที่เหล่านี้สังเกตไม่ยาก เพราะจะเห็นคุณพ่อคุณแม่นั่งกันแน่นขนัดบริเวณนั้น มีเด็กจำนวนมากถูกนำมาสมัครเรียนดนตรี เรียนขับร้อง เรียนเทควันโด ภาษาอังกฤษ ติวเข้ามหาวิทยาลัย ติวเข้ามัธยมปลาย ประถมศึกษา หรือแม้แต่อนุบาลของโรงเรียนดังๆ ผมถึงกับร้องขึ้นมาในใจดังๆ ว่า “เฮ่ย มันต้องเรียนขนาดนี้เชียวหรือ” แต่ท่านผู้อ่านทราบไหมครับว่า สถานที่เรียนเหล่านี้หลายแห่งมีคิวเต็มไปจนถึงปีหน้าด้วยซ้ำ
.
พ่อแม่ของเด็กนักเรียนทั้งวัยเด็กเล็ก หรืออุดมศึกษา มักจะเป็นคนที่อยู่ใน GenX (ประมาณคนที่เกิดในช่วง พ.ศ.2508-2522) หรือไม่ก็ GenY(คนที่เกิดในช่วง พ.ศ.2523-2540) จะว่าไปผมก็ถือเป็นคนในช่วงเดียวกับพ่อแม่ยุคนี้เหมือนกัน พวกเราโตมากับการแข่งขัน โตมากับความเชื่อว่าการศึกษาในสถาบันมีชื่อเสียง คือใบเบิกทางความสำเร็จ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่พ่อแม่จำนวนมากยอมลงทุนทรัพย์สินเงินทอง ยอมเสียสละเวลาส่วนตัว เพื่อปลุกปั้นลูกน้อยของตัวเองให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มากและดีกว่าเด็กคนอื่นๆ แม้กระทั่งยอมแลกกับเรื่องสำคัญอื่นๆ เช่นไม่ไปอวยพรวันเกิดคุณยายเพราะติดเรียนพิเศษ ไม่กลับบ้านสงกรานต์เพราะลูกติดเรียนพิเศษ ไม่ไปโบสถ์วันอาทิตย์เพราะติดเรียนพิเศษ เด็กๆ ในยุคนี้เรียนมากเสียยิ่งกว่าคนในยุคใดๆที่ผ่านมาในอดีต เพราะเราเชื่อจริงๆว่ามันสำคัญ เรามักจะคิดว่า ถ้าลูกฉันเรียนน้อยกว่าคนอื่น ลูกของฉันจะล้มเหลว ความเชื่อนี้มันระบาดหนักจนกระทั่งกระทรวงศึกษาธิการต้องมีนโยบาย “เพิ่มเวลารู้ลดเวลาเรียน” เพื่อให้เด็กๆได้หลุดจากวงจรเรียนแล้วเรียนอีกนี้
.
ในฐานะที่ผมเองเป็นนักจิตวิทยามากว่า 17 ปี มีโอกาสทำงานวิจัยเกี่ยวกับเด็ก เป็นศิษยาภิบาล และเคยเป็นผู้มีส่วนดูแลคริสตจักรเด็ก ผมพบความจริงอย่างหนึ่งว่าเด็กแต่ละคนจะพบความสุขและความสำเร็จเมื่อเขาค้นพบตัวเอง ดังนั้นการเรียนพิเศษจะส่งผลดีก็ต่อเมื่อสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนาจะเรียนจริงๆ เพราะมิเช่นนั้นแล้วเด็กอาจต้องทุกข์ทรมาน จากการถูกบังคับให้เรียนหรือสอบเข้าในสิ่งที่ตนเองไม่อยากเรียนด้วยจริงๆ อ่านมาถึงตรงนี้อาจมีผู้อ่านหลายคนไม่เห็นด้วยกับผมก็เป็นได้ ผมอยากจะยกตัวอย่างง่ายๆ ให้เรามองเห็นภาพ ย้อนกลับไปสัก 20-30 ปีที่แล้ว จำนวนคณะหรือสาขาที่เราเลือกสอบได้นั้นมีความหลากหลายไม่มาก อาจจะหลักสิบต้นๆ เท่านั้น แต่ในยุคปัจจุบันมีคณะให้เราเลือกเรียนรู้มากขึ้น มีอาชีพแปลกๆใหม่ๆมากขึ้น เช่น สาขาวัสดุศาสตร์ นวัตกรรมศาสตร์ วิศวกรรมอวกาศ ในทางกลับกันอาจจะมีหลายคณะที่ในอนาคตเริ่มหมดความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆก็เป็นได้ เช่น สาขาเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งเราพบความจริงว่าคนในยุคปัจจุบันอ่าน E-book เพิ่มขึ้นกว่าหนังสือที่พิมพ์ออกมาสู่ท้องตลาด ในฐานะพ่อแม่ เราจะแน่ใจและมั่นใจได้อย่างไรว่าสิ่งที่เราบังคับให้เขาเป็นในวันนี้จะเป็นสิ่งที่ดีพอสำหรับโลกในอนาคต ผมไม่เคยดูแคลนความรักของพ่อแม่ทุกคน แต่เรากำลังทำในสิ่งที่ดีที่สุดแล้วจริงหรือ นี่คือคำถามที่เราต้องตอบ
.
พระธรรมสดุดีบทที่ 139 ข้อ13-14 กล่าวว่า “เพราะพระองค์ทรงสร้างชิ้นส่วนภายในข้าพระองค์ พระองค์ทรงถักทอข้าพระองค์เข้าด้วยกันในครรภ์มารดา ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสร้างข้าพระองค์อย่าง อัศจรรย์น่าครั่นคร้าม บรรดาพระราชกิจของพระองค์อัศจรรย์ ข้าพระองค์ทราบดี” ความจริงจากพระวจนะข้อนี้บอกให้เรารู้หัวใจสำคัญอย่างน้อยสองประการสำหรับการจัดเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบุตรหลานของเรา
.
ประการแรก เราแต่ละคนถูกสร้างมาอย่างมีลักษณะพิเศษเฉพาะ พระคัมภีร์ใช้คำว่า “พระองค์ทรงสร้างข้าพระองค์อย่างอัศจรรย์น่าครั่นคร้าม” ผมรู้สึกแปลกประหลาดใจเสมอเมื่อได้ไปเที่ยวสวนสัตว์หลายๆ แห่ง พระเจ้าผู้ทรงออกแบบสัตว์ต่างๆ เหล่านี้ช่างเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ สิ่งมีชีวิตทุกตัวช่างพิเศษ ไม่เหมือนใคร แม้ว่าสัตว์บางตัวจะดูน่ากลัวมากกว่าน่ารักสำหรับผมเอง แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า มันไม่มีใครเหมือนจริงๆ ผู้อ่านที่รัก สัตว์ที่พิเศษเหล่านี้เกิดขึ้นจากพระสุรเสียงตรัสสั่งเท่านั้น แต่สำหรับมนุษย์นั้น พระเจ้าทรงถักทอ และปั้นแต่งอย่างประณีตบรรจง พระองค์ทรงใส่พระทัยในการสร้างสรรค์พวกเราแต่ละคนมากยิ่งกว่าสิ่งมี ชีวิตไหนๆบนโลกใบนี้ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าที่เราจะได้เฝ้าดูพัฒนาการเด็กแต่ละคนว่า เขาถนัดอะไร สนใจอะไร พระเจ้าทรงสร้างเขามาอย่างไรกันแน่ โดยการเปิดโอกาสให้เด็กแต่ละคนมีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์หลากหลาย เขาจะได้ค้นพบความถนัด ความชอบ ที่เกินกว่าความเข้าใจอันจำกัดของเราเอง ใครจะรู้ว่าบางทีลูกของเราอาจเป็นหนึ่งในผู้ที่ไปทำงานในห้วงอวกาศในอนาคตก็เป็นได้
.
ประการต่อมา พระเจ้าทรงรู้จักลูกของเราอย่างแท้จริง เป็นธรรมชาติที่พ่อแม่ทุกคนจะมีความเชื่อว่าตนเองสามารถเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกได้ หรือนึกในใจว่า ไม่มีใครรู้จักลูกคนนี้ดีเท่ากับฉันหรอก ผู้อ่านที่รักวันหนึ่งเมื่อลูกเข้าสู่วัยรุ่น ต้องตัดสินใจ ต้องเลือกคู่ครอง เราอาจเพิ่งมารู้ว่าเรารู้จักเขาก็จริง แต่ไม่มีทางที่เราจะเข้าใจเขาได้ทั้งหมด มีผู้เดียวที่ทำเช่นนั้นได้ คือพระเจ้าผู้ถักทอทุกส่วนทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณของคนแต่ละคน การเปิดโอกาสการเรียนรู้ที่ดีที่สุดสำหรับคนๆ หนึ่ง ก็คือ การเรียนรู้จักพระเจ้าผู้สร้างเขาเอง และตัวเขาจะค้นพบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงที่พระผู้สร้างทรงมีต่อเขา ค้นพบว่าอะไรคือพรสวรรค์ที่พระองค์บนเบื้องฟ้าประทานมาให้ เราไม่อาจได้คำตอบนี้จากครูสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ หรือภาษาอังกฤษ แต่เราจะได้เมื่อลูกๆ ของเราอ่านพระคัมภีร์ พระวจนะของพระองค์จะเปิดเผยน้ำพระทัยที่เจาะจงสำหรับพวกเขาอย่างแน่นอน ท่านเชื่อเช่นนั้นหรือไม่?
.
ผู้อ่านที่รักทุกคนครับไม่ว่าวันนี้เราจะเป็นพ่อแม่ หรือเราอาจจะเป็นวัยรุ่นที่กำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจ อย่าลืมเด็ดขาดว่าชีวิตของเราแต่ละคน ตัวผม และตัวคุณด้วยนั้น เราถูกสร้างมาอย่างน่าตื่นเต้น ยอดเยี่ยม และไม่มีใครเหมือนเลย มีเพียงพระเจ้าผู้สัพพัญญูเท่านั้น พระองค์ทรงรู้จักเรา และพระองค์ทรงเตรียมช่วงเวลาพิเศษสำหรับเราแต่ละคนไว้แล้ว ดังพระวจนะในพระธรรมสดุดี 139:16 ว่า “พระเนตรของพระองค์เห็นข้าพระองค์ตั้งแต่ยังไม่เป็นรูปทรง วันทั้งสิ้นที่กำหนดให้ข้าพระองค์นั้น ถูกบันทึกไว้ในหนังสือของพระองค์ ตั้งแต่ยังไม่มีวันนั้นเลย” พระคัมภีร์คือคู่มือวิเศษสุดที่จะนำเราไปสู่วิถีทางแห่งความเป็นตัวเราอย่างแท้จริง ส่วนการเรียนพิเศษนั้นเป็นส่วนเติมเต็มความฝันที่เราได้ค้นพบแล้ว ผมขอหนุนใจให้ทุกคนค้นพบและมีส่วนผลักดันให้ลูกๆ ของเราค้นพบ ตัวตนที่แท้จริงที่พระองค์มีไว้เพื่อเรา ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ
.
- อาจารย์วิทยา วุฒิไกรเกรียง
- ภาพ Master1305 – Freepik.com