พระยาห์เวห์ พระผู้ทรงอารักขา 1/15

พระยาห์เวห์ พระผู้ทรงอารักขา

พระยาห์เวห์ พระผู้ทรงอารักขา
ชีวิตเด็กชายคนหนึ่งที่เติบโตมาในครอบครัวคริสเตียน และต้องผันชีวิตไปอยู่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่อายุยังน้อย การใช้ชีวิตที่นั่น ไม่ได้สะดวกสบาย ต้องเผชิญกับ ความยากลำบาก  หลายอย่าง ภายใต้ความทุกข์ยากนั้น เขาได้สัมผัสถึงการช่วยเหลือ จากพระเจ้าในทุกๆ วันของชีวิต เขาเข้มแข็ง และเติบโตกับพระเจ้ามากขึ้น จนทำให้เขาตัดสินใจเข้าศึกษาในโรงเรียนพระคริสตธรรมเต็มเวลา เพื่อจะรู้จักพระเจ้าและรับใช้พระองค์ได้มากขึ้นภายใต้การรับใช้พระเจ้า ที่ดำเนิน ไปด้วยดีได้เกิด อุบัติเหตุที่ไม่ คาดฝัน เขาขับรถมอเตอร์ไซค์ชนต้นไม้ บาดเจ็บสาหัส จนทำให้ความทรงจำหายไประยะหนึ่ง การเผชิญกับความเจ็บป่วยเจียนตายครั้งนี้ เขาพบสิ่งดีดีภายใต้อุบัติเหตุที่เลวร้ายนั้น เขาได้เห็นความรักของพี่น้องและคนรอบข้าง เหนือสิ่งอื่นใดคือเห็น ความรักของพระเจ้าที่ทรงรักษาความเจ็บป่วยทางร่างกายให้เขา จนปัจจุบันเขาหาย เป็นปกติ ขอแนะนำให้รู้จักกับ อาจารย์วิทวัส จงประเสริฐศักดิ์ อาจารย์วิทวัส จงประเสริฐศักดิ์ อายุ47 ปี จบการศึกษาจาก InternationalTheological Seminary ITS เป็นสมาชิกคริสตจักร Valley Outreach Church  (Pacoima) สมรสกับ คุณวิไลลักษณ์ จงประเสริฐศักดิ์ มีบุตรสาวชื่อ นางสาว อนันยา จงประเสริฐศักดิ์

ชีวิตเมี่อเยาว์วัย
ผมเติบโตในครอบครัวคริสเตียน ไปร่วมนมัสการพระเจ้าที่คริสตจักรซีโอน ตลอดมา ตอนผมอายุได้ประมาณ17 ปี ครั้งหนึ่งผมได้ไปร่วมค่ายอนุชนที่พัทยา จังหวัดชลบุรี อาจารย์ ท่านหนึ่ง มาเทศนา คำเทศนาของท่านแตะต้องใจผมมาก ทำให้ผมรู้สึกตัวเองเป็นคนบาป และทำผิด มากมายไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

หลุดพ้นจากความผิดบาปได้ ผมต้องการพระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิตเพื่อช่วยผมให้พ้นจากความผิดบาป ช่วยในการดำเนินชีวิตของผมให้ดีขึ้น เพราะชีวิตในวัยเด็กของผมไม่ดีเลย ผมเป็นคนดื้อและซนมาก ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ทำตัวใช้ไม่ได้ ผมต้องการพระเยซูคริสต์มาช่วยผม ผมจึงได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์

เมี่อรับพระเยซู รับการเปลี่ยนแปลง
ชีวิตเมื่อเชื่อพระเยซูแล้ว พระเจ้าค่อยๆ เปลี่ยนชีวิตผม ผมได้ใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้นผมรู้สึกว่าได้รับการทรงนำจากพระเจ้า อย่างเมื่อตอนผมอายุ19 ปีผมเดินทางไปสหรัฐอเมริกาไปคนเดียว ไม่ได้มีญาติอยู่ที่นั่น ผมต้องพึ่งพาพระเจ้ามากจริงๆต้องขอจากพระเจ้าทั้ง ในด้านความเป็นอยู่ในด้านภาษา การหางานทำซงึ่ มคี วามยากลำบากมาก งานที่ทำบางทีก็ไม่ได้มีงานตลอดทั้งเดือน พอสิ้นเดือนต้องจ่ายค่าบ้านและค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกแต่พระเจ้าก็ทรงช่วยให้มีพอเสมอ พระเจ้าทรงนำให้ผมได้พบกับคริสตจักรไทยชื่อ Thai Outreach Church ผมได้ไปร่วมนมัสการและรับใช้พระเจ้าที่นั่น การเรียนรู้เกี่ยวกับพระเจ้าเติบโตมากขึ้น ผมเริ่มรับหน้าที่ดูแลและซ่อมทั่วไปในคริสตจักรดูแลเครื่องเสียง ช่วยเล่นดนตรี กีตาร์ กลอง ฯลฯการใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกาพระเจ้าได้ช่วยเหลือและอวยพรผมเสมอมา ผมจึง ถวายตัวรับใช้พระเจ้าเพื่อจะขอบคุณพระองค์  ในปี 2004 ผมตัดสินใจ เข้าเรียนเขาโรงเรียนพระคริสตธรรมเต็มเวลา เนื่องจากผมทำงานคนเดียวในครอบครัว ผมได้ คุยกับภรรยา อธิษฐานขอพระเจ้าช่วยผมให้สามารถไปเรียนโรงเรียนพระคริสตธรรมเต็มเวลาได้ และพระเจ้าก็ได้ตอบคำอธิษฐาน โดยการที่พระองค์ได้ส่งคนงานคนหนึ่งที่ไว้ใจได้มาเป็นลูกน้อง ผมแค่สั่งงานเขาให้ทำเท่านั้นไม่ต้องลงมือทำเอง ทำให้ผมมีเวลาสามารถไปเรียนได้ และพระคุณของพระเจ้าสำหรับผมก็คือ ผมทำงานและเรียนไปด้วยได้ แต่เป็นที่น่าแปลกใจผมกลับมีรายได้มากกว่าที่ผมทำงานอย่างเดียว เพราะบางครั้งทำงานแค่วันสองวันรายรับก็สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้ทั้งเดือน ผมขอบคุณพระเจ้ามาก

อุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ชนต้นไม้
เมื่อปี 2013 เดือน 7 เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงมากผมอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ที่  SoledadCanyon Road California ผมขี่รถมอเตอร์ไซค์ ขณะขี่นั้นผมไม่รู้ว่าเกิดอะไร ขึ้นมอเตอร์ไซค์ได้ลอยไปชนกับต้นไม้อย่างแรง ทำให้ผมได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง เลือดออกในสมองสองที่ด้านหน้าขวากับด้านหลังขวา สมองบวม กะโหลกศีรษะแตก

และร้าว  เส้นเอ็นที่คอด้านขาวขาด กระดูกที่คอร้าว  กระดูกที่ใบหน้าขาวแตก  กระดูกที่เบ้าตาและซุ้มประตูโหนกแก้มแตก เลือดออกจากหู, ตา, ปาก,จมูก กล้ามเนื้อตา ด้านขวาบวมมาก ตาขยับไม่ได้ กระดูกข้อมือขวาร้าว แผลตามใบหน้า หน้าอก ท้อง นิ้วมือขวา และแผลที่หน้าขา นี่ คือทั้งหมดที่ผมบาดเจ็บ  และพูดไม่รู้เรื่อง ความจำระยะสั้นหายไป ปวดหัว ปวดคอ ปวดข้อมือ ปวดตามตัว ลุกนั่งยืนเองไม่ได้ผมถูกส่งไปที่โรงพยาบาลโดยเฮลิคอปเตอร์ ผมเข้าโรงพยาบาลแบบปัจจุบันทันด่วน ที่รักษาอุบัติเหตุร้ายแรงโดยเฉพาะ หมอพาไปตรวจโดย CT SCANและ MRI หมอบอกกับภรรยาผมว่าอาการหนักมาก หมอที่ดูแลผมแจ้งว่าไม่มีข่าวดีนะให้ทำใจ แถมยังเชิญบาทหลวงแถวนั้นมาเพื่อให้กำลังใจ และปลอบใจด้วย ช่วงแรกหลังเกิดเหตุหมอทำอะไรไม่ได้มากเพราะเลือดคั่งในสมองสูง  ทำให้ความดัน ในสมองสูง หมอให้ยาแก้ปวด  ยาลดความดันต่างๆ เพราะกะโหลกร้าว บวม เบ้าตาแตก สมองเกือบเสียศูนย์ เลือดคั่งในสมองสูงมาก มันดันสมองส่วนด้านซ้ายดันไปเกือบจะเลยเส้นกลางสมอง หมอบอกว่าถ้าอาการหนักขนาดนี้คงต้องผ่าตัดหลายครั้ง ต้องผ่ากะโหลกศีรษะเพื่อดึงกะโหลก ศีรษะให้เข้าที่และต้องเอามีดเข้าไปทางปากผ่าตัดดันส่วนที่แตกให้เข้าที่ และ ต้องทำอะไรอีกเยอะ และบอกว่าในการรักษาคนไข้แบบนี้ต้องใช้เวลาปีครึ่งถึงสองปีบางคนที่เกิดอุบัติเหตุแบบนี้เป็นอัมพาตไปเลย เพราะกระดูกคอซีกสองซีกสามและซีกสี่ เป็นกระดูกที่รวมเส้นประสาททั้งหมด อย่างเช่นดาราชื่อคริสโตเฟอร์  รีฟ  ที่เล่นเป็นพระเอกซุปเปอร์แมน ซึ่งตอนนี้ต้องนั่งรถเข็น เพราะอุบัติเหตุที่กระดูกคอซีกสองเหมือนกัน หมอคาดว่าถ้าผมรอดก็อาจจะเป็นอัมพาตหรือสมองเสื่อม

การอัศจรรย์เกิดขึ้น
ผมได้เห็นการรักษา ที่ไม่ได้มาจากมนุษย์ พระเจ้าทรงรักษาผมให้หาย  ในวันนัดผ่าตัดหมอเตรียมจะผ่าตัดให้ผม ภรรยาผม รวมทั้งพี่น้องในพระคริสต์ ได้อธิษฐาน ขอต่อพระเจ้า ให้ผมไม่ต้องผ่าตัด ได้ไหม?  ซึ่งเป็นการขอที่มากแต่ก็จะขอและ พระเจ้าก็ทรงตอบ ในคืนนั้นเขาให้ผมอดอาหารเตรียมผ่าตัดพอเช้าเป็นวันที่จะต้องผ่าตัดแต่หมอที่จะผ่าเกิดไม่มา และผมได้ถูกย้ายโรงพยาบาลในวันนั้น เพราะโรงพยาบาลที่ผมประกันสุขภาพนั้นต้องการให้ผมไปรักษาตัวที่นั่น  เมื่อย้ายไปที่ใหม่ต้องตรวจร่างกายทุกอย่างใหม่หมด ตอนทำ CT SCAN ก็พบว่าสมองที่แตกร้าวและเคลื่อนไปได้เกิดเคลื่อนกลับมาเข้าที่ และมีช่องว่างประมาณสองมิล ระหว่างรอยแตกนั้น หมอบอกว่า ไม่จำเป็นต้องผ่า เพราะการผ่าตัดอันตรายมากกว่า และแค่สองมิลร่างกายสามารถรักษาด้วยตัวมันเองได้ กลับเชื่อมได้ผมนอนอยู่ห้องไอซียูอีกสองอาทิตย์ หมอได้ดูว่าผมสามารถลุกยืนเองได้ไหม ซึ่งตอนแรกๆ ก็ไม่ได้ ต้องมีคนช่วย หมอได้ทดสอบโดยการให้ดูรูปภาพสิ่งต่างๆ ว่าผมรู้ไหมว่าคืออะไร ผมก็สามารถตอบได้ ความจำช่วงแรกหายไป ความจำระยะยาวในอดีตยังไม่หายไป ในที่สุดผมก็ค่อยๆ หายเป็นปกติ ผมได้ไปพบหมอตรวจดูอีกครั้ง หมอได้ดูฟิล์ม ดูอาการ หมอทำหน้าแปลกใจ และดูฟิล์มอีกที ดูว่าเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า เหลือแค่ผมยังต้องรักษามือ และคอซึ่งยังเข้าเฝือกอยู่เท่านั้น ภายในหนึ่งเดือนผมสามารถออกจากโรงพยาบาลฯ ได้ เป็นการ

อัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงรักษาผม ผมเคยแค่ได้ยินว่าพระเจ้าทรงรักษาคนโน้นคนนี้ให้หายได้ รักษาคนตาบอดให้มองเห็นได้ แต่ครั้งนี้พระเจ้าทรงให้ผมเห็นการรักษาตัวผมเองจากพระองค์

การจัดเตรียมที่อัศจรรย์เกิดขึ้น
ในที่เกิดเหตุ เป็นสถานที่เปลี่ยว อยู่ในหุบเขา  โดยปกติจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือในบริเวณนั้น แต่ก่อนเกิดเหตุเพียงหนึ่งอาทิตย์สถานที่นั้นได้ติดตั้งสายโทรศัพท์ทำให้สามารถเรียกฝ่ายช่วยเหลือฉุกเฉินมาช่วยผมได้ในที่ผมเกิดอบัติเหตุนั้น เขาได้โทรไปแจ้ง เขาเหตุ และเรียกเฮลิคอปเตอร์มารับผมได้ทันเวลาขอบคุณพระเจ้าจริงๆ ค่ารักษาพยาบาลที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา จะแพงมาก พระเจ้าก็ทรงจัดเตรียมให้ภรรยาผมที่เพิ่งเริ่มไปทำงานที่ใหม่ และที่ทำงานประกันให้ครอบครัวด้วย โดยประกันเริ่มต้นตั้งแต่วันที่1 อุบัติเหตุเกิดวันที่ 13 ประกันมีผลคุ้มครองก่อนเกิดเหตุเพียงไม่กี่วัน ค่ารักษาของผมประมาณสามแสนกว่าเหรียญคิดเป็นเงินไทยก็สิบล้านกว่าบาท(ค่ารักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด) บริษัทประกันเป็นผู้จ่ายให้ทั้งหมด เป็นการอัศจรรย์ และความเมตตาของพระเจ้า พระองค์ทรงเที่ยงแท้ และทรงพระชนม์อยู่จริงๆ

เหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดี
เมื่อเกิดอุบัติเหตุผมไม่เคยสงสัยในสิ่งที่พระเจ้าให้เกิดขึ้น  พระเจ้าให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลดีในฐานะผู้รับใช้ผมได้ เห็น คือพี่น้องในคริสตจักรมีความเชื่อมากขึ้นและได้เห็น ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า เขาได้เอาเรื่องของผมไปเป็นพยาน นำคนมาเชื่อพระเจ้า ส่วนตัวผมได้เห็นความรักของพระเจ้าในการรักษาโรค ซึ่งผมเคยได้ยินเท่านั้น แต่ครั้งนี้เป็นประสบการณ์โดยตรงกับชีวิตจริง พระเจ้ารักษาผมให้ดีขึ้นเรื่อยๆผมพูดได้อย่างเต็มปากว่าพระเจ้ารักษาผมจริงๆ ชีวิตที่พระเจ้าให้เหลืออยู่นี้ก็เพื่อรับใช้พระเจ้า ผมอยากเป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐ เพราะเป็นพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์บันทึกไวในพระคัมภีร์ ถ้าไม่สำคัญ  พระเยซูคงไม่พูด เรื่องนี้ ผมอยากขอบคุณพระเจ้า และผมจะรับใช้พระเจ้าต่อไป และมากขึ้นเรื่อยๆด้วย

ข้อพระธรรมประจำใจ
โรม8:28-29 “เรารู้ว่าเหตุการณ์ ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รัก พระเจ้าคือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์เรียกตามพระประสงค์ของพระองค์เพราะว่าทุกคนที่ พระองค์ได้ทรงเลือกไว้แล้ว พระองค์ทรงกำหนดไว้ก่อนให้เป็นตามพระฉายาแห่งพระบุตรของพระองค์ ”ผมชอบข้อนี้ และนำมาใช้ในชีวิตเสมอ ผมดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระองค์ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นถ้าเป็นพระประสงค์ของพระองค์ ทุกอย่างจะเกิดผลดี ผมเชื่อเช่นนั้น

สดุดี121:1-3 “ข้าพเจ้าเงยหน้า ดูภูเขา ความช่วยเหลือของข้าพเจ้ามา จากไหน? ความช่วยเหลือของข้าพเจ้ามาจากพระยาห์เวห์ ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก พระองค์จะไม่ทรงให้เท้าของท่านสะดุดล้ม พระองค์ผู้ทรงอารักขาท่านจะไม่เคลิ้มหลับไป”

สดุดี46:1 “พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของเรา เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก” พระธรรมสดุดี สองข้อนี้บอกผมถึงการอารักขาของพระเจ้า ซึ่งอยู่ในจิตใจผมเสมอ ไม่ว่าผมจะไปที่ไหนในหุบเขาเงามัจจุราช พระเจ้าจะทรงคุ้มครองและเสริมกำลงผม

จากใจ
อยากหนุนใจคริสเตียนให้เชื่อและวางใจในพระสัญญาของพระเจ้า พระสัญญา

ของพระองค์ไม่เปลี่ยนแปลงและเป็นจริงเสมอบางครั้งเราไม่ได้เชื่อและไว้วางใจ

จริงๆ ทำให้เราไม่ได้เห็นในสิ่งที่พระเจ้าทรงทำกิจ และผู้ที่ยังไม่เชื่อในพระเจ้าขอให้ รู้ว่าพระเจ้าทรงเที่ยงแท้ และเป็นอยู่จริง พระองค์ทรงสามารถและทำในสิ่งที่พระองค์ได้บอกไว้ในพระคัมภีร์ อยากให้พี่น้องได้ศึกษาพระคำพระเจ้ามากขึ้น พระคัมภีร์เป็นคำสัญญา เป็นพระพร เป็นน้ำพระทัยพระเจ้า และเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่มอบไว้ให้มนุษย์ เหมือนกับว่าถ้าเรามีพินัยกรรมและเราไม่เปิดพินัยกรรมเราจะไม่มีทางรู้ว่าข้างในมีอะไรที่สัญญาว่าจะให้เราบ้าง ถ้าเราเปิดพินัยกรรมออกมาเราจะรู้ว่าพินัยกรรมให้อะไรเราไว้บ้าง พระคัมภีร์คือพินัยกรรมที่พระเจ้ามีไว้ให้มนุษย์ ถ้าเราสนใจพระคัมภีร์เราจะได้รับพระพรจากพระเจ้าขอให้เชื่อ และวางใจในพระคำของพระองค์เพราะว่าพระคำที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์เป็นจริงเสมอ

  • อาจารย์วิทวัส จงประเสริฐศักดิ์