พร้อมแค่ไหน? ถ้าให้เป็นตัวจริง
ไม่ว่าเราจะชอบฟุตบอลหรือไม่ การแข่งขันฟุตบอลโลกที่มีเพียง 4 ปีครั้งก็ย่อมทำให้ทุกสายตาบนโลกจับจ้องไปที่ประเทศรัสเซีย เจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2018 และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าในนัดเปิดสนามรัสเซียเจ้าบ้าน พบ ซาอุดิอาระเบีย คือค่ำคืนที่ทุกคนรอคอย ในฐานะเจ้าภาพรัสเซียถูกคาดหวังให้เปิดสนามด้วยชัยชนะ แต่เหมือนลางร้ายมาเยือนเมื่อนักเตะตัวความหวังอย่าง อลัน ซาโกเยฟ เจ็บหนักตั้งแต่ยังไม่หมดครึ่งแรกด้วยซ้ำ ถ้าย้อนกลับไปในเวลานั้นผมเชื่อว่าคนรัสเซียคงเริ่มตระหนกว่าเทพีแห่งชัยชนะกำลังจะบินหนีไปเสียแล้ว แต่แล้วตัวสำรองอย่าง เดนิส เชรีเชฟ ไม่เพียงแต่นำชัยชนะมาสู่ทีม แต่เขาลงมาทำสองประตู จนประเทศตัวเองเปิดตัวด้วยชัยชนะที่เกินความคาดหมายถึง 5-0 และกลายเป็นผู้เล่นที่ดี ที่สุดในค่ำคืนนั้น และกลายเป็นวีรบุรุษของชาติในชั่วข้ามคืน
.
ผมมีโอกาสไปเทศนาหรือบรรยายทางจิตวิทยาให้กับนักกีฬาในโรงเรียนหลายแห่งเป็นครั้งคราว ทำให้ผมได้เห็นถึงการแข่งขันภายในที่มีความกดดันค่อนข้างสูงของนักกีฬาทุกประเภท นั่นเพราะนักกีฬาตัวสำรองมีปริมาณมากกว่าเป็นหลายเท่าเมื่อเทียบกับนักกีฬาตัวจริง และโอกาสที่จะได้ลงเป็นตัวจริงนั้นยากลำบากเหลือเกิน และสิ่งนั้นอาจกลายเป็นความท้อใจที่กัดกร่อนคนที่กำลังต่อสู้เพื่อความสำเร็จในชีวิตอยู่ก็เป็นได้ บางคนอาจถึงกับหมดความมุมานะ ไม่อยากซ้อม ไม่อยากทำอะไร เพราะคิดแต่ว่าตัวเองคงไม่มีโอกาสได้ลงสนาม และสิ่งนั้นเองทำให้ช่องว่างระหว่างนักกีฬาตัวจริงกับตัวสำรองยิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ พอๆ กับโอกาสที่พร้อมจะหลุดหายไปเมื่อเราได้ลงสนามแต่ไม่มีความพร้อมแม้แต่น้อย
.
พระคัมภีร์ได้บันทึกเรื่องราวของเด็กชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของใคร เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงที่พระเจ้าทรงเลือกสรร กลายเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของอิสราเอล ผู้สร้างตำนานล้มยักษ์โกลิอัท และเป็นบรรพบุรุษผู้ได้รับเกียรติเป็นวงศ์วานของพระเยซูคริสต์ อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จที่พระเจ้าทรงอวยพรครั้งนี้ผมอยากชวนเรามาเรียนรู้ด้วยกัน ในพระธรรม 1 ซามูเอล บทที่ 16 เมื่อพระเจ้าทรงดลใจซามูเอลให้เจิมตั้งบุตรเจสซีเป็นกษัตริย์นั้น เจสซีนำบุตรเจ็ดคนแรกผ่านการถวายสัตวบูชาและการชำระตัว (1 ซามูเอล 16:5) แต่ในนั้นไม่มีกษัตริย์ดาวิด อาจกล่าวได้ว่าแม้แต่เจสซี คุณพ่อแท้ๆของดาวิดก็ยังมองไม่เห็นแววตัวจริงในลูกชายคนสุดท้องนี้ เล่าเรื่องยาวให้สั้นสุดท้ายดาวิดได้รับการเจิมตั้งเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล และเคล็ดลับของท่านถูกบันทึกไว้ในพระธรรม 1 ซามูเอล 17:34-37 ไว้อย่างน่าสนใจดังนี้
.
ประการที่หนึ่ง
“มุ่งมั่นในหน้าที่ของตนเองอยู่เสมอ” ดาวิดกล่าวไว้ในข้อที่ 34 และ 35 ว่า “…ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเคยเลี้ยงฝูงแกะของบิดา และเมื่อมีสิงโตหรือหมีมาเอาลูกแกะตัวหนึ่งไปจากฝูง ข้าพระบาทก็ตามไปฆ่ามัน และช่วยกู้ลูกแกะนั้นมาจากปากของมัน ถ้ามันลุกขึ้นต่อสู้ข้าพระบาท ข้าพระบาทก็จับคางของมัน และทุบตีมันจนตาย…” ในระหว่างที่ดาวิดได้รับมอบหมายให้ดูแลฝูงแกะ แม้ในสายตาคนอื่นงานเหล่านี้ไม่ได้ยิ่งใหญ่ ไม่ได้โก้หรู แต่กษัตริย์ดาวิดมุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุด ไม่ได้เสียเวลากับความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในงานของตัวเอง ไม่ท้อใจอยู่กับความริษยาในความสำเร็จของผู้อื่น แม้สิ่งต่างๆที่ท่านทำไม่มีใครรับรู้ แต่พระเจ้าทรงทราบและรู้จักท่านดีว่า ดาวิดจริงจังกับความรับผิดชอบของตัวเองเพียงใด ผมเองเชื่อว่า เดนิส เชรีเซฟ ดาวยิงตัวสำรองของทีมชาติรัสเซีย ไม่ใช่วีรบุรุษชั่วข้ามคืน ที่ได้รับโอกาสทองมาแบบไม่ได้ลงทุนอะไร เบื้องหลังความสำเร็จย่อมต้องผ่านความมุมานะจนพร้อมเสมอที่จะลงไปทดแทนตัวจริง และผมเชื่อว่า เชรีเซฟ มุ่งมั่นในการซ้อมเสมอจนทำให้โค้ชทีมชาติรัสเซียตัดสินใจเลือกเปลี่ยนเขาลงไปแทนเป็นคนแรก โอกาสจึงเป็นของคนที่มุ่งมั่น ฝึกฝน และรับผิดชอบหน้าที่ในปัจจุบันของตนเองอย่างดีนั่นเอง
“มุ่งมั่นในหน้าที่ของตนเองอยู่เสมอ” ดาวิดกล่าวไว้ในข้อที่ 34 และ 35 ว่า “…ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเคยเลี้ยงฝูงแกะของบิดา และเมื่อมีสิงโตหรือหมีมาเอาลูกแกะตัวหนึ่งไปจากฝูง ข้าพระบาทก็ตามไปฆ่ามัน และช่วยกู้ลูกแกะนั้นมาจากปากของมัน ถ้ามันลุกขึ้นต่อสู้ข้าพระบาท ข้าพระบาทก็จับคางของมัน และทุบตีมันจนตาย…” ในระหว่างที่ดาวิดได้รับมอบหมายให้ดูแลฝูงแกะ แม้ในสายตาคนอื่นงานเหล่านี้ไม่ได้ยิ่งใหญ่ ไม่ได้โก้หรู แต่กษัตริย์ดาวิดมุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุด ไม่ได้เสียเวลากับความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในงานของตัวเอง ไม่ท้อใจอยู่กับความริษยาในความสำเร็จของผู้อื่น แม้สิ่งต่างๆที่ท่านทำไม่มีใครรับรู้ แต่พระเจ้าทรงทราบและรู้จักท่านดีว่า ดาวิดจริงจังกับความรับผิดชอบของตัวเองเพียงใด ผมเองเชื่อว่า เดนิส เชรีเซฟ ดาวยิงตัวสำรองของทีมชาติรัสเซีย ไม่ใช่วีรบุรุษชั่วข้ามคืน ที่ได้รับโอกาสทองมาแบบไม่ได้ลงทุนอะไร เบื้องหลังความสำเร็จย่อมต้องผ่านความมุมานะจนพร้อมเสมอที่จะลงไปทดแทนตัวจริง และผมเชื่อว่า เชรีเซฟ มุ่งมั่นในการซ้อมเสมอจนทำให้โค้ชทีมชาติรัสเซียตัดสินใจเลือกเปลี่ยนเขาลงไปแทนเป็นคนแรก โอกาสจึงเป็นของคนที่มุ่งมั่น ฝึกฝน และรับผิดชอบหน้าที่ในปัจจุบันของตนเองอย่างดีนั่นเอง
.
ประการที่สอง
“มั่นใจและมองในสิ่งที่ตัวเองมี” ในข้อที่ 36 ดาวิดกล่าวว่า “ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้ฆ่าสิงโตและหมีนั้นมาแล้ว คนฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตนี้ก็เป็นเหมือนสัตว์เหล่านั้นตัวหนึ่ง ด้วยเขาได้ท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่” กษัตริย์ดาวิดมีความมั่นใจว่าตัวเองจะสามารถสร้างความสำเร็จได้จากความสามารถที่ตัวเองฝึกฝนมาเป็นเวลานาน ประสบการณ์ในการทำทุกๆวันควรจะสร้างความมั่นใจ และสร้างความตระหนักในจุดแข็งที่เรามี บางคนสูญเสียโอกาสของตนเองไปเพราะมัวแต่เสียเวลามองหาและน้อยใจในสิ่งที่ตัวเองไม่มีมากเกินไป เช่น ถ้าฉันสูงกว่านี้ล่ะก็ ถ้าฉันมีเงินมากกว่านี้ ขอพระเจ้าทรงเมตตาเปิดตาใจของทุกคนให้มองเห็นถึงการอวยพรที่มีอยู่ในตัวเรา เรามีจุดดี มีความสามารถ และเราสามารถพัฒนาจุดดีนั้นให้กลายเป็นจุดแข็งของเราได้ ขอเพียงอย่ามัวเสียเวลาคร่ำครวญกับสิ่งที่ไม่มีในตัวเองเลย ดาวิดเองก็ไม่ได้คร่ำครวญที่ตัวเองไม่สามารถถืออาวุธของซาอูล แต่ท่านลงไปเลือกหินเกลี้ยงห้าก้อนพร้อมสลิงที่ใช้ปราบสัตว์ร้ายประจำวันของท่าน และอาวุธที่ทุกคนมองไม่เห็นค่าสามารถโค่นยักษ์โกลิอัทลงได้
“มั่นใจและมองในสิ่งที่ตัวเองมี” ในข้อที่ 36 ดาวิดกล่าวว่า “ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้ฆ่าสิงโตและหมีนั้นมาแล้ว คนฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตนี้ก็เป็นเหมือนสัตว์เหล่านั้นตัวหนึ่ง ด้วยเขาได้ท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่” กษัตริย์ดาวิดมีความมั่นใจว่าตัวเองจะสามารถสร้างความสำเร็จได้จากความสามารถที่ตัวเองฝึกฝนมาเป็นเวลานาน ประสบการณ์ในการทำทุกๆวันควรจะสร้างความมั่นใจ และสร้างความตระหนักในจุดแข็งที่เรามี บางคนสูญเสียโอกาสของตนเองไปเพราะมัวแต่เสียเวลามองหาและน้อยใจในสิ่งที่ตัวเองไม่มีมากเกินไป เช่น ถ้าฉันสูงกว่านี้ล่ะก็ ถ้าฉันมีเงินมากกว่านี้ ขอพระเจ้าทรงเมตตาเปิดตาใจของทุกคนให้มองเห็นถึงการอวยพรที่มีอยู่ในตัวเรา เรามีจุดดี มีความสามารถ และเราสามารถพัฒนาจุดดีนั้นให้กลายเป็นจุดแข็งของเราได้ ขอเพียงอย่ามัวเสียเวลาคร่ำครวญกับสิ่งที่ไม่มีในตัวเองเลย ดาวิดเองก็ไม่ได้คร่ำครวญที่ตัวเองไม่สามารถถืออาวุธของซาอูล แต่ท่านลงไปเลือกหินเกลี้ยงห้าก้อนพร้อมสลิงที่ใช้ปราบสัตว์ร้ายประจำวันของท่าน และอาวุธที่ทุกคนมองไม่เห็นค่าสามารถโค่นยักษ์โกลิอัทลงได้
.
ประการสุดท้าย
“อย่าลืมว่ามีพลังที่ยิ่งใหญ่หนุนหลังเรา” ในข้อที่ 37 ดาวิดกล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า “พระยาห์เวห์ผู้ทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากอุ้งเท้าของสิงโต และจากอุ้งเท้าของหมี จะทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากมือของคนฟีลิสเตียนี้…” กษัตริย์ดาวิดไม่เคยลืมว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทุกประการของท่าน ถึงแม้ว่าท่านอาจไม่เคยได้รับความชื่นชมโดยตรงจากมนุษย์คนใด สำหรับการปกป้องฝูงแกะของตัวเอง ถึงแม้ไม่มีใครเห็นว่าดาวิดเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมากขนาดไหนในการต่อสู้กับศัตรูของฝูงแกะ แต่ดาวิดไม่เคยลืมขอบพระคุณพระเจ้าในความสำเร็จทุกประการของท่าน ท่านผู้อ่านที่รัก บางครั้งเรามัวรอคอยความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง โดยลืมตระหนักถึงเป้าหมายตรงหน้าที่เราสามารถก้าวข้ามไปได้ ความสำเร็จในแต่ละวันของเราที่เราไม่เคยลืมนั่นเองที่จะสามารถกลายเป็นขั้นบันไดนำเราไปสู่ความสำเร็จที่สูงขึ้น เราไม่ได้กำลังมัวเมากับความสำเร็จในอดีต แต่สิ่งที่ผมหนุนใจให้ทุกคนได้กระทำคือการไม่ลืมยกเครดิตทุกอย่างในชีวิตให้กับพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ทรงอยู่เบื้องหลังชีวิตของเราเสมอไม่ว่าในงานเล็กหรือใหญ่ในสายตาของมนุษย์ การก้าวไปข้างหน้าด้วยพลังของตัวเองคงสามารถพาเราให้ไปไกลได้ในระดับหนึ่ง แต่พลานุภาพจากพระเจ้าจะพาเราไปไกลเกินกว่าที่เราสามารถจินตนาการได้
“อย่าลืมว่ามีพลังที่ยิ่งใหญ่หนุนหลังเรา” ในข้อที่ 37 ดาวิดกล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า “พระยาห์เวห์ผู้ทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากอุ้งเท้าของสิงโต และจากอุ้งเท้าของหมี จะทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากมือของคนฟีลิสเตียนี้…” กษัตริย์ดาวิดไม่เคยลืมว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทุกประการของท่าน ถึงแม้ว่าท่านอาจไม่เคยได้รับความชื่นชมโดยตรงจากมนุษย์คนใด สำหรับการปกป้องฝูงแกะของตัวเอง ถึงแม้ไม่มีใครเห็นว่าดาวิดเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมากขนาดไหนในการต่อสู้กับศัตรูของฝูงแกะ แต่ดาวิดไม่เคยลืมขอบพระคุณพระเจ้าในความสำเร็จทุกประการของท่าน ท่านผู้อ่านที่รัก บางครั้งเรามัวรอคอยความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง โดยลืมตระหนักถึงเป้าหมายตรงหน้าที่เราสามารถก้าวข้ามไปได้ ความสำเร็จในแต่ละวันของเราที่เราไม่เคยลืมนั่นเองที่จะสามารถกลายเป็นขั้นบันไดนำเราไปสู่ความสำเร็จที่สูงขึ้น เราไม่ได้กำลังมัวเมากับความสำเร็จในอดีต แต่สิ่งที่ผมหนุนใจให้ทุกคนได้กระทำคือการไม่ลืมยกเครดิตทุกอย่างในชีวิตให้กับพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ทรงอยู่เบื้องหลังชีวิตของเราเสมอไม่ว่าในงานเล็กหรือใหญ่ในสายตาของมนุษย์ การก้าวไปข้างหน้าด้วยพลังของตัวเองคงสามารถพาเราให้ไปไกลได้ในระดับหนึ่ง แต่พลานุภาพจากพระเจ้าจะพาเราไปไกลเกินกว่าที่เราสามารถจินตนาการได้
.
ผมไม่แน่ใจว่าในขณะที่ทุกท่านกำลังอ่านบทความนี้ ผลการแข่งขันฟุตบอลโลกจะออกมาเป็นอย่างไร ทีมใดจะได้รับความสำเร็จในบั้นปลาย แต่สิ่งที่ผมมั่นใจก็คือ เดนิส เชรีเซฟ วีรบุรุษของรัสเซีย จะไม่มีวันลืมทุกวินาทีของตัวเองในสนาม และสองประตูในค่ำคืนความทรงจำนั้นได้อย่างแน่นอน โอกาสย่อมมาถึงทุกคนเข้าสักวัน แต่ความพร้อมในทุกๆ วันเท่านั้นที่จะทำให้เราสามารถคว้าโอกาสจนติดมือ จงอย่าลืมมุ่งมั่นในความรับผิดชอบตรงหน้าในวันนี้อย่างดีและเต็มกำลังที่สุด อย่าลืมพิจารณาข้อดีและสิ่งที่เรามี และอย่าลืมว่าเบื้องหลังชีวิตของเรามีพลังงานยิ่งใหญ่จากเบื้องบนคอยสนับสนุนอยู่เสมอ ขอพระเจ้าอวยพรผู้อ่านทุกท่านพร้อมเป็นจริงอยู่เสมอในทุกโอกาสของชีวิต ขอพระเจ้าอวยพรครับ
- อาจารย์วิทยา วุฒิไกรเกรียง
- ภาพ Bedneyimages – Freepik.com