สถิตอยู่ด้วยตลอดเวลา
ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ชีวิตเติบโตมาอย่างราบเรียบ ภายใต้ครอบครัวเล็กๆ ที่เป็นผู้รับใช้พระเจ้า แต่แล้ววันหนึ่งเธอต้องเผชิญกับโรคร้ายคือมะเร็งเม็ดเลือดขาว เธอเข้ารับการรักษาตามขั้นตอนที่แพทย์กำหนด จากการป่วยของเธอ เธอได้เห็นการทรงสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้าในทุกขั้นตอนของการรักษา และเธอได้เห็นความรักของพระเจ้าผ่านทางครอบครัวของเธอ และจากผู้คนรอบข้างมากมาย
คุณชุติพรรณ อังคศุภรกุล อายุ 39 ปี จบการศึกษา ปริญญาตรีคณะศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโทคณะบริหารทรัพยากรมนุษย์ สถาบันพัฒนบัณฑิต บริหารศาสตร์ ทำงานบริษัทปิโตรนาส อินเตอร์เนชันแนล มาร์เก็ตติ้ง ประเทศไทย เป็นสมาชิกคริสตจักรใจสมาน
เชื่อพระเจ้า
พรรณเกิดในครอบครัวที่เป็นคริสเตียน โตมาในโบสถ์ เรียนพระคัมภีร์ เรียนรวีวารศึกษา ฟังเรื่องของพระเจ้ามาตั้งแต่เด็กๆ พรรณอธิษฐาน เฝ้าเดี่ยว พรรณเห็นคุณพ่อรับใช้พระเจ้ามาตลอด แต่ไม่เคยรู้เลยว่า เรายังไม่เคยรับเชื่อเลย เราเข้าใจมาตลอดว่า นี่เราก็เป็นคริสเตียนตั้งแต่เกิดแล้ว เราต้องรับเชื่อด้วยหรอ ก็ในบัตรประชาชนเราก็ศาสนาคริสต์นะ จนมีวันหนึ่งไปค่าย อาจารย์ท่านหนึ่งได้ถามว่า เราได้ต้อนรับองค์พระผู้เป็นเจ้าเข้ามาในชีวิตของเราแล้วยัง และวันนั้นเราก็เลยอธิษฐานขอให้พระเจ้ามาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเราอย่างจริงจัง เพราะเรารู้ว่าพระเจ้าเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเราอยู่แล้ว
ชีวิตของผู้เชื่อ
เพราะพรรณเติบโตมาในครอบครัวคริสเตียน การมีครอบครัวที่เป็นผู้ที่เชื่อในพระเจ้า ทำให้เรายังคงความเชื่อของเราไว้ แม้ในกระแสสังคมที่แรงและพร้อมจะทำให้เราหลุดออกไปทางของพระเจ้าได้ตลอดเวลา แต่รากฐานความรักของพระเจ้าที่ครอบครัวได้วางไว้ให้เรา ยังยึดเราไว้ และทำให้เรายังไม่หลงทางไปไกล เพราะเรารู้เสมอว่าพระเจ้าอยู่กับเรา และเราไม่เคยอยู่คนเดียว พระเจ้าสถิตอยู่กับเราเสมอ ในทุกๆ ช่วงเวลาและวาระของชีวิต ไม่ว่าจะทุกข์ หรือสุข และเหตุการณ์เจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับเรา ก็เป็นเหตุการณ์ที่พระเจ้าได้สอนเราหลายๆ อย่าง และทำให้เราใช้ชีวิตอย่างมีสติ และมีความหมายมากขึ้นทุกวันเช่นกัน
ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว
เริ่มแรกอาการป่วยของการเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวจะไม่ได้มีอาการชัดเจนเหมือนมะเร็งชนิดอื่นๆ ที่เห็นได้อย่างชัดเจนพรรณเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันที่เกิดขึ้นและลุกลามได้อย่างรวดเร็วถ้าหาอาการเจอไม่ทันพรรณก็อาจจะเสียชีวิตได้จากการติดเชื้อหรือเซลล์มะเร็งลุกลามไปยังกระดูกและนั่นก็คือโอกาสที่จะเสียชีวิตสูงมากและรักษาไม่ได้แล้ว
แต่เพราะพระคุณพระเจ้า ทำให้คุณหมอสามารถเจอโรคนี้ได้อย่างรวดเร็วและรักษาได้ทันเวลา เพราะก่อนหน้านี้ พรรณตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ และไม่เคยเจออาการผิดปกติใดๆ อาการที่ทำให้ตรวจพบมะเร็ง เริ่มจากที่พรรณมีอาการท้องเสียลำไส้อักเสบ ซึ่งก็เหมือนเป็นอาการเจ็บป่วยทั่วๆ ไป จึงไปพบคุณหมอ ซึ่งคุณหมอก็เสนอให้ส่องกล้องตรวจลำไส้ ซึ่งหนึ่งในกระบวนการก่อนการส่องกล้องคือ ต้องเจาะเลือดไปตรวจหาค่าความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการพบความผิดปกติในค่าเม็ดเลือด คุณหมอจึงได้ส่งเรื่องต่อไปยังคุณหมอเฉพาะทางโรคเลือด เพื่อหาสาเหตุ จนในที่สุดพบว่าเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว จากการเจาะไขกระดูกไปตรวจนั่นเอง
ตลอดระยะเวลาที่ทำการรักษาอยู่นั้น พระเจ้าสถิตอยู่ด้วยกับพรรณ และครอบครัวเสมอ เริ่มต้นจากการตรวจพบในวันที่ 1 เมษายน 2561 วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ครอบครัวเราอยู่กันพร้อมหน้า พรรณบอกกับที่บ้านว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว คุณพ่อก็ได้ไลน์บอกกลุ่มคริสเตียนหลายๆ กลุ่มให้อธิษฐานเผื่อ และหลังจากนั้นอีก 2 วัน พรรณก็ได้ Admit เพื่อทำการรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นการรักษาในทันทีหลังจากทราบผลและพระเจ้าทรงอยู่ด้วยทำให้การรักษาได้ผลดีมาก
หลังจากการให้คีโมครั้งแรก เซลล์มะเร็งก็แทบหายไปหมด และเม็ดเลือดใหม่ที่สร้างขึ้นก็ไม่พบเซลล์มะเร็งอีกเลย หลังจากจบการรักษาใน Cycle แรก ได้มีการเจาะไขสันหลังเพื่อตรวจโรคอีกครั้ง ก็ไม่พบเซลล์มะเร็งอีกเลย และในระหว่างการให้คีโมเพื่อจะครบตามที่แพทย์สั่ง พระเจ้าก็ทรงอยู่ด้วยตลอดการรักษา จากการที่ไม่ได้แพ้คีโมมากเท่าไหร่ มีแค่อาการท้องเสีย กับเป็นไข้ และมีผื่น แพ้ยา แต่ไม่มีอาการแทรกซ้อน หรือการติดเชื้อใดๆ ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต เพราะผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวบางคนนั้นจะเสียชีวิตจากการติดเชื้อ เพราะร่างกายไม่มีเม็ดเลือดขาวที่คอยต่อสู้กับเชื้อโรค และสิ่งอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านั้นคือ พรรณไม่ต้องปลูกถ่ายไขกระดูก เพราะร่างกายสามารถผลิตเซลล์เม็ดเลือดปกติได้ด้วยตัวเอง การปลูกถ่ายไขกระดูกนั้นเป็นเรื่องซับซ้อนและยุ่งยากมาก เพราะจะต้องหาคนที่มี DNA Match กับเราโดยโอกาสนั้นมีน้อยและหายากมาก
เมื่ออยู่โรงพยาบาลเพื่อให้เคมีบำบัด และรักษาตัวจนครบกำหนดทั้ง 5 เดือนแล้ว พรรณก็ได้กลับบ้านเพื่อดูอาการอีก 1 เดือน ก่อนจะกลับไปทำงาน 1 เดือนนั้น พระเจ้าได้ฟื้นฟูร่างกายของพรรณได้อย่างรวดเร็วมาก จนสามารถกลับไปทำงาน และใช้ชีวิตได้เกือบเหมือนปกติในเดือนตุลาคม และทุกวันนี้ก็ยังต้องติดตามอาการของโรคอยู่อย่างสม่ำเสมอ ขอบคุณพระเจ้าที่ยังไม่พบอาการผิดปกติใดๆ ในร่างกาย
การป่วยครั้งนี้ พระเจ้าทรงมีพระประสงค์
พระเจ้าคงอยากให้เรารู้ว่า พระองค์อยู่กับเราในทุกสถานการณ์ และทำให้เราได้มั่นใจว่า เราจะสามารถผจญทุกสิ่งได้โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังของเรา พระเจ้าเปลี่ยนทัศนคติและความคิดหลายๆ อย่างจากการป่วยครั้งนี้ โดยสอนให้วางใจในพระเจ้ามากขึ้น และยอมรับรู้พระองค์ในทุกทาง เพราะพระองค์จะทำให้วิถีทางของเราราบรื่น ทำให้เราเห็นคุณค่าของครอบครัวและคนที่รักเราที่อยู่รอบๆ ตัวเรา ทำให้เราเห็นคุณค่าของชีวิตและวันเวลา เพื่อเราจะดำเนินชีวิตอย่างมีความหมาย
พระเจ้าผู้ทรงจัดเตรียม
พระเจ้าทรงจัดเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว สำหรับเราจริงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องของการรักษา พระเจ้าทรงจัดเตรียมทั้งเรื่องของการงาน และการเงินด้วย เพราะการรักษามะเร็งนั้นแพงมาก แต่พระคุณพระเจ้าก็ทำให้มีกำลังทรัพย์ที่เพียงพอต่อการรักษา มีประกันต่างๆ ที่ครอบคลุมและพอกับการรักษาโดยที่ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน รวมถึงเมื่อครบการรักษาแล้วก็ยังมีงานทำอยู่ โดยพระเจ้าทรงดีกับพรรณ ที่ทรงประทานเจ้านายที่ดี บริษัทที่น่ารัก ที่ยังให้ทำงานที่นี่อยู่ แม้ว่าช่วงที่เราป่วยรักษาตัวเราจะทำงานให้เขาไม่ได้ไปถึง 6 เดือนก็ตาม
เป้าหมายในชีวิต
หลังจากป่วยก็ทำให้เป้าหมายสูงสุดในชีวิตของเราเปลี่ยนไป เมื่อก่อนเคยคิดว่าเราต้องไขว่คว้า ก้าวไปข้างหน้า ชีวิตคือความท้าทาย เราต้องประสบความสำเร็จในชีวิตในหน้าที่การงานของเรา แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเป้าหมายตอนนี้คือเราต้องอยู่กับปัจจุบันและใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย ทั้งเรื่องของการให้ความรักกับคนในครอบครัวและคนรอบตัวเรา เราสามารถเรียนรู้เรื่องต่างๆ ในทุกๆ วัน และมีชีวิตที่มีความคิดเพื่อจะมีสันติสุขของพระคริสต์อยู่เสมอ และด้วยความเชื่ออย่างน้อยก็ขอมีชีวิตอยู่ต่อไปจนถึงอายุ 50 ปี ก็ดีใจมากแล้วค่ะ
พระคัมภีร์ที่ชอบเป็นพิเศษ
สุภาษิต 3:5-6 “จงวางใจในพระเจ้าด้วยสุดใจของเจ้า และอย่าพึ่งพาความรอบรู้ของตนเอง จงยอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเจ้า และพระองค์จะทรงทำให้วิถีของเจ้าราบรื่น”
ท้ายที่สุด
พระเจ้ามีแผนการณ์สำหรับท่าน แตกต่างกันออกไป และพระองค์จะประทานหนทางให้แก่ท่าน ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อทำให้ท่านได้เติบโตและเรียนรู้กับพระองค์เสมอ แม้หลายๆ อย่างคงไม่เป็นไปอย่างที่ใจต้องการ แต่เชื่อเถอะว่าท้ายที่สุดแล้ว พระองค์มีหนทางที่เหมาะสมกับเราเสมอ และทำให้เราเติบโตขึ้นและได้เรียนรู้จักกับพระองค์มากขึ้นค่ะ
- คุณชุติพรรณ อังคศุภรกุล