อีก 2 นาทีครึ่ง โลกจะพินาศ?
นาฬิกาแห่งหายนะ เป็นสัญลักษณ์ที่มนุษย์ใช้เป็นดัชนีบ่งชี้ความเป็นไปได้ที่ความพินาศจะเกิดแก่มวลมนุษย์ ด้วยน้ำมือของมนุษย์ โดยคณะทำงานที่คอยวิเคราะห์สถานการณ์การเกิดสงครามปรมาณูหรือนิวเคลียร์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 ได้แสดงให้เห็นถึงบรรยากาศของความเป็นไปได้ เมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีซึ่งอาจนำไปสู่อันตรายที่จะเกิดแก่มนุษยชาติ นาฬิกานี้เป็นตัวแทนการสันนิษฐานเหตุหายนะอันใหญ่หลวงที่จะเกิดขึ้น ขณะที่ “เข็มนาที” ของนาฬิกาเข้าใกล้ “เที่ยงคืน” โดยเริ่มต้นจากเจ็ดนาทีก่อนเที่ยงคืน นับตั้งแต่มีการตั้งนาฬิกานี้ขึ้นมา มีการตั้งเข็มถอยหลังและเดินหน้า 22 ครั้ง การเคลื่อนเข็มช้าที่สุดเข็ม 2 วินาทีในปี ค.ศ. 1953 และเดินหน้าเร็วที่สุด 17 วินาทีในปี ค.ศ. 1991
เมื่อเดือนมกราคม 2017 เข็มนาฬิกาอยูที่สองนาทีครึ่ง ก่อนถึงเที่ยงคืน เป็นเวลา 11.57 น. เมื่อประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ แสดงความคิดเห็นการใช้ระเบิดนิวเคลียร์กับประเทศเกาหลีเหนือ เกิดสงครามไซเบอร์กับรัสเซีย และการไม่สนใจสภาพการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ การหวนมาใช้ลัทธิชาตินิยม และความปลอดภัยของสังคมโลกที่เสื่อมถอยลง มีการตั้งเข็มใกล้เที่ยงคืนเป็นครั้งที่สองตั้งแต่มีการก่อตั้งมา นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า “หายนะของโลกพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด จึงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อลดความเสี่ยงต่อความพินาศอันใหญ่หลวงที่อาจเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้” เนื่องจากพบว่าปี 2017 อันตรายนี้เพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัวเหมือนที่เคยเกิดขึ้นใน ค.ศ. 1953 เมื่อสหรัฐเกือบประกาศสงครามนิวเคลียร์กับรัสเซีย
การพยากรณ์ เป็นสิ่งที่อยู่คู่สังคมมนุษย์มายาวนาน เมื่อสองพันปีที่แล้ว พระเยซูทรงตั้งนาฬิกาบอกเวลาหายนะของโลกไว้ เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับวาระสุดท้าย ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นนั้นอีกนานเท่าไร
- เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิศาสตร์ ทรงตรัสว่า “ทั้งจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ การกันดารอาหาร และโรคระบาดในที่ต่างๆ และจะเกิดความน่าสะพรึงกลัวและหมายสำคัญใหญ่ๆ จากฟ้าสวรรค์” (ลก. 21:11)
- ด้านลัทธิชาตินิยมและความมั่นคงของโลก ทรงตรัสว่า “ในเวลานั้นคนจำนวนมากจะถดถอยไปและจะทรยศกันและกัน ทั้งจะเกลียดชังกันและกันด้วย” (มธ. 24:10) “ท่านจะได้ยินเสียงสงครามและข่าวลือเรื่องสงคราม” (มธ. 24:6)
- ด้านสภาพจิตใจของประชาชนในสังคม “ความรักของคนจำนวนมากจะเยือกเย็นลงเพราะความอธรรมแผ่กว้างออกไป” (มธ. 24:12)
อย่าประมาทในการใช้ชีวิต อย่าคิดว่ายังอยู่ในช่วงเวลามาตรฐาน 9.30 (21.30) น. “เพราะฉะนั้นจงระวังในการดำเนินชีวิตให้ดี อย่าเหมือนคนไร้ปัญญา แต่ให้เหมือนคนมีปัญญา จงใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ เพราะว่าทุกวันนี้เป็นยุคสมัยที่ชั่วร้าย” (อฟ. 5:15-16) ขณะที่คนไม่เชื่อพระเจ้า “พวกเขากินและดื่ม สมรสกัน และยกให้เป็นสามีภรรยากัน” วางแผนโครงการใหญ่ (ลก. 17:27) กิจกรรมเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ทว่าเราควรปฏิบัติอย่างมีสติและระวังตัวเสมอ พระเยซูทรงเตือนว่า “จงระวังตัวให้ดี เกรงว่าใจของท่านจะเต็มล้นไปด้วยการเสเพล การเมาเหล้า และการห่วงกังวลถึงชีวิตนี้ แล้วเวลานั้นจะมาถึงท่านโดยไม่คาดฝัน เหมือนอย่างกับดัก เพราะว่าวันนั้นจะมาถึงทุกคนที่อยู่ทั่วพื้นแผ่นดินโลก แต่จงเฝ้าระวังอยู่ทุกเวลา จงอธิษฐานเพื่อพวกท่านจะมีกำลังรอดพ้นเหตุการณ์ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นนั้น และจะยืนอยู่ต่อหน้าบุตรมนุษย์ได้” (ลก. 21:34-36) เรายังต้องใช้ชีวิตประจำวันจนถึงวันที่พระเยซูเสด็จกลับมา แต่อย่าปล่อยให้ยุ่งเหยิงจนไม่มีเวลาเตรียมตัว เพื่อจะไม่พลาด “งานสมรส”
ในบางประเทศที่มักเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น พายุหมุน แผ่นดินไหว ฯลฯ ประชาชนเตรียมตัวพร้อมเสมอ มีการเก็บอาหารสำรองไว้ประจำในยามฉุกเฉิน ประเทศไทยเราไม่มีเหตุการณ์รุนแรง คนไทยจึงไม่ตระหนักถึงปัญหานี้ จึงไม่เก็บอาหารไว้ มีบทเรียนสำหรับคริสตชนไทย อย่าให้ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณเหมือนชีวิตที่ไม่มีเภทภัยธรรมชาติ ให้เราเตรียมสำรอง “น้ำมัน” ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้เต็มตะเกียงและสำรองไว้เผื่อฉุกเฉินเสมอ อย่าให้เหมือนหญิงพรหมจารีห้าคน (มธ. 25:1-13) อย่าคิดว่าเรายังอยู่ในช่วงเวลามาตรฐาน เพราะเมื่อเจ้าบ่าวมาถึง ห้าคนโง่ร้องขอเพื่อนคนฉลาด “ขอแบ่งน้ำมันของพวกท่านบ้าง เพราะตะเกียงของเราจวนจะดับอยู่แล้ว” หญิงอีกห้าคนที่สำรองน้ำมันตอบว่า “น่ากลัวน้ำมันจะไม่พอสำหรับเราและพวกท่าน จงไปหาคนขาย แล้วซื้อสำหรับตัวเองจะดีกว่า” เมื่อถึงเวลานั้นก็สายไปเสียแล้ว
มีวิธีไหนสำรอง “น้ำมัน” แห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์บ้าง? คำตอบอยู่ในพระธรรมอิสยาห์ 55:1-7
- “เอาใจใส่ฟังเรา… (พระเจ้า) (ข้อ 2) พระสุรเสียงของพระเจ้าดังมาจากพระวจนะของพระองค์ จงศึกษาพระธรรมอย่างสม่ำเสมอ อ่านเพียงวันละ 15 นาที จะมีผลต่อจิตวิญญาณอย่างมากมาย
- “มาหาเรา…(พระเจ้า)” (ข้อ 3) พระเยซูทรงสัญญาการหยุดพักจากบาปแก่บรรดาผู้เข้าไปหาพระองค์ (มธ. 11:28)
- “รับประทานของดี” (ข้อ 2) พระวจนะของพระเยซู เต็มล้นด้วย “พระวิญญาณและเป็นชีวิต” (ยน. 6:63) จึงต้องนำไปปฏิบัติใช้ในชีวิตทุกวัน เพื่อจิตวิญญาณและชีวิตนิรันดร์
- “จงแสวงหาพระยาห์เวห์ ขณะที่จะพบพระองค์ได้” (ข้อ 6) แสวงหาความสัมพันธ์กับพระเยซูอย่างเร่งด่วน เวลาที่ควรแสวงหาพระองค์คือขณะนี้ ก่อนวิกฤตเกิดขึ้น การเข้าหาพระเจ้าต้องเป็นสิ่งแรกในชีวิตที่กระทำทุกวัน ขณะที่จะพบพระองค์ได้ พระองค์จะทรงดูแลสิ่งจำเป็นในชีวิตของท่าน (มธ. 6:33)
- “จงทูลพระองค์ ขณะที่พระองค์ทรงอยู่ใกล้” (ข้อ 6) อธิษฐาน สนทนากับพระเจ้าสม่ำเสมอ อย่าตัดสัมพันธ์กับพระองค์ผู้ทรงเป็นมิตรผู้หวังดี ไม่ขาดการติดต่อ พระองค์ทรงอยู่ใกล้ท่านเสมอ เมื่อเรายุ่งกับงานมากเท่าใด ก็ยิ่งออกห่างจากพระองค์มากเท่านั้น สร้างนิสัยใส่ใจอธิษฐานเสียแต่บัดนี้ ขณะที่พระองค์ทรงอยู่ใกล้ เวลาเที่ยงคืนอาจสายเกินไปที่จะ “โทรหามิตร” ผู้หวังดีพระองค์นี้
- “ละทิ้งการอธรรมและการชั่ว” จากความคิดเสีย (ข้อ 7) ดำเนินชีวิตถูกต้องตามพระคัมภีร์ คู่มือชีวิตของเรา ให้จิตใจเต็มไปด้วยสิ่งที่สัจจริง ดีงาม ถูกต้อง บริสุทธิ์ น่ารัก น่ายกย่อง ดีเลิศและน่าสรรเสริญ (ฟป. 4:8)
- “กลับมายังพระยาห์เวห์” (ข้อ 7) หากท่านยังมีชีวิตอยู่กับเวลาของตนเอง จงตั้งเข็มนาฬิกาของท่านให้ตรงกับเวลาของพระเจ้า การกลับใจใหม่ หมายถึงการเปลี่ยนเส้นทางชีวิตใหม่ และมุ่งหน้าไปหาพระเจ้า แทนการมุ่งหน้าไปตามทางของตนเอง “จงกลับใจใหม่และรับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูคริสต์ให้หมดทุกคน เพื่อพระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของท่านทั้งหลาย แล้วพวกท่านจะได้รับของประทานคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ (น้ำมัน)” (กจ. 2:38-39) พระสัญญานี้เป็นของท่านและบุตรหลานทุกคน
.
บรรเทาความทุกข์ยากเพื่อนมนุษย์
การที่โลกกำลังมุ่งหน้าไปสู่วาระสุดท้าย ไม่ได้หมายความว่าเราจะหยุดไม่ใส่ใจคนที่ประสบความทุกข์ยาก จงสำแดงความรักของพระเจ้าออกให้คนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ สอนเยาวชนของเราให้รู้จักแบ่งปันแก่ผู้ขัดสน ช่วยเหลือคนที่แสวงหาความยุติธรรม “การแก้พันธนะอธรรม การแก้สายรัดของแอก การปลดปล่อยผู้ถูกบีบบังคับให้เป็นอิสระ” (ดู อสย. 58:6-12 มธ. 25:35-40) นี่คือการตั้งนาฬิกาของเราให้ตรงกับของพระเจ้า จงสำแดงความเป็นชาวสวรรค์ให้แก่ชาวโลกได้เห็น ใช้โอกาสนี้แบ่งปัน เล่าเรื่องราววาระสุดท้ายให้เขาได้ฟัง คนทั้งโลกต่างได้ยิน ได้เห็น ได้สัมผัสกับความเป็นไปในโลกยุคนี้ บอกให้เขารู้จัก “นาฬิกาหายนะ” บอกเขาให้รู้จักนาฬิกาของพระเยซู และนาฬิกาชีวิตของท่านด้วย บอกให้เขา “ควรจะรู้ว่านี่เป็นเวลาที่ควรตื่นจากหลับแล้ว…” (รม. 13:11)
ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นภายนอกคริสตจักร ให้เราวางใจเหมือนครอบครัวของโนอาห์ เมื่อเข้าไปในเรือใหญ่แล้วทุกคนไม่หวาดกลัวสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก พระเจ้าทรงรักษาความปลอดภัยให้แก่เรือของโนอาห์ท่ามกลางพายุฝน คลื่นที่ซัดรุนแรง เพราะบนเรือลำนั้นมีคนที่เชื่อฟังและซื่อสัตย์ต่อพระองค์ วางใจในการปกป้องชีวิตของพวกเขา ขณะที่ชาวโลกขณะนั้นหันหลังให้แก่พระยาห์เวห์ พวกเขาปฏิเสธไม่ทำตามพระประสงค์ของพระองค์ แต่ละคนใช้ชีวิตตามทางของตน ตามวิถีแห่งบาปของเขา ความชั่วร้ายเหล่านั้นเองที่เป็นสาเหตุการทำลายโลกของพระเจ้า
มนุษย์วันนี้กำลังทำตามความชั่วร้ายของยุคโนอาห์เช่นเดียวกัน เมื่อคริสตชนแบ่งปันข่าวดีการไถ่ของพระเยซู ชักชวนเขาให้รับเอาพระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด เขาอาจปฏิเสธไม่รับฟัง จงถือว่าท่านได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว
นาฬิกายังเดินไม่หยุด จงรีบตั้งนาฬิกาชีวิตของท่านให้ตรงกับของพระเจ้าเสียตั้งแต่ต้นปี….ขณะที่จะพบพระองค์ได้…ขณะที่ยังมีเวลา
- ศาสนาจารย์ ดร.สุรเชษฐ์ อินสม
- ภาพ Sebdeck – Freepik.com