เกมเศรษฐีที่รอวันเลิก 2/15

เกมเศรษฐีที่รอวันเลิก

ประมาณสองเดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่เด็กๆระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาปิดภาคเรียนผมมักเห็นเด็กๆ รวมตัวกันเป็นกลุ่มเล็กๆหลายกลุ่ม เล่นเกมบนสมาร์ทโฟน ด้วยความสงสัยก็เลยแอบไปยืนดูว่าเด็กๆ เล่นอะไรกัน เกมที่ผมเห็นบ่อยที่สุดก็คือ “เกมเศรษฐี” ซึ่งจะว่าไปแล้วผู้ใหญ่อย่างพวกเราก็คุ้นเคยดีอยู่แล้ว แต่ในอดีตเราเล่นเกมเศรษฐีบนกระดานกระดาษ ผมยังจําสมัยที่เล่นเกมเศรษฐีกับเพื่อนๆ ตอนที่ยังเด็กๆได้ว่าพวกเราจริงจังกันมาก ทั้งโกรธ ทั้งเคือง ทั้งงอน เวลาที่เราต้องเสียเงินกระดาษในมือของเราให้กับเพื่อนซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ แต่ไม่ว่าเราจะเล่นเกมเศรษฐีผ่านมือถือหรือเกมกระดาน สุดท้ายเราก็เลิกเล่นและทิ้งทุกอย่างไว้เป็นเพียงความทรงจําสีจางๆเงินที่สะสมในเกมก็ไร้ค่าไป จนกว่าเราจะเริ่มต้นเล่นมันใหม่อีกครั้ง

ครก ฮิล กล่าวไว้ในหนังสือของเขาชื่อ “Five Wealth secrets 96% of us don’t know.” ว่า หากเราให้เงิน 10,000 เหรียญสหรัฐเท่าๆ กัน(ประมาณสามแสนสามหมื่นบาทไทย) กับคน 100 คนภายในหนึ่งปีจะมีคน 80 คนที่ใช้เงินจนหมดเกลี้ยงซึ่งก็ตรงกับเรื่องจริงหลายเรื่องในประเทศไทยที่พบว่า ผู้ถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล ได้รับเงินหลายสิบล้านบาท กลับกลายเป็นคนล้มละลายหรือสิ้นเนื้อประดาตัวจนกลายเป็นขอทาน ในเวลาไม่ช้าไม่นาน นักปรัชญาพื้นบ้านบางคนบอกว่า ธนบัตรนั้นมีปีก มันพร้อมจะบินจากเราไปได้ทุกเมื่อ ดูเหมือนว่าเกมเศรษฐีจะมีอยู่ในชีวิตจริงของเราแต่ละคนด้วยเหมือนกัน เมื่อไม่นานมานี้ผมได้อ่านข่าว ดาราชายคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์ว่าหลังจากแต่งงานเขาก็มุ่งมั่นที่จะร่ํารวยให้ได้จนไม่มีเวลาให้กับครอบครัว ทุ่มเท  จนมากมาย สุดท้ายการงานของเขาก็ล้มไม่เป็นท่าหนําซ้ํายังต้องสูญเสียครอบครัวซึ่งเขาละเลยที่จะใส่ใจมาตลอดเวลาหลายปี โดยต้องหย่าร้างกับภรรยา และสูญเสียลูกน้อยเพราะตนเองไม่มีรายได้พอจะเลี้ยงดูลูกได้ คนหลายคนยังเชื่อว่า มีเงินมาก ก็มีความสุขมาก ยิ่งร่ํารวย ก็ยิ่งสนุกเราอาจปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินมีความสําคัญต่อชีวิตและเราก็ควรขยันขันแข็งทํามาหาเลี้ยงชีพเพื่อมีฐานะที่มั่นคงอย่างไรก็ดีชีวิตนี้ไม่ใช่เกมเศรษฐีที่เราจะมุ่งมั่นหาเฉพาะเงินทองเท่านั้น ชีวิตน่าจะมีจุดหมาย และเป้าหมายที่สําคัญกว่านั้นมิใช่หรือ

พระธรรมปัญญาจารย์ 11:8-10 กล่าวว่า“เออ ถ้าคนใดมีชีวิตอยู่ได้ตั้งหลายปี จงให้เขาเปรมปรีดิ์ตลอดปีเหล่านั้น แต่ให้เขาระลึกด้วยว่าวันมืดก็จะมีมาก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมานั้นก็อนิจจังโอ เยาวชน จงเปรมปรีดิ์ในวัยหนุ่มสาวของเจ้าและให้จิตใจของเจ้าทําตัวเจ้าให้ร่าเริงในวัยหนุ่มสาวของเจ้า เจ้าจงดําเนินชีวิตตามจิตใจของเจ้าและตามที่ตาของเจ้าเห็นควร แต่จงรู้เถิดว่าเพราะทุกอย่างเหล่านี้พระเจ้าจะทรงนําเจ้าเข้ามาถึงการพิพากษา จงขจัดความเศร้าหมองเสียจากใจของเจ้า และจงสลัดความเจ็บปวดเสียจากเนื้อหนังของเจ้า เพราะวัยหนุ่มสาวและวัยฉกรรจ์นั้นเป็นอนิจจัง” พระวจนะของพระเจ้าในพระธรรมตอนนี้ได้เตือนเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนที่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้มานานหลายสิบปีหรือเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาวถึงความจริงในชีวิตซึ่งน่าจะสะกิดใจให้เราก้าวเท้าหลุดมาจากวัฏจักรของการเล่นเกมเศรษฐี มาสู่การมีชีวิตอย่างมีจุดมุ่งหมายมากยิ่งขึ้นและนี่คือกุญแจสําคัญของการใช้ชีวิต 3 ประการ จากพระธรรมตอนนี้

ประการแรก
“ชีวิตในโลกนี้เป็นเรื่องชั่วคราว” พระคัมภีร์บอกกับเราว่า “ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมานั้นก็อนิจจัง” สิ่งที่ทําให้เราคร่ําเคร่งไปกับการหาเงินทองจนชีวิตเสียสมดุลนั้นสาเหตุหลักก็เป็นเพราะว่าเรามักไม่เข้าใจความจริงที่ว่าชีวิตของเรานั้นเป็นเพียงปราสาททรายที่ก่อขึ้นจนคลื่นทะเลซัดสาดปราสาทก็เหลือเพียงเม็ดทรายที่หายกลืนไปกับชายหาดเพราะการที่เราไม่ตระหนักความจริงข้อนี้ทําให้เราพยายามจะสร้างอนุสาวรีย์แห่งความสําเร็จในชีวิตเพื่อแข่งขันกันสิ่งปลูกสร้างอันยิ่งใหญ่อย่างพีระมิด หรือกําแพงเมืองจีน อาจเป็นสิ่งที่ถูกกล่าวขวัญขึ้นว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในโลกแต่สุดท้ายก็จะมีคนรุ่นหลังที่สร้างสิ่งก่อสร้างใหม่ที่สูงกว่า ใหญ่กว่าหรือยาวกว่าอนุสาวรีย์แห่งความสําเร็จที่เราเชื่อว่ามั่นคงถาวรก็เหลือเพียงร่องรอยทางประวัติศาสตร์เท่านั้น หากเรารู้จักนับวันเวลาในชีวิตของเราบ้างก็จะทําให้เราดําเนินชีวิตอย่างมีคุณค่ามากขึ้น

กุญแจสําคัญประการต่อมา
ก็คือ “สิ่งที่เราทําในชีวิตจะถูกพิพากษา” พระคัมภีร์กล่าวว่า “แต่จงรู้เถิดว่าเพราะทุกอย่างเหล่านี้พระเจ้าจะทรงนําเจ้าเข้ามาถึงการพิพากษา” ในการเล่นเกมเศรษฐีทั้งเกมกระดานและผ่านสมาร์ทโฟนผู้เล่นหลายคนต้องใช้ชั้นเชิง เล่ห์เหลี่ยมในการเล่น ตลอดจนจิตวิทยาเพื่อจะเป็นผู้ชนะ สิ่งเหล่านี้หลายครั้งก็ปลูกฝังให้เราเน้นผลลัพธ์โดยไม่คํานึงถึงวิธีการความมั่งคั่ง ร่ํารวย ไม่ใช่ความบาปโดยตัวของมันเองแต่การรักเงินทองทําทุกอย่างเพื่อจะได้มันมาโดยไม่สนวิธีการต่างหากที่เป็นความบาปความจริงของพระเจ้าในข้อนี้เตือนให้เรารู้ว่าทุกสิ่งที่เราทํานั้นถูกบันทึก และจดจําและวันหนึ่งเราต้องยืนต่อหน้าองค์ผู้พิพากษา คงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ที่ความสําเร็จในชีวิตที่สุดท้ายกลายเป็นหยากเยื่อต้องแลกมาด้วยโทษทัณฑ์จากการพิพากษาหากเราตระหนักถึงความจริงข้อนี้ย่อมทําให้เราใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ด้วยคุณธรรมที่ถูกต้อง และดีงามเราจะสอนลูกหลานของเราให้เป็นคนดีได้อย่างไรหากเราไม่มีความดีนั้นอยู่ในชีวิตของตนเองเลย

กุญแจสําคัญดอกสุดท้าย
ก็คือ “ชีวิตเป็นเรื่องน่ายินดี” แม้ชีวิตจะเป็นเรื่องชั่วคราวและสุดท้ายต้องรับการพิพากษา แต่ชีวิตก็ยังเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดี พระคัมภีร์กล่าวว่า “จงขจัดความเศร้าหมองเสียจากใจของเจ้า และจงสลัดความเจ็บปวดเสียจากเนื้อหนังของเจ้า เพราะวัยหนุ่มสาวและวัยฉกรรจ์นั้นเป็นอนิจจัง” ในมุมมองจากพระธรรมตอนนี้แม้ความสุขจะเป็นเรื่องชั่วคราวแต่ความทุกข์ทรมานเองก็เป็นเรื่องชั่วคราวด้วยเช่นกัน การสนุกสนานกับชีวิตไม่ใช่สิ่งที่ผิดเลย ตราบเท่าที่เรารู้ความสําคัญของช่วงชีวิตอันจํากัดและการดําเนินชีวิตอย่างถูกต้องเหมาะสมชีวิตเป็นเรื่องน่ายินดีมีหลายอย่างที่เราสามารถสนุกสนาน และบันเทิงโดยสิ่งเหล่านั้นสร้างสรรค์ และนําสิ่งดีไปยังผู้คนผมรู้สึกประทับใจหนุ่มสาวอเมริกันหลายคนที่เลือกมาเป็นมิชชันนารีทั้งระยะยาวและสั้นในประเทศโลกที่สาม ประเทศที่ยังขาดการพัฒนา ขาดอาหารขาดความสุข ผมได้ฟังว่าหลายคนตั้งใจทํางานเก็บสะสมเงินทองเพื่อให้ตัวเองสามารถเข้ามามีส่วนมีอิทธิพลในการพัฒนาชีวิตของผู้คนที่ขาดแคลนหนุ่มสาวหลายคนเป็นนักธุรกิจ และเขาก็หารายได้อย่างมั่งคั่งเสียด้วย แต่เขามีหัวใจที่สุขใจกับการนําเงินไปช่วยเหลือผู้คนและสนับสนุนคนที่มีใจอยากช่วยแต่ไร้ทุนทรัพย์เงินทองที่เขาหามาได้กลายเป็นอุปกรณ์ และกลายเป็นสะพานที่นําผู้คนที่ยากไร้ไปสู่ความสุข

ผู้อ่านที่รัก หากผมยังสนับสนุนให้ท่านสนุกกับการเล่นเกมเศรษฐีในเกมกระดาน และสมาร์ทโฟน ได้เป็นปกติ เพียงแต่ใช้สิ่งนี้เตือนใจเราสักนิดว่า เรากําลังเล่นเกมเศรษฐีในชีวิตจริงอยู่บ้างหรือไม่ เรายืนกําเงินกระดาษแน่นเกินไปหรือไม่เราหามามากราวกลับว่าสิ่งเหล่านี้จะติดตัวเราไปหลังความตายได้ การมีเงินมากไม่ใช่เรื่องผิดเลยและเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำหากท่านหามาได้ด้วยความสุจริต และใช้มันเพื่อผู้คน แต่ย้อนมองสักนิดว่าคนรอบๆ ข้างของท่านอยู่ที่ไหน ท่านกลับไปคุยกับครอบครัวครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ครั้งสุดท้ายที่ท่านอ่านนิทานให้ลูกฟัง ครั้งสุดท้ายที่หอมแก้มพวกเขานั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ครั้งสุดท้ายที่ทานข้าวร่วมกับคู่ชีวิตอย่างมีความสุข ยิ้ม หัวเราะนานกว่ากี่เดือนมาแล้วลืมครั้งสุดท้ายที่ไปกราบพ่อแม่ของตัวเองบ้างแล้วหรือยังหากท่านตอบคําถามเหล่านี้ไม่ได้ดีนัก ลองหยุดชีวิตที่รีบเร่งนี้ดูสักครู่พิจารณาดูว่าท่านกําลังเล่นเกมเศรษฐีอยู่หรือไม่เงินเหล่านี้ที่ท่านสะสมจะไม่ติดตามตัวท่านไปสุดท้ายมันจะเป็นมรดกสําหรับใครสักคน และสิ่งนั้นน่ากลัวนักหากคนๆ หนึ่งมีเงินทองมากมาย โดยไม่เคยได้รับการสอนและความรักจากคนที่ให้เงินเขาเลยพระธรรมปัญญาจารย์ 2:21 ก็เคยกล่าวเตือนไว้ว่า“เพราะว่ามีคนที่ตรากตรําโดยใช้สติปัญญา ความรู้และความชํานาญ แต่แล้วก็ละส่วนแบ่งของเขาให้อีกคนหนึ่งที่หาได้ตรากตรําทําเพื่อการนั้นไม่ นี่ก็อนิจจังด้วยและสามานย์ยิ่ง” ข่าวมรดกเลือด หนี้เลือด ที่เราเคยอ่านในหน้าหนังสือพิมพ์เราอยากให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวเราจริงๆ หรือ

สุดท้ายนี้ผมขอพระเจ้าอวยพรผู้อ่านทุกท่านขยันขันแข็ง หาความมั่นคงในชีวิตโดยตระหนักว่าชีวิตนี้เป็นเพียงชั่วคราวและเราทุกคนต่างต้องรับการพิพากษาเมื่อจากโลกนี้ไปแต่ก็จงใช้ชีวิตให้สนุกสนานและชื่นใจที่ทรัพย์ของท่านจะมอบความสุขให้กับผู้อื่นพร้อมกับความรักขอพระเจ้าอวยพรครับ

  • อาจารย์วิทยา วุฒิไกรเกรียง
  • ภาพ www.techxcite.com