ไอ เอ็ม เอฟ (I.M.F)

ไอ เอ็ม เอฟ (I.M.F)

ในยุคนี้คงไม่มีคนไทยคนใดที่อ่านออกเขียนได้และติดตามข่าวบ้านเมืองอยู่เสมอจะไม่รู้จักคำว่า

“ไอ เอ็ม เอฟ”!

คำว่า “ไอเอ็มเอฟ” (IMF) คำนี้เป็นคำย่อของคำภาษาอังกฤษ ว่า “International Monetary Fund” หรือ “กองทุนการเงินระหว่างประเทศ”

IMF เป็น “องค์การกองทุนระหว่างประเทศที่มีจุดประสงค์ในการส่งเสริมเสถียรภาพของเงินตราของโลก และผดุงไว้ซึ่งกองทุนระหว่างประเทศสำหรับให้สมาชิกยืมใช้ เป็นองค์การหนึ่งของสหประชาชาติ”1 ก่อตั้งขึ้นพร้อมกับธนาคารโลก ในปี 1944 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงเพียง 1 ปี โดยมีจุดประสงค์ให้เป็นองค์กรจัดระเบียบเศรษฐกิจโลกในเวลานั้น2

ปัจจุบัน IMF นี้มีสมาชิก 181 ชาติ มีฐานกองทุน 200,000 ล้านดอลลาร์ โดยมีสหรัฐอเมริกาจุนเจือมากที่สุด 18 % (ราว 36,000 ล้านบาท),เยอรมันกับญี่ปุ่น รายละ 5.7 %  อังกฤษและฝรั่งเศส รายละ 5.1 % ส่วน

ซาอุดิอาระเบียให้ 3.5 %

สหรัฐฯ ก็เคยกู้ ไอเอ็มเอฟนี้ในระหว่างปี 1963-1964 รวม 600 ล้านดอลลาร์ จนเศรษฐกิจฟื้นตัวเป็นยักษ์ใหญ่อยู่จนทุกวันนี้

เม็กซิโกก็รอดพ้นจากหายนะเพราะเงินกองทุนนี้ รวม 18,000 ล้านดอลลาร์ และรัสเซียก็เคยใช้บริการกู้เงิน ราว 10,000 ล้านดอลลาร์  และปัจจุบันก็ยังกลับมาใช้บริการอีก จนมีเรื่องครหากันอยู่ทุกวันนี้ว่า เอาเงิน IMF ไปฟอกในธนาคารที่สหรัฐ!

ในช่วงเริ่มต้นของวิกฤติเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียนี้  ทั้ง เกาหลี, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และไทย ต่างก็แย่งกันขอความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟ ไปหลายหมื่นล้านเหรียญ

ไอเอ็มเอฟมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงวอชิงตัน ใกล้ๆ ทำเนียบขาว มีขนาดเล็กเพียง 1 ใน 5 ของธนาคารโลก (World Bank) มีทีมงานมืออาชีพราว 1,100 คน รวมทั้งนักเศรษฐศาสตร์ 759 คน และคณะกรรมการบริหาร 24 คน!

ในขณะที่โลกทั้งโลกกำลังรอดูว่า ไอเอ็มเอฟ (IMF) นี้จะเป็นอัศวินม้าขาวมาช่วยกู้เศรษฐกิจของประเทศในเอเซียเหล่านี้ให้รอดพ้นความหายนะได้หรือไม่?

คนในโลกจำนวนไม่น้อยกลับไม่ได้ตระหนักว่า แท้จริงพวกเขานั้นก็ยังต้องการความช่วยเหลือในด้านอื่นที่สำคัญยิ่งกว่าด้านเศรษฐกิจเสียอีก นั่นคือ ความช่วยเหลือด้านจิตวิญญาณ! เพราะจิตวิญญาณของคนในยุคปัจจุบันนี้กำลังล้มละลายและสิ้นหวัง!

ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล เรียกยุคนี้ว่ากลียุคโดยพรรณนาว่า ยุคนี้มนุษย์จะเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน เย่อหยิ่ง ยโส ชอบด่าว่า ไม่เชื่อฟังคำบิดามารดา อกตัญญู ไร้ศีลธรรม ไร้มนุษยธรรม ไม่ให้อภัยกัน ใส่ร้ายกัน ไม่ยับยั้งชั่งใจ ดุร้าย เกลียดชังความดี   ทรยศ มุทะลุ หัวสูง รักความสนุกยิ่งกว่ารักพระเจ้า ถือศาสนาแต่เปลือกนอก ส่วนแก่นแท้ของศาสนาเขาไม่ยอมรับ!3

นับว่า เป็นยุคที่คนเป็นอมนุษย์มากขึ้น!

มีทั้งปิตุฆาต, มาตุฆาต รวมทั้งข่มขืนและฆ่าลูก  ๆ ของตัวเองปรากฏให้เห็นเป็นข่าวตามหน้า 1 ของ

หนังสือพิมพ์อยู่เสมอ!

การฆาตกรรมในสมัยนี้ก็อำมหิตเหี้ยมโหดผิดมนุษย์! อย่าให้บรรยายเลยครับ อยากจะอาเจียน!

แต่ในท่ามกลางความสิ้นหวังที่กำลังเพิ่มทวีขึ้นเรื่อย ๆ ในสังคม

ในพระคัมภีร์ไบเบิลได้หนุนใจว่า ยังมี IMF ฝ่ายวิญญาณที่ช่วยเหลือสังคมและจิตวิญญาณของเราได้!

นั่นคือ พระเป็นเจ้า ผู้ทรงสร้างมนุษย์ และโลกนี้!

พระองค์มีพระนามหลายพระนาม แต่อย่างน้อยมี 3 พระนามที่ปรากฎในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล  มีชื่อว่า “I.M.F” นั่นคือ

Immanuel (พระเจ้าทรงสถิตกับเรา) 4

Mighty God (พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์)

Father of Eternity (พระบิดานิรันดร์) 5

 

จึงไม่น่าแปลก ที่พระเป็นเจ้าผู้ทรงรักมวลมนุษย์ จะถูกเรียกขานว่า ทรงเป็น “IMF ฝ่ายวิญญาณ” ที่สามารถช่วยมนุษย์และสังคม ไม่ให้ล้มละลายทางศีลธรรม!

ข่าวดี ก็คือว่า เราก็มีสิทธิ์ขอรับการช่วยเหลือจาก “IMF แห่งสวรรค์” เหมือนกัน!

เพียงแต่ว่า เราจะใช้สิทธิ์นั้นหรือไม่  แค่นั้นเอง!


  1. A New English-Thai Dictionary, ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม
  2. ไทยรัฐ, 18 ธ.ค.2540, 3. 2ทิโมธี 3:1-5
  3. อสย.7:14;มธ.1:23
  4. อสย.9:6

  • บทความ ศาสนาจารย์ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
  • ภาพ Freepik.com