Social network และยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า
สังคมโลกในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตไม่ได้เป็นเพียงช่องทางการสื่อสารหนึ่งที่สำาคัญเท่านั้น แต่สำหรับคนจำนวนมากอินเทอร์เน็ตกลายเป็นเรื่องจำเป็นที่พวกเขาขาดไม่ได้เลย ข่าวการฆ่าตัวตายผ่านเฟซบุ๊คของหลินสาวไต้หวันวัย 31 ปี (www.gmlive.com) หรือการปลิดชีพตนเองของ ฮวน อัลแดร์ หนุ่มเสปนวัย 37 ปีผ่านโซเชียล เน็ตเวิร์ค (เดลินิวส์, 2555) สะท้อนให้เห็นว่ามีบางสิ่งกระตุ้นความคิดทางลบของผู้คนในสังคมออนไลน์ จนเราไม่อาจเพิกเฉยรอให้อันตรายนี้ก้าวเข้ามาในสังคมของเราได้อีกต่อไปโซเชียล เน็ตเวิร์ค
ซึ่งผมมักอธิบายแก่นักศึกษาของผมว่าคือสังคมในโลกสมมติ เพราะหาความจริงได้ยากในโลกอินเทอร์เน็ตที่ไร้ซึ่งการ กลั่นกรองข้อมูล ความคิดชั่วแล่นของเด็กสาวที่หลงเคลิ้มในข้อความหวาน ๆ ของชายหนุ่มในโลกออนไลน์ ล่อให้เด็กสาวตกเป็นเหยื่อเป็นจำนวนมาก ที่ซ้ำร้ายคือข่าวที่ยืนยันว่ามีบางคนต้องทำร้ายตัวเอง หรือหนีหน้าไปจากสังคม เพราะถูกข่าวลือในโลกไซเบอร์โจมตีอย่างไร้ทางตอบโต้ ที่หนักที่สุดก็คงเป็นค่านิยมแปลก ๆ ที่เข้ามาสิงสถิตในความคิดของคนกลุ่มใหญ่ที่สามารถสร้างความเกลียดชังถึงขนาดทำร้ายถึงชีวิตได้ เพียงเพราะเฝ้าอ่านข้อมูลด้านเดียวในโลกออนไลน์ ผู้อ่านหลายคนอาจตั้งคำถามว่าจิตใจของมนุษย์เปราะบางถึงขนาดนี้หรือ ท่านอาจเข้าใจได้ยากหากไม่ได้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในสังคมสมมตินี้ มีท่อนหนึ่งของเนื้อเพลง “เปราะบาง” ของ วงบอดี้ แสลมป์ ร้องว่า “ทำไมแค่ลมเพียงแผ่วเบา ยังทำให้เหน็บหนาว แค่เพียงแผ่นฟ้าที่ว่างเปล่ายังทำให้มีน้ำตา ทำไมมันช่างเปราะบางเหลือเกิน อ่อนแอจนเกินจะเข้าใจ” ในวันที่จิตใจไร้ซึ่งความเข้มแข็ง แม้เพียงสายตาที่ดูไม่ใส่ใจก็เพียงพอให้ใครสักคนตัดสินใจลาจากโลกที่โหดร้ายในความคิดของเขาได้ผมมีความเชื่อส่วนตัวว่าความเลวร้ายในสังคมออนไลน์ประการหนึ่งมาจากอุบายของมารร้าย ซึ่งพระธรรมเอเฟซัสบทที่ 6 ได้กล่าวเตือนผู้ที่เชื่อและวางใจในพระเจ้าว่า ให้เราตระหนักว่าเรากำลังอยู่ในภาวะสงคราม ดังนั้นจงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า ผมขอเสนอทางป้องกันซึ่งทำให้เราสามารถต่อต้านและเอาชนะความคิดด้านลบที่เข้ามาผ่านสังคมออนไลน์นี้ด้วยหลัก “ชุดนักรบ 6 ชิ้น และ 1 พลัง” เพื่อผู้อ่านทุกท่านจะสามารถเป็นนักรบที่เอาชนะในสมรภูมิครั้งนี้ได้
ชุดนักรบชิ้นแรก
“เอาความจริงคาดเอว” (เอเฟซัส 6:14) ผู้ชายน่าจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ดี โดยเฉพาะผู้ชายที่น้ำหนักมาก ๆ จะเข้าใจดีว่ารู้สึกอย่างไร ยามที่ต้องใส่กางเกงที่ไม่มีเข็มขัด ความจริงทำให้นักรบมีความมั่นใจ นอกจากนี้เข็มขัดของนักรบยังประกอบไปด้วยเกราะที่กำบังต้นขา ทำให้เราไม่ล้มลงง่าย ๆ แล้วความจริงที่เราจะนำมาคาดเอวคืออะไร ในพระธรรมยอห์น 14:6 กล่าวว่า “พระเยซูตรัสกับเขาว่า“เรา เป็นทางนั้นเป็นความจริงและเป็นชีวิต..” พระเยซูคือความจริงที่ท่านต้องยึดไว้ การต้อนรับพระเยซูคริสต์ในชีวิต และตระหนักอยู่เสมอว่าพระองค์มีชีวิตอยู่ในเรา เปรียบเสมือนการ register เข้าสู่ระบบออนไลน์ที่มีพื้นฐานตั้งอยู่บนศิลาแห่งความจริงคือองค์พระคริสต์
ชุดนักรบชิ้นที่สอง
“เอาความชอบธรรมเป็นเกราะป้องกันอก” (เอเฟซัส 6:14) หน้าอกของนักรบคือจุดตายสำคัญ เกราะป้องกันอกป้องกันส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือหัวใจ ในพระธรรมทิตัส 3:7 กล่าวว่า “เพื่อว่าเมื่อเราถูกชำระให้ชอบธรรมโดยพระคุณของพระองค์ แล้วก็จะได้เป็นผู้รับมรดกตามที่หวังไว้คือชีวิตนิรันดร์” สิ่งที่ป้องกันจุดตายของเราก็คือ Status ถาวรที่พระเจ้าทรงประทานให้กับผู้เชื่อทุกคน เราเป็นคนชอบธรรม และไม่ว่าเราจะมีความคิดด้านลบจนเปลี่ยน Status ในโลกออนไลน์ไปต่าง ๆ นานา ตามความรู้สึก และคำบ่นของเราแต่ก็ไม่อาจลบล้าง Status แท้จากพระเจ้าได้ว่า ท่านทั้งหลายคือผู้ชอบธรรม
ชุดนักรบชิ้นที่สาม
“ เอาความพรั่งพร้อมในการประกาศข่าวประเสริฐแห่งสันติสุขมาสวม เป็นรองเท้า” (เอเฟซัส 6:15) หากท่านเป็นนักประกาศข่าวดี ชีวิตของเราก็จะเต็มล้นด้วยสันติสุข รองเท้าของนักรบคือสิ่งที่ทำให้เราไม่ต้องคอยพะวงกับพื้นผิวและทางเดินที่ขรุขระ หรือมีหนามแหลมคมเราสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมพบว่าในเวลาที่เราประกาศข่าวประเสริฐนั้น ผมไม่สามารถมีความคิดในทางลบเกี่ยวกับตัวเองได้มากนัก เพราะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะสามารถสื่อสารกับผู้คนในเรื่องราวของพระเจ้าได้ หรือคิดว่าเราต้องให้ความช่วยเหลืออะไรเขาบ้าง ทำให้มองข้ามความทุกข์จอมปลอมของตัวเอง การอยู่เพื่อทำอะไรบางอย่างทำให้ไม่จดจ่อที่ความต้องการของตัวเองมากเกินไปรองเท้าแห่งข่าวดีจึงเปรียบเสมือนการ Change Cover ในโลกออนไลน์ ที่เปลี่ยนวิสัยทัศน์ใหม่ให้กับเรา
ชุดนักรบชิ้นที่สี่
“จงเอาความเชื่อเป็นโล่” (เอเฟซัส 6:16) ความเชื่อเป็นโล่ที่สามารถดับลูกศรเพลิงของพญามารซาตานได้ ถ้าท่านเคยชมภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโบราณ ท่านจะเห็นว่าโล่ถูกใช้ป้องกันการโจมตีระยะไกล และการโจมตีระยะใกล้ที่คาดไม่ถึง ทุกวันนี้มีเรื่องที่คาดไม่ถึงในชีวิตมากมาย บางเรื่องก็นับว่าเป็นวิกฤติ ในยามที่เราต้องการหาคำตอบให้กับชีวิต Comment จากเพื่อนสมมติในโลกออนไลน์สามารถเป็นได้ทั้งน้ำทิพย์และยาพิษได้ในเวลาเดียวกัน พระเจ้าบอกไว้ว่าคนชอบธรรมนั้นจะดำรงชีวิตได้ด้วยความเชื่อ ความเชื่อจึงเปรียบเสมือน COMMENT จากองค์พระผู้เป็นเจ้าถึงเราโดยตรง สิ่งที่พระองค์ประทานนั้นเป็นน้ำแห่งชีวิตที่จะดับทุกความกระหาย และคำถามคาใจทุกอย่างของเราได้
ชุดนักรบชิ้นที่ห้า
“จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ” (เอเฟซัส 6:17) หมวกเหล็กคือเกราะสำคัญที่ป้องกันอีกหนึ่งจุดตายในชีวิตคริสเตียน ผมเองเคยมีประสบการณ์มอเตอร์ไซด์ล้มหนัก ๆ มาสองครั้ง ที่รอดชีวิตมาได้เป็นเพราะหมวกกันน็อกที่ช่วยชีวิต และทุกวันนี้ผมยังเก็บหมวดทั้งสองใบเอาไว้เตือนสติตัวเองอยู่เสมอ การโจมตีทางความคิดนับเป็นการโจมตีที่แยบยลที่สุดของมารร้าย ที่มีจุดมุ่งหมายเอาชีวิตของเรา เหมือนอย่างที่อาดัมและเอวาเองก็เคยถูกล่อลวงให้ละเมิดต่อการเชื่อฟังที่มีต่อองค์พระผู้เป็นเจ้ามาแล้ว หมวกเหล็กจึงเปรียบเสมือน Time Line ที่ทำให้เราระลึกและนับพระพรได้ว่าเรารอดได้เพราะพระคุณ ความสงสัยในความรอดคือสิ่งอันตรายที่สุดประการหนึ่ง ดังนั้นถ้าเราสงสัยขึ้นมาเมื่อใด อย่าลืมย้อนกลับไปนับพระพรในชีวิตที่ผ่านมาของท่านด้วย
ชุดนักรบชิ้นสุดท้าย
“จงถือพระแสงของพระวิญญาณคือพระวจนะของพระเจ้า” (เอเฟซัส 6:17) พระแสงของพระวิญญาณก็คือสิ่งที่สามารถตอบโต้การโจมตีฝ่ายวิญญาณได้ รากศัพท์ของคำนี้คือ machaira ซึ่งเป็นเหมือนกริชสั้น ๆ เป็นอาวุธที่ใช้ต่อสู้ในระยะประชิด ซึ่งเป็นการเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ ดังนั้นเมื่อเราสะสมพระวจนะของพระเจ้าจนกลายเป็นคลังในความคิด และอยู่ในชีวิตของเราแล้ว เราก็จะสามารถต่อต้านกับอุบายของมารร้ายดังที่มันเล่นงานพระเยซูในถิ่นทุรกันดารได้ด้วยเช่นกัน มีพระธรรมข้อหนึ่งซึ่งผมได้รับการหนุนใจอย่างมากและช่วยผมไว้หลายครั้งก็คือ พระธรรมโรม 8:39 “หรือ ซึ่งสูงหรือซึ่งลึกหรือสิ่งใดๆ อื่นที่ได้ทรงสร้างแล้วนั้นจะไม่สามารถทำ ให้เราขาดจากความรักของพระเจ้าซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระ ผู้เป็นเจ้าของเราได้” พระวจนะของพระเจ้าทุกตอนรอเราทุกคนกด Like เพื่อเป็นประโยชน์แก่เราในการสั่งสอน ตักเตือน ว่ากล่าว ปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี และอบรมในทางธรรม แล้วพวกเราจะพรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกประการ
พลังสำคัญชิ้นสุดท้าย
“จงอธิษฐานในพระวิญญาณทุกเวลา” (เอเฟซัส 6:18) ผมมีความเชื่อว่าพลังการอธิษฐานเป็นเสมือนลูกกระสุนปืนใหญ่ฝ่ายจิตวิญยาณที่จะช่วยทำลายศัตรูอย่างราบคาบ พระวจนะตอนนี้หนุนใจเราให้อธิษฐานทุกเวลา ซึ่งหมายถึงให้เรามีสัมพันธ์กับพระเจ้าอยู่เสมอ พูดคุยกับระองค์ในทุกๆเรื่อง เพื่อเราจะเข้าใจว่าเราจะสามารถ In a Relataionship (แบบในเฟซบุ๊ค) กับพระเจ้าเป็นคนแรกในทุกๆวันคืน เป็นคนแรกที่เรานึกถึงเสมอไม่ว่าเมื่อใด ผู้อ่านที่รัก เราอาจไม่สามารถปฏิเสธการเข้ามาของโซเชียล เน็ตเวิร์ค สังคมสมมตินี้ได้ แต่เราสามารถยืนยัดและใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องกังวลถึงผลเสียที่จะตามมา หากเราทุกคนใส่ยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าอย่างครบครันกันทุกคน ในสโลแกนของการจราจรบอกไว้ว่า”เปิดไฟ ใส่หมวก” แต่พวกเราทุกคนอย่าลืม “เปิดเน็ต สวมชุดเกราะให้ครบ” ทุกท่านนะครับ ขอพระเจ้าอวยพร
- อ.วิทยา วุฒิไกรเกรียง
- ภาพ Rawpixel.com – Freepik.com