ด.ช.ณัชพล นามรส (โครงการ TH -17)
(หนึ่งในสมาชิกของทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันซูเปอร์จิ๋วเจาะโลกพระคัมภีร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 ปีซ้อน)
สวัสดีครับ ศจ.ดร.เสรี หล่อกันภัย ผมดีใจมากครับที่ได้มีโอกาสเป็นพยานเรื่องการแข่งขันพระคัมภีร์ ผมได้เข้าร่วมการแข่งขันมาแล้ว 5 ปี คือ ตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งเป็นปีแรกที่ผมเข้าร่วมแข่งขัน เวลานั้นผมเรียนอยู่ชั้น ป.4 แต่ตอนนี้ผมเรียนอยู่ชั้น ม. 2 แล้วครับ การแข่งขันพระคัมภีร์สำหรับผมแล้ว ไม่ใช่ว่าจะแข่งเพื่อเอารางวัลเพียงอย่างเดียว
แต่ผมแข่งเพื่อจะได้รู้ว่าพระคัมภีร์ที่ผมอ่านนั้นผมมีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน มีความสำคัญและมีความหมายต่อชีวิตผมอย่างไร
ก่อนที่ผมจะไปแข่งประมาณ 3 เดือนนี่แหละครับ อ.ไพทูล ศรีมุงคุณ ซึ่งเป็นผู้ดูแลพวกเราก็จะมาบอกพวกเราว่าจะใช้พระธรรมเล่มไหนแข่งขัน อย่างเช่นในปีนี้ อ.ไพทูล บอกว่าจะใช้พระธรรมกันดารวิถีแข่งขัน เมื่อผมได้ฟังดังนั้นแล้ว พอกลับไปถึงบ้าน ผมก็เริ่มอ่านพระคัมภีร์เลยครับ ในวันที่ผมต้องไปโรงเรียนผมก็จะหาเวลาว่างอ่านครับ และเวลาที่โรงเรียนเลิกแล้วขณะที่นั่งรอรถจะมารับกลับบ้าน ผมก็เอาพระคัมภีร์ขึ้นมาอ่านครับ เพียงอาทิตย์เดียวเท่านั้น ผมก็อ่านพระธรรมกันดารวิถีจบในรอบแรกและก็เริ่มรู้เรื่องราวคร่าวๆในพระธรรมกันดารวิถีแล้วครับ ต่อมาผมก็เริ่มอ่านรอบที่ 2 ในครั้งนี้ ผมได้มีการจดบันทึกสิ่งที่สำคัญไว้ด้วยครับ เมื่อถึงตอนไหนที่ผมไม่เข้าใจ ผมก็จะจดบันทึกไว้เพื่อไปถามอ.ไพทูล ที่โบสถ์ครับ พอถึงประมาณเดือนตุลาคม อ.ไพทูลก็ได้เอาพระธรรมกันดารวิถีที่จะใช้แข่งขันจริงมาให้กับพวกเราได้อ่าน พอถึงตอนนี้ ผมก็จะอ่านเพื่อเปรียบเทียบกับเล่มสากลที่มีใช้กันอยู่โดยทั่วไปครับว่า มีคำไหนเปลี่ยนไปบ้าง และผมก็พบว่ามีหลายคำที่ใช้คำไม่ตรงกันแต่ก็มีความหมายเหมือนกันครับ ยิ่งกว่านั้น เวลาที่ผมอ่าน ผมก็จะนึกภาพตามไปด้วยครับ เช่น การตั้งค่ายของชาวอิสราเอลว่าเผ่าไหนตั้งค่ายอยู่ตรงไหนก็นึกภาพตามไปด้วย การทำเช่นนี้จะทำให้เราเข้าใจถึงเหตุการณ์หรือเรื่องราวนั้นๆได้มากยิ่งขึ้นครับ และที่สำคัญ ก่อนที่ผมจะอ่านพระคัมภีร์ทุกครั้ง ผมจะอธิษฐานกับพระเจ้าก่อนเพื่อขอความเข้าใจจากพระเจ้าครับ ผมคิดอยู่เสมอว่าการที่ผมได้รับรางวัลชนะเลิศนั้นไม่ใช่เพราะว่าผมเก่ง แต่เป็นเพราะพระเจ้าทรงเป็นผู้อำนวยพระพรในสติปัญญาตามที่ได้ขอจากพระองค์ครับ ก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นอีกประมาณ 1- 2 เดือน อ.ไพทูล จะนัดพวกเรามาติวความรู้ความเข้าใจในพระคัมภีร์ที่ได้ให้พวกเราไปอ่านมา ด้วยการทดสอบตั้งคำถามให้พวกเราตอบบางทีเป็นข้อเขียน บางทีก็เป็นการตอบปากเปล่าครับ โดยจะใช้เวลาหลังเลิกจากโรงเรียนสัปดาห์ละ 2ครั้ง พอจะใกล้วันแข่ง ก็จะนัดติวถี่ขึ้น จนวันสุดท้ายก่อนถึงวันแข่งขัน ก็จะติวโดยสรุปเรื่องราวทั้งหมดและพาพวกเราอธิษฐานกับพระเจ้าครับ ในวันแข่งขันก่อนที่จะเริ่มทำช้อสอบ ผมได้อธิษฐานกับพระเจ้าว่า โปรดเจิมวิญญาณของลูก โปรดเป็นคำตอบในหัวใจของลูก ขอพระองค์ทรงเป็นสติปัญญาและความจดจำตามที่ลูกได้อ่านมานั้นด้วย นี่เป็นคำอธิษฐานของผมที่ทูลขอต่อพระเจ้าครับ การแข่งขันในวันนั้นผมไม่ได้เคร่งเครียดอะไรมากมาย ผมทำข้อสอบแบบสบายๆ ทำเสร็จชุดไหนก็ขอบคุณพระเจ้าและร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าเบาๆไปด้วยครับ
พระพรหรือสิ่งที่ผมได้รับในการแข่งขันพระคัมภีร์ในครั้งนี้คือ พระเจ้าฝึกฝนผมในเรื่องการมีระเบียบวินัย การจัดแบ่งเวลาอย่างเหมาะสม ทำให้ผมมีความขยัน และผลการเรียนของผมก็ดีขึ้นมาก เหนือสิ่งอื่นใดคือบางครั้งผมอ่านพระคัมภีร์ไปก็คิดถึงความรักของพระเจ้าไปด้วยทำให้ผมแทบน้ำตาไหล พระเจ้าทำการอัศจรรย์และประทานความรักให้กับชนชาติอิสราเอลหลายต่อหลายครั้ง ผมก็เชื่อว่า พระเจ้าก็ประทานความรักและกระทำสิ่งมหัศจรรย์ในชีวิตของผมด้วย ข้อคิดที่ผมยึดมั่นอยู่เสมอคือ “ความสำเร็จใหญ่โตใดๆจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าขาดความกระตือรือร้นที่มาโดยพระเจ้า”
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
- ด.ช.ณัชพล นามรส