คุณรู้หรือไม่ พระคัมภีร์มองสงครามว่าอย่างไร 10/24

คุณรู้หรือไม่ พระคัมภีร์มองสงครามว่าอย่างไร

แม้คนในปัจจุบันจะเห็นตรงกันว่า สงครามนำมาซึ่งความสูญเสียอันใหญ่หลวงทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน และไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น เราก็ยังคงได้ยินข่าวเรื่องสงครามหรือการสู้รบในที่ต่างๆ อยู่เสมอ พระคัมภีร์กล่าวถึงเรื่องการทำสงครามไว้ว่าอย่างไร คริสเตียนควรจะสนับสนุนหรือมีส่วนร่วมในการต่อต้านความอยุติธรรมหรือไม่ หรือควรจะอยู่นิ่งเฉยอย่างสันติ

คำว่า “สงคราม” ในภาษาฮีบรู คือ (มิลฆามาห์) ปรากฏ 319 ครั้งในพันธสัญญาเดิม และในภาษากรีก คือ (พอเลมอส) ปรากฏ 18 ครั้งในพันธสัญญาใหม่ นอกจากนี้ ยังมีคำอื่นๆ ที่มีความหมายเกี่ยวข้องอีก จะเห็นได้ว่าพระคัมภีร์ได้กล่าวถึงเรื่องสงครามอยู่ไม่น้อย และบางครั้ง พระเจ้าเองก็บัญชาให้คนของพระองค์ทำสงครามด้วย ดังปรากฏในหลายเหตุการณ์ในพันธสัญญาเดิม สิ่งนี้ท้าทายมุมมองด้านมนุษยธรรมของผู้อ่านหลายคนในปัจจุบัน เพื่อที่จะเข้าใจหลักการเรื่องนี้อย่างถูกต้องอันจะนำไปสู่การประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม เราจำเป็นต้องเข้าใจบริบทของเหตุการณ์เหล่านั้น

ตั้งแต่โบราณกาล มนุษย์ทำสงครามกันเพื่อแย่งชิงดินแดนและทรัพยากรเพื่อการอยู่รอดและความผาสุก ดินแดนตะวันออกใกล้ในเวลานั้นก็มีการรบพุ่งอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะบริเวณที่อิสราเอลตั้งถิ่นฐานซึ่งอยู่ในแถบที่เรียกว่า “เสี้ยวพระจันทร์แห่งความอุดมสมบูรณ์” (Fertile Crescent) อันเป็นพื้นที่ที่เหมาะกับการเกษตร และยังเป็นจุดเชื่อมทางบกระหว่างทวีปแอฟริกากับทวีปเอเชีย ชนชาติต่างๆ ในยุคนั้นจึงมักต้องการเข้ายึดครองดินแดนในแถบนี้อยู่เสมอ สงครามจึงเป็นสิ่งที่คนในสมัยนั้นรวมถึงผู้เขียนพระคัมภีร์คุ้นตาและประสบ รวมทั้งนำมาใช้บรรยายพระลักษณะหรือพระราชกิจของพระเจ้าด้วย

แนวคิดของพระคัมภีร์เกี่ยวกับสงครามมีดังนี้
• พระเจ้าทรงเป็นดั่งนักรบ (อพย.15:3; 1 ซมอ.7:10; 17:47; สดด.24:8)
• สงครามที่มนุษย์ก่อขึ้นมักมาจากความชั่วร้ายและการเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน (ยก.4:1-2) ในขณะที่สงครามเป็นหนึ่งในเครื่องมือของพระเจ้าในการยับยั้งความชั่วร้ายและความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ (กดว.31:1-3; ยชว.11:18-20; อสย.42:24-25)
• พระบัญญัติสิบประการข้อที่หก (อพย.20:13) ไม่ได้ห้ามการฆ่าคนในทุกกรณี แต่ห้ามการฆาตกรรมซึ่งเป็นการฆ่าคนโดยเจตนา และไม่ใช่การฆ่าที่เกิดขึ้นในสงคราม
• ธรรมบัญญัติสอนให้แสวงหาสันติภาพก่อน และทำสงครามหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ (ฉธบ.20:10-12) ความหวังอันสูงสุดสำหรับคนของพระเจ้าคือ สันติภาพอันยั่งยืนจากพระองค์ (สดด.46:9-10; มคา.4:3-4; ศคย.9:10)
• เราควรรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเองและตอบแทนความชั่วด้วยความดี (มธ.5:38-48; 22:34-40; รม.12:14-21; 1 ปต.3:8-17)

จากที่กล่าวมาจึงพอสรุปได้ว่า สันติภาพเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าและจะเป็นจริงอย่างสมบูรณ์แบบในอาณาจักรนิรันดร์ สงครามเป็นสิ่งที่พระองค์ต้องการให้มนุษย์หลีกเลี่ยง แต่ในบางกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะที่เราเห็นในพันธสัญญาเดิม การต่อสู้ก็ควรจะเกิดขึ้นเพื่อการพิทักษ์ความชอบธรรม ไม่ใช่เพื่อการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนอันมาจากความเห็นแก่ตัว


  • บทความ อ.วิรวิชญ์  รัศมิทัต
  • ภาพจาก www.bible.art